จากอสังหาฯ สู่สุขภาพ! ส่องแผน พฤกษา ที่อนาคตจะมีรายได้จากธุรกิจโรงพยาบาลเท่ากับขายที่พักอาศัย

จากการแข่งขันที่ดุเดือด และภาวะหนี้ครัวเรือนที่สูง ทำให้อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยค่อนข้างมีปัญหา จนทำให้ ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ผู้ก่อตั้ง และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ. พฤกษา โฮลดิ้ง หรือ พฤกษา ต้องปรับกลยุทธ์เพื่อเตรียมดันรายได้ส่วนธุรกิจสุขภาพ หรือ Healthcare ให้มีสัดส่วนเป็นครึ่งหนึ่ง

ถือเป็นอีกความเคลื่อนไหวสำคัญของทั้งตัวบริษัท และอุตสาหกรรมอสังหาฯ เพราะจากเดิมที่ตัวธุรกิจนั้นสร้างรายได้จากการขายที่พักอาศัยเป็นหลัก มาเป็นการสร้างรายได้จากการป้องกัน และการรักษาอาการเจ็บป่วย ทั้งสะท้อนให้เห็นว่า ผู้พัฒนาอสังหาฯ จะอยู่แค่กับธุรกิจเดิมคงไม่ได้

เส้นทางในการเดินหน้าไปถึงแผนดังกล่าวเป็นอย่างไร และภาพรวมธุรกิจของพฤกษาในปี 2024 รวมถึงแผนธุรกิจในปี 2025 จะเน้นไปที่ธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพมากขนาดไหน Brand Inside มีโอกาสรับฟังจากปาก ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ เพื่อสื่อสารมาให้ผู้อ่านได้รับรู้ดังนี้

พฤกษา

อสังหาริมทรัพย์ไทยมูลค่าตลาดเล็กลง

ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ผู้ก่อตั้ง และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ. พฤกษา โฮลดิ้ง เล่าให้ฟังว่า ด้วยภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยหดตัวอย่างต่อเนื่อง เช่น 5-6 ปีก่อน ภาพรวมตลาดมีมูลค่าราว 5 แสนล้านบาท/ปี ในปี 2024 เริ่มเหลือ 3.5 แสนล้านบาท/ปี และอีก 5-6 ปีข้างหน้า อาจเหลือเพียง 2.5 แสนล้านบาทก็เป็นได้ แต่ถึงมูลค่าตลาดลดลง แต่ภาพรวมอุตสาหกรรมนี้ยังสามารถไปต่อได้ และยังไม่ถึงสถานการณ์ที่ทุกรายแข่งขันเรื่องราคา หรือ Red Ocean อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตามการจะเดินหน้าธุรกิจให้สามารถเติบโตไปในสภาพตลาดที่หดตัว พฤกษาจำเป็นต้องปรับตัวด้วยการรุกตลาดสุขภาพมากขึ้น ผ่านธุรกิจเกี่ยวกับการดูแลรักษาสุขภาพ หรือ Healthcare ไล่ตั้งแต่การเปิดโรงพยาบาลวิมุต รวมถึงการนำบริการเกี่ยวกับสุขภาพไปผสานกับโครงการที่พักอาศัยต่าง ๆ ของบริษัท ซึ่งการทำแบบนี้ช่วยเพิ่มความหลากหลายของช่องทางรายได้ และลดความเสี่ยงในการพึ่งพาแต่ธุรกิจที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์เพียงอย่างเดียว โดยปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของพฤกษาแบ่งได้เป็น อสังหาริมทรัพย์ 70% สุขภาพ 20% และอื่น ๆ 10%

พฤกษา

“ในมุมรายได้รวม ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนที่สุดแล้วจะมีรายได้ในสัดส่วน 50% เทียบเท่ากับอสังหาริมทรัพย์ หรือธุรกิจเริ่มต้นของบริษัทได้” ทองมา กล่าว พร้อมมองว่า ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพยังสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนในระยะเวลา 10 ปีหลังจากนี้ ผ่านการมองเทรนด์สุขภาพเป็น 2 มิติ คือ Preventive Care หรือการป้องกันไม่ให้เจ็บป่วย กับ Curative Care หรือการรักษาอาการเจ็บป่วย เพื่อตอบรับความต้องการของผู้บริโภคได้ทุกกลุ่ม

ดันรายได้ Healthcare สู่ 2,600 ล้านบาท

การไปถึงเป้าหมายนั้นได้ ในปี 2025 โรงพยาบาลวิมุต ธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพของกลุ่มพฤกษา เตรียมเดินหน้าเปิดศูนย์การรักษาเฉพาะทาง หรือ COE เพิ่มเติม เช่น โรคปอด, โรคตา และโรคกระเพาะอาหาร เป็นต้น ควบคู่กับการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการแบ่งปันระบบบริหารจัดการต่าง ๆ กับกลุ่มพฤกษา เช่น ระบบบัญชี และระบบไอที รวมถึงการสร้างโรงพยาบาลอีก 3 แห่ง ประกอบด้วย ศูนย์การรักษาเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังย่านทองหล่อ และอีก 2 แห่งอยู่ระหว่างเขียนแบบเพื่อให้บริการที่สุขุมวิท และปิ่นเกล้า คิดเป็นมูลค่าลงทุนกว่า 3,500 ล้านบาท

พฤกษา

จากกลยุทธ์ดังกล่าวทำให้ธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพของกลุ่มพฤกษาจะสร้างรายได้ในปี 2025 ที่ 2,600 ล้านบาท แบ่งเป็น 1,500 ล้านบาท จากโรงพยาบาลวิมุต และ 1,100 ล้านบาท จากโรงพยาบาลวิมุต-เทพธารินทร์ ซึ่งรายได้รวมนั้นเพิ่มขึ้นจากปี 2024 ที่ทำได้ 2,187 ล้านบาท และปี 2023 ที่ทำได้ 1,820 ล้านบาท และปี 2022 ที่ทำได้ 1,211 ล้านบาท ถือเป็นการเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยกว่า 20% ต่อปี ผ่าน 3 ปัจจัยหลักคือ ศูนย์การรักษาเฉพาะทาง, การรักษาผ่านประกัน รวมถึงรายได้จากผู้ป่วยชาวต่างชาติ

ในปี 2024 โรงพยาบาลภายใต้กลุ่มพฤกษามีเตียงรวมทั้งหมดกว่า 400 เตียง และมีเตียงในโรงพยาบาลสำหรับดูแลผู้สูงอายุ 50 เตียง ซึ่งหากการเปิดโรงพยาบาลแห่งใหม่นี้สำเร็จจะทำให้มีเตียงเพิ่มขึ้นเป็น 600-700 เตียง ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า และหากเจาะไปที่รายได้จากการบริการของโรงพยาบาลวิมุตจะพบว่า ในปี 2024 สัดส่วนรายได้อันดับ 1 มาจากการผ่าตัด 20% รองลงมาคือการตรวจสุขภาพ 9% และการรักษาที่เกี่ยวกับเด็ก 9% นอกจากนี้ยังมีการขยายธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพ เช่น การฆ่าเชื้อเครื่องมือแพทย์ เพื่อเพิ่มช่องทางรายได้

พฤกษา

อสังหาฯ ยังไม่ทิ้ง เพราะขอรุกตลาดพรีเมียม

สำหรับฝั่งธุรกิจหลักอย่างอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มพฤกษายังเดินหน้าอย่างต่อเนื่องเช่นเดิม ผ่านการลงทุนในปี 2025 กว่า 5,000 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อที่ดิน อย่างไรก็ตามบริษัทมีแผนขายที่ดินบางแห่งที่ยังไม่ได้ใช้ออกไป คิดเป็นมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท รวมถึงกลับมาพัฒนาโครงการที่พักไปในช่วงโรคโควิด-19 มูลค่ารวมกว่า 2,900 ล้านบาท และที่สำคัญคือการปรับสัดส่วนโครงการต่าง ๆ ให้ตอบรับความต้องการของลูกค้าระดับบน หรือพรีเมียมมากขึ้น ซึ่งปี 2025 จะมีทั้งหมด 31 โครงการที่จะสามารถปิดได้

ขณะเดียวกันบริษัทยังปรับสัดส่วนของที่พักอาศัยแนวราบ จากทาวน์เฮาส์ 60% และบ้านเดี่ยว 40% เป็นทั้งสองรูปแบบมีสัดส่วนเท่ากัน พร้อมสื่อสารการตลาดผ่านช่องทางดิจิทัล และชูแนวคิด Wellness Residence เป็นตัวจูงใจให้เกิดการซื้อ โดยอาศัยการผสานเรื่องสุขภาพกับโรงพยาบาลวิมุต และใช้หลักการ Product, Location และ Well-Being ในการดำเนินธุรกิจเช่นกัน ซึ่งโครงการไฮไลต์ของปี 2025 คือ The Palm ที่เป็นบ้านแนวราบระดับบน ราคา 15-30 ล้านบาท ที่บางนา กม. 8 เป็นต้น

พฤกษา

ในปี 2025 ทางพฤกษาจะเปิดโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมด 22 โครงการ รวมมูลค่า 23,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2024 ที่เปิดตัว 16 โครงการ มียอดจองทั้งหมด 19,800 ล้านบาท และมียอดโอนทั้งหมด 18,700 ล้านบาท โดย 22 โครงการจะแบ่งเป็น 3 ระดับคือ พรีเมียม 47% กลาง 35% และเริ่มต้น 18% ส่วนรูปแบบจะแบ่งเป็น คอนโดมิเนียม 5 โครงการ, บ้านเดี่ยว 9 โครงการ และทาวน์เฮาส์ 8 โครงการ และเพื่อความครบถ้วนของธุรกิจ ปัจจุบันพฤกษามีธุรกิจ Precast ที่ผลิตชิ้นส่วนก่อสร้าง และธุรกิจรับสร้างบ้าน อีกด้วย

ตั้งรายได้ทั้งกลุ่ม 23,500 ล้านบาทในปี 2025

จากกลยุทธ์ทั้งหมด บมจ. พฤกษา โฮลดิ้ง ตั้งเป้ารายได้ในปี 2025 ไว้ที่ 23,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2024 ที่ทำได้ 21,000 ล้านบาท แบ่งเป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 18,700 ล้านบาท และธุรกิจสุขภาพ 2,600 ล้านบาท โดยโครงการที่เปิดใหม่ในปี 2025 ของบริษัทจะเน้นเข้ามาใจกลางเมืองมากขึ้น สะท้อนให้เห็นการรุกตลาดของพฤกษาที่จากเดิมอาจโดดเด่นในย่านชานเมือง รวมถึงเพิ่มภาพลักษณ์ของความพรีเมียมของแบรนด์ด้วยกลยุทธ์ดังกล่าวเช่นเดียวกัน

พฤกษา

สำหรับภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยปี 2024 จะประกอบด้วย โครงการใหม่กว่า 4.21 แสนล้านบาท ลดลง 27% มีโครงการพร้อมขาย 1.28 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% และมีโครงการให้จองรวม 3.13 แสนล้านบาท ลดลง 20% สะท้อนถึงตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่หดตัว และยังไม่มีโครงการเปิดให้จองใหม่เท่าที่ควร อาจเพราะเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่ยังสูง รวมถึงปัญหาหนี้ครัวเรือนในประเทศไทยที่สูงเช่นกัน สร้างปัญหาให้ผู้เล่นในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ต้องปรับตัวอย่างหนัก

“พฤกษา โฮลดิ้ง เดินหน้าสู่อนาคตด้วยความมุ่งมั่นในการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ผ่านการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยคุณภาพสูง การขยายธุรกิจพรีคาสท์และก่อสร้างที่ทันสมัย และการพัฒนาระบบบริการสุขภาพที่ครบวงจร โดยยึดหลักความยั่งยืน (Sustainability) เป็นแกนหลักของการดำเนินงาน เพื่อสร้างสังคมที่ดีและความมั่นคงและเติบโตในระยะยาว” นายทองมา กล่าวทิ้งท้าย

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา