ศึกการบริหารความมั่งคั่งของไทยกำลังระอุขึ้นไปอีกขั้น เมื่อ LGT จากประเทศลิกเตนสไตน์ ได้มาเปิดสำนักงานในประเทศไทย ถึงแม้ว่าจะเป็นน้องใหม่ในไทย แต่สำหรับในเอเชีย LGT ถือว่าไม่ธรรมดา
หลังจากที่ธนาคารใหญ่ๆ หลายแห่งของไทยเริ่มมีบริการบริหารความั่งคั่งให้กับลูกค้า หรือ Private Wealth รวมไปถึงการแข่งขันในหลายๆ ด้าน เช่น บริการสุด Exclusive ต่างๆ ฯลฯ แต่ล่าสุด Private Bank จากลิกเตนสไตน์ อย่าง LGT นั้นเป็นน้องใหม่รายล่าสุดที่เข้ามาในประเทศไทย แต่ชื่อชั้นและความใหญ่โตระดับเอเชียถือว่าไม่ธรรมดา
สำหรับกิจการในไทยของ LGT จะดำเนินการภายใต้ชื่อ บริษัทหลักทรัพย์ แอลจีที (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่ง LGT พึ่งได้รับใบอนุญาตในช่วงปลายปีที่แล้ว โดยสำนักงาน LGT ในประเทศไทยพร้อมให้บริการด้านการลงทุน และการบริหารความมั่งคั่งระดับโลกแก่ลูกค้า รวมไปถึงพร้อมส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานด้านไพรเวทแบงค์ของ LGT ในฮ่องกงและสิงคโปร์อีกด้วย
ชื่อชั้นไม่ธรรมดา
LGT นั้นให้บริการลูกค้าความมั่งคั่งสูงในทวีปเอเชียมาเป็นเวลานานกว่า 30 ปีแล้ว ข้อมูลล่าสุดจาก Asian Private Banker ในปี 2017 นั้น LGT มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารหรือ AUM เป็นอันดับที่ 12 ในเอเชีย มูลค่ากว่า 63,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
นอกจากนี้ LGT ยังบริหารงานโดยราชวงศ์แห่งลิกเตนสไตน์ (Liechtenstein Princely Family) มาเป็นเวลานานกว่า 80 ปี โดยตัวเลข ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2018 ระบุว่า LGT จัดการสินทรัพย์มีมูลค่ารวมทั้งสิ้นกว่า 200,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และยังมีสินทรัพย์บางส่วนของราชวงศ์ให้ทาง LGT ช่วยบริหารอีกด้วย
ตลาดไทยยังสำคัญ
สำหรับสาเหตุที่ LGT สนใจในตลาดของประเทศไทยนั้น เนื่องจากธุรกิจบริหารความมั่งคั่งไทยเติบโต จะเห็นได้จากธนาคารต่างๆ เริ่มมีบริการบริหารความมั่งคั่งให้กับลูกค้า และประเทศไทยมีกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพสูง นอกจากนี้คือ หน่วยงานกำกับดูแลเริ่มที่จะเปิดกว้างให้นักลงทุนสามารถลงทุนในต่างประเทศได้
เรื่องอื่นๆ ที่คุณต้องรู้
Brand Inside รวบรวมข้อมูลของ LGT ที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับ Private Bank เจ้าใหม่ในไทย
- Private Bank ในไทยหลายที่กำลังจับตามอง LGT เพราะว่าได้ Private Banker ตัวท็อปของวงการจาก Morgan Stanley Private Wealth มาร่วมงาน
- ผู้บริหารของ LGT ไม่บอกสินทรัพย์ขั้นต่ำที่ลูกค้าสามารถใช้บริการได้ แต่ได้ไบ้ว่าไม่แตกต่างจากธนาคารของต่างประเทศอื่นๆ ซึ่ง Brand Inside เข้าใจว่าขั้นต่ำอยู่ที่ประมาณ 2 ล้านเหรียญสหรัฐ (หรืออาจมากกว่านั้น)
- สำหรับการเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการนั้นผู้บริหารไม่ได้กล่าวถึงเรื่องนี้
- ในปี 2017 นั้น LGT ได้ซื้อกิจการ ABN AMRO Private Banking ในเอเชียและตะวันออกกลาง ทำให้ขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ได้มากขึ้น
- อีกเรื่องที่ LGT เน้นย้ำเป็นอย่างมากคือ ข้อมูลความเป็นส่วนตัวของลูกค้า
- LGT มีโมเดล Portfolio ที่บริหารให้กับราชวงศ์แห่งลิกเตนสไตน์ให้กับลูกค้าที่สนใจโมเดลนี้ด้วย
- มุมมองของ LGT คือ มองการลงทุนระยะยาว และกระจายความเสี่ยง เป็นเรื่องสำคัญ
- โมเดล Portfolio ของ LGT ล่าสุดคือ เน้นถือหุ้น 49% ตราสารหนี้ 33% เงินสด 5% และสินทรัพย์อื่นๆ 13%
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา