ไม่มีใครดีเท่าแม่มึ-..จิตวิทยาของคนชอบอวดเบ่ง ยกตัวเหนือคนอื่น จริงๆ แล้วแค่เรียกร้องความสนใจ?

“ไม่มีใครดีเท่าแม่มึ-ค่ะ มึ-มันเริ่ดที่สุดแล้วล่ะ..”

ประโยคนี้ที่ใครๆ ก็มักหยิบมาโต้กลับคนที่ชอบอวดเบ่ง ยกตัวเองเพื่อกดข่มคนอื่น คนแบบนี้เป็นคนแบบไหน ทำไมเขาทำแบบนั้น แล้วผู้ที่ได้รับผลกระทบควรรับมืออย่างไร?

หลายคนน่าจะคุ้นตา คุ้นหูกันมาบ้างไม่มากก็น้อย ประโยคนี้เริ่มต้นจากคลิปวิดีโอที่เป็นมีมระหว่างแพร์รี่ ไพรวัลย์ วรรณบุตร คุยกับดีเจมะตูม

หลังดีเจมะตูมพูดคุยหยอกล้อกันเรื่องไข่มุกที่เป็นเครื่องประดับ และมะตูมก็ขิงหรืออวดกลับว่าตัวดีเจมะตูมเองมีมุกแท้นะ จากนั้นแพร์รี่ก็ตอบกลับว่า “ค่า ไม่มีใครดีเท่ามึงกับแม่มึงแล้วค่ะ” “ไม่มีที่ติแล้วค่ะ ชีวิตมึงเพอร์เฟค”

หลังจบประโยคนี้ ทั้งสองก็หัวเราะใส่กัน และดีเจมะตูมก็แนะนำว่าให้เอาประโยคนี้ไปโต้กลับคนที่ชอบทำท่าทีช่างอวด หรือแสดงท่าทีหลงตัวเองใส่คุณกลับบ้าง อารมณ์คล้ายๆ ป้าข้างบ้านที่ลูกคนอื่นแย่ แต่ลูกตัวเองดีหมดนั่นแหละ

Brag

มีมนี้ดังมาก ใครๆ ก็หยิบมาโต้กลับใส่คนจอมอวดทั้งหลาย หลังจากนั้นไม่นาน เอม วิทวัส อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ก็นำไปแต่งเพลง “แม่เธอเก่งที่สุดแล้ว” โดยใช้ท่อนเพลงฮุกคือ “ไม่มีใครดีเท่าแม่มึ-ค่ะ แม่มึ-เก่งที่สุดในโลก มึ-มันเริ่ดที่สุดแล้วล่ะ…”

ล่าสุด มีมนี้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง เมื่อละครทองประกายแสดที่มีใบเฟิร์น พิมพ์ชนก รับบทเป็นนางเอกชื่อทอง กำลังสนทนากับแฟนเก่าของมนตราซึ่งเป็นแฟนคนล่าสุดของทอง หลังจากที่แฟนเก่าเข้ามาขิง หรืออวดตัวเองว่าชีวิตตัวเองดีกว่า สบายกว่า ไม่ต้องง้อผู้ชายเหมือนทอง

ทำให้เมื่อแฟนเก่าหันหลังจากไป ทองจึงพูดขึ้นมาว่า “ไม่มีใครดีเท่าแม่มึ-และแม่มึ-อีกแล้วค่ะ อีนางฟ้า” กลายเป็นมีมให้คนนำไปเล่นไปไวรัลบน TikTok อีกครั้ง

บริบทของการนำประโยค “ไม่มีใครดีเท่าแม่มึ-ค่ะ” มักจะถูกนำมาใช้ในโซเชียลมีเดียหลากหลายแพลตฟอร์มหลายต่อหลายครั้ง โดยเฉพาะใช้กับคนที่ชอบเข้ามาเมนท์ตำหนิ ติติง คนที่ทำหน้าที่เป็นอินฟลูฯ หรือเจ้าของคอนเทนต์อยู่เสมอ เป็นการโต้ตอบระหว่างกันของคนทำคอนเทนต์ และคนที่เข้ามาคอมเมนท์แบบไม่เกรงอกเกรงใจคนทำคอนเทนต์สักนิดเลย

อินฟลูเอนเซอร์สายบิวตี้ น่าจะต้องรับบทหนักบ่อย โดยเฉพาะดารา นางแบบ คนดังทั้งหลาย แต่เอาเข้าจริงก็โดนกันทุกสาย การติติงว่าไม่สวย ไม่ดี ดูแย่ หน้าโทรมจัดๆ ทำคอนเทนต์แบบนี้ออกมาได้อย่างไร โจมตีแบบเสียหาย พูดจาแย่ๆ ใส่อีกฝ่าย แบบคนที่ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลางแห่งความถูกต้อง งดงามที่สุด ดีที่สุด เริ่ดที่สุด เขาทำกัน

อารมณ์คล้ายๆ เป็นนักจับผิดคอนเทนต์ทั้งหลาย ภาพที่เขาเห็นมีแต่ขาวที่สุด ดำที่สุด ไม่มีเทา ทำให้คนที่ชอบคอมเมนท์ประเภทนี้ คล้ายคนที่มีไม้กายสิทธิ์แนบลำตัว ไว้คอยเฆี่ยนตีผู้อื่น ว่าสิ่งนั้นผิด สิ่งนั้นแย่ สิ่งนี้ไม่ถูกต้อง และถ้าใครตอบสนองต่อคนประเภทนี้ ก็เหมือนเรากำลังมอบโล่ห์ มอบมง มอบรางวัลให้เขาได้ทำหน้าที่นี้อย่างภาคภูมิใจต่อไป

การเป็นนักจับผิดคอนเทนต์แบบนี้มักเป็นการให้คอมเมนท์จากคนที่ไม่รู้จักกัน คนไม่เคยเห็นหน้าคาดตากันมาก่อนกระทำใส่กัน มักใช้มากในหมู่ที่ชอบใช้ Profile อวตาร คือไม่เปิดเผยว่าตัวตนของตัวเองเป็นใคร แต่พร้อมจะคอมเมนท์เพื่อโจมตีอีกฝ่าย ในลักษณะที่คนหวังดีและคนที่มีมิตรภาพที่ดีต่อกันจริงๆ เขาไม่ทำกันแบบนี้

เหตุผลทางจิตวิทยา คนชอบอวดเบ่ง เขามีปมด้อยอะไรในใจรึเปล่านะ?

เว็บไซต์ที่ให้ความรู้ด้านจิตวิทยามองปรากฎการณ์ของคนชอบอวดเบ่งเช่นนี้ว่า จริงๆ แล้ว ประเด็นคนชอบอวดเบ่ง ชอบยกตัวเองให้ดูเหนือคนอื่น และกดข่มคนอื่นให้ดูแย่นั้น มันเป็นประเด็นที่นักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย พยายามจะหาคำตอบอยู่เหมือนกัน

คนอวดเบ่งเหล่านี้มักจะพยายามทำพฤติกรรมอวดเบ่ง เพื่อให้ตัวเองถูกชอบ เพื่อทำให้ตัวเองดูดี พูดง่ายๆ ก็คือ การได้ว่า ได้ด่า ได้ตำหนิผู้อื่น เพื่อสะท้อนให้เห็นว่าตัวเองมีมาตรฐานที่สูงกว่า ดูดี ดูเหนือกว่า ดูเป็นคนสำคัญขึ้นมานั่นเอง มันเป็นการโปรโมตตัวเองรูปแบบหนึ่ง

คนที่ชอบอวดเบ่งนี้ มีสองรูปแบบ มีทั้งอวดเบ่งอย่างเปิดเผยและอย่างลับๆ เป็นการโอ้อวดเพื่อให้คนอื่นเห็นความสำคัญของตัวเอง เพื่อเอาชนะใจคนรอบข้าง เพื่อให้ผู้คนชื่นชม เพื่อให้คนสนใจในสิ่งที่ตัวเองโอ้อวด

ผู้คนออกมาอวดเบ่งตัวเองด้วยเหตุผลที่หลากหลาย มีจำนวนมากที่ออกมาโอ้อวดเพราะชีวิตไม่มีความสุข ต้องการเป็นที่รักใคร่ ได้รับคำชื่นชม ต้องการได้รับความสนใจ ต้องการเป็นจุดสนใจ ขาดความนับถือในตัวเองจึงต้องพยายามดูถูกคนอื่นเพื่อให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้นที่ได้ทำหน้าที่เป็นนักจับผิดคอนเทนต์จากผู้ทรงภูมิ ที่มีความเก่งกาจเหนือใคร

วิธีรับมือกับคนชอบอวดเบ่งคือ อย่าไปสนใจ เพิกเฉยไปบ้างก็ได้ เพราะยิ่งคุณสนใจ มันยิ่งเพิ่มเกียรติยศให้เขา ราวกับว่าคุณกำลังให้โล่ห์รางวัลที่เขาโหยหา คุณกำลังให้อาหารเพื่อทำให้เขาอิ่ม

ในชีวิตมนุษย์ต้องพบเจอผู้คนหลากหลาย ควรแยกให้ออกว่าคอมเมนท์แบบใดมีประโยชน์ มีคุณค่า และผลักดันให้ชีวิตคุณดีขึ้น มากกว่าให้ความสำคัญกับนักคอมเมนท์ที่เห็นคุณเป็นกระโถน พ่นคำพูดแย่ๆ ใส่แล้วก็ไป ได้อวดภูมิตัวเองเสร็จก็พอใจ เราเลือกได้ว่าใครหวังดีต่อชีวิตเราจริงๆ ไม่จำเป็นต้องโอบรับทุกคอมเมนท์ที่ไม่สร้างสรรค์

ที่มา – Psychologs, Psychology Today

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา