ด้วยสภาวะดอกเบี้ยที่ต่ำและผลพวงจากโควิด-19 เชื่อว่าทุกคนคงแสวงหาทางเลือกสร้างรายได้จากช่องทางหลากหลาย เพื่อเพิ่มรายได้และกระจายความเสี่ยงของที่มาของรายได้ ความสามารถในการลงทุน หรือบริหารเงินออมอาจ กลายเป็นทักษะที่จำเป็นอย่างหนึ่งในอนาคตนี้ ซึ่งการลงทุนก็มีความหลากหลายรูปแบบ ทั้งในรูปของหุ้นกู้, หุ้นในประเทศ, หุ้นต่างประเทศ, กองทุนรวม, กองทุนรวมอีทีเอฟ, กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ หรือโครงสร้างพื้นฐาน เป็นต้น ซึ่งสินทรัพย์แต่ละประเภทก็มีรูปแบบที่แตกต่างกัน มีความเสี่ยง และผลตอบแทนที่ไม่เหมือนกัน ทำให้ผู้ออมหรือผู้ลงทุนต้องทำความรู้ความเข้าใจ การลงทุนด้วยตัวเอง ผ่านบริษัทหลักทรัพย์ที่มีผู้แนะนำการลงทุนทำหน้าที่ให้คำปรึกษาแก่นักลงทุนจึงเป็นเรื่องที่เข้ามาตอบโจทย์ความต้องการด้านการลงทุนให้แก่คนทั่วไปที่ต้องการลงทุนอย่างมีความรู้ความเข้าใจ
นอกจากความรู้พื้นฐานด้านของการลงทุนที่เป็นเรื่องจำเป็นที่ผู้ลงทุนต้องรู้จักให้ความสำคัญแล้ว ผู้ลงทุนยังต้องรู้จัก ติดตาม ดูแล จัดพอร์ต ปรับเปลี่ยนแบบแผนการลงทุนให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา เพื่อให้พอร์ตการลงทุนมีการจัดการอย่างเหมาะสมและสร้างผลตอบแทนตามที่เราต้องการ ซึ่งถึงแม้ทีมวิเคราะห์หลักทรัพย์ หรือผู้แนะนำการลงทุนจะได้ให้คำแนะนำผู้ลงทุนแล้ว แต่บางทีผู้ลงทุนอาจไม่ได้พิจารณาตัดสินใจหรือติดภารกิจ ทำให้ผลการลงทุนไม่ได้ดั่งใจตามที่แนะนำและเราทำแทนให้ก็ไม่ได้ เพราะใบอนุญาตที่เรามีหยุดเพียงแค่การให้คำแนะนำและส่งคำสั่งซื้อขายตามที่ลูกค้าตกลงเท่านั้น
ปัญหาการไม่มีเวลาติดตามดูแลการลงทุนหรือหาข้อมูลและคำแนะนำต่อเนื่องนี้ เชื่อว่าเป็นปัญหาใหญ่ของผู้ต้องการออมเงินและลงทุนในวงกว้าง หลายท่านที่ไม่ต้องการมีภาระของการลงทุนด้วยตัวเองจึงเลือกใช้บริการลงทุนผ่านกองทุนรวม หรือกองทุนส่วนบุคคล เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เข้ามาเป็นตัวช่วย เพราะกองทุนเหล่านี้มีการบริหารจัดการโดยผู้จัดการกองทุนที่จะเข้ามาดูแลบริหารเงินลงทุนแทน แต่ด้วยการบริการที่ใช้บุคคลดูแลอาจทำให้มีต้นทุนสูงและให้บริการได้ ในวงจำกัดและทำให้ไม่สามารถกระจายบริการได้ทั่วถึง และที่สำคัญแม้ว่าท่านจะได้นำเงินไปให้เขาบริหารแล้วแต่หากท่านต้องการเข้าถึงข้อมูลพอร์ตการลงทุนของท่านอย่างเจาะลึก การบริการแบบนั้นก็อาจไม่ตอบโจทย์ได้เต็มที่นัก
ด้วยที่แต่ละบริการมีข้อดีที่สามารถตอบโจทย์ผู้ลงทุนได้ทั้งคู่ หากเราสามารถสร้างบริการที่อยู่ตรงกลางระหว่างการให้คำแนะนำการลงทุนให้ลูกค้าลงทุนด้วยตัวเอง และการบริหารจัดการลงทุนให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่องแบบครบวงจร โดยใช้เทคโนโลยี เพื่อให้สามารถกระจายการบริการ เพื่อให้ผู้ออมเงินทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ในวงกว้างได้มากขึ้นจึงน่าจะเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อคนทั่วไป ซึ่งที่ผ่านมาหลักทรัพย์บัวหลวง ก็ได้ให้การบริการลงทุนหุ้นอัตโนมัติ โดยการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วย โดยมีทีมงานที่เป็นผู้เชี่ยวชาญช่วยดูแลการทำงานและให้บริการกับลูกค้าเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อเราต้องการขยายบริการตอบโจทย์ให้กับผู้ลงทุนให้มากขึ้นไปยังสินทรัพย์ประเภทต่างๆ ได้มากขึ้น เราจึงได้ยกระดับการให้บริการดังกล่าวไปสู่การให้บริการแบบกองทุนส่วนบุคคล ซึ่งจะทำให้การบริหารจัดการพอร์ตการลงทุนของลูกค้าได้โดยอัตโนมัติ รวดเร็ว ไม่ต้องรอคำสั่งจากลูกค้าหรือวุ่นวายด้านเอกสาร ซึ่งผู้ลงทุนจะได้รับความสะดวกสบายที่มีผู้แนะนำและจัดการลงทุนให้ครบวงจร โดยยังสามารถเข้าถึงข้อมูลรายละเอียดพอร์ตการลงทุนที่รวดเร็วเหมือนการลงทุนด้วยตัวเอง ได้รับข้อมูลรายงานผลประกอบการ และยังได้รับความรู้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย
การพยายามตอบโจทย์ลูกค้า โดยการใช้เทคโนโลยีร่วมกับการกำกับดูแลและดำเนินงานที่รัดกุมน่าจะช่วยให้เกิดบริการที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ผู้ออมเงินได้มากขึ้นในอนาคต…รอติดตามชมกันนะครับ
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา