PRIMO ผู้พัฒนา Enterprise Loyalty CRM ของไทย เปิดตัว “น้องใบเตย” Agentic AI ที่ทำงานบนระบบ Loyalty CRM และสามารถใช้งานได้จริงแล้ววันนี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อพลิกโฉมการทำงานของทีม CRM และการตลาด จากเดิมที่ระบบ CRM เป็นเพียงเครื่องมือเก็บข้อมูล มาสู่การเป็นผู้ช่วยที่สามารถ “เข้าใจลูกค้า” และ “แนะนำกลยุทธ์” ได้ทันที
จาก “มีข้อมูล” แต่ “ไม่มีเวลาดู” สู่ AI ที่เป็นผู้ช่วยตัวจริง
ในยุคที่ทุกธุรกิจต่างพูดถึงความสำคัญของข้อมูล (Data) PRIMO ซึ่งเป็นผู้ให้บริการระบบ CRM ระดับองค์กร มองเห็นปัญหาสำคัญที่หลายบริษัทต้องเผชิญ นั่นคือแม้จะมีการเก็บข้อมูลลูกค้ามหาศาล แต่กลับติดกับดักเรื่อง “คน” และ “เวลา” ที่มีจำกัด
ทีมการตลาด, ทีม Data, และทีม Operation มักต้องรับผิดชอบงานหลายด้านพร้อมกัน ทำให้การจะนำข้อมูลลูกค้ามาวิเคราะห์เชิงลึกเพื่อหา Insight กลายเป็นเรื่องที่ใช้เวลานานและมักถูกลดความสำคัญลงไป นี่คือจุดที่ PRIMO เชื่อว่า AI ไม่ควรเป็นแค่ฟีเจอร์ที่ดูทันสมัย แต่ต้องเข้ามาเป็นผู้ช่วยที่ทำงานแทนมนุษย์และแก้ปัญหานี้ได้จริง
วีร์ สิรสุนทร, CEO ของ PRIMO กล่าวว่า “เราสร้าง ‘น้องใบเตย’ ขึ้นมาจากปัญหาจริงของลูกค้า ไม่ใช่เพราะอยากมีฟีเจอร์ AI เหมือนใคร เราอยากให้ทีม CRM ทำงานง่ายขึ้น ประหยัดเวลา และมีพลังในการตัดสินใจมากขึ้น โดยไม่ต้องรอทีม data หรือ analyst เหมือนที่ผ่านมา”
“ใบเตย” ทำอะไรได้บ้าง?
ความสามารถของ “น้องใบเตย” ถูกออกแบบมาเพื่อลดขั้นตอนการทำงานที่ซับซ้อนของมนุษย์ โดยทั้งหมดเกิดขึ้นผ่านการสนทนารูปแบบ Chat ที่เข้าใจง่าย ไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ด
- ตอบคำถามและสรุปข้อมูลได้ทันที: แทนที่ทีมงานจะต้องเสียเวลาเปิดไฟล์ Excel หรือ Dashboard เพื่อหาข้อมูล เช่น ยอดขาย, จำนวนสมาชิก, หรือผลตอบรับแคมเปญ ก็สามารถถาม “ใบเตย” ที่จะดึงข้อมูลสรุปมาให้ได้เลย
- ดึง Insight เชิงลึกอัตโนมัติ: สามารถสรุปข้อมูลเชิงลึกที่ซับซ้อนขึ้น เช่น พฤติกรรมการใช้คะแนนของลูกค้าแต่ละกลุ่ม หรือกลุ่มลูกค้าที่ตอบสนองต่อแคมเปญการตลาดแต่ละประเภทได้ดีที่สุด
- ให้คำแนะนำเชิงกลยุทธ์: นอกจากสรุปข้อมูลในอดีต “ใบเตย” ยังสามารถให้คำแนะนำสำหรับอนาคตได้ เช่น การแนะนำแคมเปญต่อไปที่เหมาะสม หรือการเสนอสิทธิพิเศษที่น่าจะตรงใจลูกค้าแต่ละ Segment
- จัดการข้อมูลการเงินที่ซับซ้อน: สามารถสรุปข้อมูลที่เคยเป็นเรื่องยุ่งยากและต้องอาศัยทีมการเงิน เช่น ต้นทุนของคะแนนสะสม (Cost per Point) หรือภาระผูกพันทางบัญชีจากคะแนน (Point Liabilities) มาให้ทีมการตลาดเข้าใจได้ง่ายๆ
วิสัยทัศน์ต่อไป: AI ที่ไม่ใช่แค่ ‘คิด’ แต่ ‘ลงมือทำ’ ให้ด้วย
PRIMO เปิดเผยว่า “ใบเตย” ที่เปิดตัวในวันนี้เป็นเพียงเฟสแรก และความสามารถต่อไปที่กำลังจะตามมาในเร็วๆ นี้ คือการทำให้ AI สามารถ Trigger Action หรือ “ลงมือทำ” ได้ทันทีจาก Insight ที่ค้นพบ
ตัวอย่างเช่น เมื่อ AI ตรวจพบลูกค้ากลุ่มที่มีความเสี่ยงจะเลิกใช้งาน (Churn Risk) ระบบจะไม่ใช่แค่รายงานผล แต่จะแจ้งเตือนพร้อมแนะนำโปรโมชันหรือสิทธิพิเศษที่เหมาะสมเพื่อส่งให้ลูกค้ากลุ่มนั้นได้ทันที หรือแม้กระทั่งการทำ Re-targeting ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยลดภาระงานของทีมการตลาดลงได้อย่างมหาศาล
เบื้องหลังความสำเร็จ: ความเชี่ยวชาญด้าน CRM และ AI ที่สั่งสมมานาน
วีร์ กล่าวเสริมว่า เหตุผลที่ PRIMO สามารถพัฒนา Agentic AI ที่ใช้งานได้จริงขึ้นมาได้นั้น มาจากความเชี่ยวชาญที่บริษัทสั่งสมมานานทั้งในฝั่ง CRM และ AI จากการพัฒนาระบบ Loyalty ให้กับลูกค้าระดับ Enterprise ทำให้ทีมมีความเข้าใจในเชิงลึก ทั้งโครงสร้างข้อมูล, พฤติกรรมของลูกค้าในระบบสะสมแต้ม และ Workflow การทำงานจริงของทีมการตลาด
สิ่งนี้ทำให้ PRIMO ไม่ได้สร้าง AI ขึ้นมาจากทฤษฎี แต่สร้างขึ้นจากความเข้าใจในปัญหาจริง ทำให้สามารถพัฒนาเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์และใช้งานได้จริง ซึ่งปัจจุบัน “น้องใบเตย” ได้เปิดให้ใช้งานแล้วในระบบ PRIMO Loyalty CRM และมีลูกค้าองค์กรหลายรายเริ่มใช้งานแล้ว
“เราไม่ได้สร้าง AI เพื่อให้ดูทันสมัย แต่เพราะเราอยากให้ทีม Loyalty CRM ทำงานได้ง่ายขึ้น และมีความสามารถในการแข่งขันที่มากขึ้น”
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา