เชื่อมบ้านเข้ากับโรงพยาบาล “พฤกษา” จับมือ “รพ.วิมุต” ให้บริการด้านสุขภาพของลูกบ้านถึงบ้าน
ปัจจุบัน “บ้าน” นอกจากจะเป็นที่อยู่อาศัย พักผ่อน นอนหลับแล้ว ยังเป็นสถานที่การทำงานของใครหลายคน เรียกได้ว่าในหนึ่งวันชีวิตวนเวียนอยู่แต่ในบ้าน การเพิ่มพื้นที่สีเขียวหรือการออกแบบให้ตัวบ้านเหมาะกับทุกคน ทุกช่วงวัยตั้งแต่เด็กไปจนถึงวัยชรา จึงกลายเป็นสิ่งที่ “พฤกษา” นำมาใช้กับบ้านในโครงการต่าง ๆ
และหลังช่วงโควิดที่ผ่านมา บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) พบว่า คนส่วนใหญ่หันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น บริษัท “พฤกษา” จึงพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อให้สอดคล้องกับการใช้ชีวิตมากขึ้น โดยดึงเอา “กลุ่มโรงพยาบาลวิมุต” ธุรกิจในเครือด้านเฮลท์แคร์เข้ามาร่วมธุรกิจอสังหา เพื่อเชื่อมโยงให้ลูกบ้านเข้าถึงบริการด้านสุขภาพได้ง่ายขึ้น
นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมกะเทรนด์สำคัญของโลกในตอนนี้ คือเรื่อง Health & Well-Being สืบเนื่องจากวิถีการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปหลังโควิด-19 ที่ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจเรื่องสุขภาพและการเป็นอยู่ที่ดีมากขึ้น
พฤกษาจึงใช้จุดแข็งในฐานะผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำรายเดียวของไทยที่มีโรงพยาบาลอยู่ในเครือ พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในรูปแบบ “Multigeneration Wellness Cluster Residence” ขึ้น ภายใต้แบรนด์ใหม่ “ไพนน์ เวลเนส เรสซิเดนซ์” เพื่อเติมเต็มนิยามของคำว่า “บ้านและการใช้ชีวิต” ในเรื่อง “สุขภาพดีและคุณภาพชีวิตดี”
โดยผสานความเชี่ยวชาญจาก “กลุ่มโรงพยาบาลวิมุต” ธุรกิจในเครือด้านเฮลท์แคร์ เพื่อพัฒนาให้เป็นโครงการเวลเนสเต็มรูปแบบของพฤกษา ที่ใส่ใจในทุกกระบวนการพัฒนาบ้านเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี รองรับการอยู่อาศัยของคนทุกเจน พร้อมเชื่อมโยงบริการทางการแพทย์ครบวงจรและการบริการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์มาให้ลูกบ้านถึงบ้าน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่อยู่ดี มีสุข
โครงการ ไพนน์ เวลเนส เรสซิเดนซ์ ประชาชื่น คำนึงถึงสุขภาพ ความสุข และคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้อยู่อาศัยในทุกช่วงวัยเป็นหัวใจสำคัญ เชื่อมโยงเรื่องของสุขภาพ (Health) ให้เข้ากับการใช้ชีวิตในบ้าน (Home) ผ่าน Design, Facilities, Service ต่าง ๆ ตลอดจนการออกแบบบ้านและพื้นที่ส่วนกลางให้สอดคล้องกับฟังก์ชั่น “อยู่ดี”
โดยปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจากกลุ่มวิมุต ร่วมกับการใช้ Universal Design Concept ทำให้ทุก ๆ พื้นที่ในบ้านมีความปลอดภัยกับทุกคน พร้อมนำนวัตกรรม เทคโนโลยี การบริการดูแลสุขภาพและการบริการระดับพรีเมียมเข้ามาใช้ เพื่อทำให้ผู้อยู่อาศัยใช้ชีวิต “มีสุข” ได้ทุกพื้นที่
บริการที่ลูกบ้านของโครงการจะได้รับ อาทิเช่น
- Health to Home: ร่วมมือกับกลุ่มโรงพยาบาลวิมุต จัดเต็มดูแลด้านสุขภาพและการใช้ชีวิตแบบครบวงจร ที่พร้อมดูแลสุขภาพกายใจของลูกบ้าน เช่น บริการแพทย์เยี่ยมตรวจที่โครงการ การจัดกิจกรรมให้กับลูกบ้านที่โครงการ บริการปรึกษาแพทย์ออนไลน์ (ViMUT App)
- Concierge Service: บริการผู้ช่วยส่วนตัว ที่จะมาช่วยจัดการ ทั้งเรื่องบ้าน การใช้ชีวิต ตลอดจนเพิ่มความสะดวกสบายในการอยู่อาศัยทุก ๆ ด้าน เช่น จัดหาแม่บ้านทำความสะอาด จองโต๊ะร้านอาหาร จองตั๋วเครื่องบิน
- Innovation: ส่งเสริมการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืนตามหลัก ESG ด้วยหน้าต่างสูงโปร่ง และสนับสนุนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าด้วยจุดติดตั้ง EV Charging ทุกหลัง พร้อมนำแพลตฟอร์ม MyHuas ควบคุมระบบ Home Automation ที่สร้างความสะดวกสบาย และความปลอดภัยในการใช้ชีวิต
ด้าน แพทย์หญิงกอบกาญจน์ ชุณหสวัสดิกุล ผู้บริหารฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท โรงพยาบาลวิมุต โฮลดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า กลุ่มโรงพยาบาลวิมุต ร่วมคิด นำเสนอไอเดียดีไซน์เพิ่มเติมในจุดที่คิดว่าสามารถช่วยให้การอยู่อาศัยสะดวกสบายขึ้น ผ่านการนำนวัตกรรม เทคโนโลยี และการบริการทางการแพทย์เข้ามาสนับสนุน
สำหรับ “ไพนน์ เวลเนส เรสซิเดนซ์ ประชาชื่น” ราคา 12-20 ล้านบาท เป็นโครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด 3 ชั้น บนทำเลศักยภาพประชาชื่น ให้ความเป็นส่วนตัวกับสังคมคุณภาพเพียง 62 ยูนิต บ้านแต่ละหลังมีพื้นที่ใช้สอย 205-255 ตร.ม. พื้นที่ภายในเหมาะกับทุกขนาดครอบครัว ครบครันไปด้วย 4 ห้องนอน 4-5 ห้องน้ำ ห้องรับแขก Family Area และพื้นที่อเนกประสงค์ที่สามารถปรับเปลี่ยนตามรูปแบบการใช้ชีวิตของคนในครอบครัวได้ทุกช่วงวัย พร้อมที่จอดรถ 3 คัน เสริมความปลอดภัยด้วย CCTV รอบโครงการ
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา