เว็บไซต์ Priceza.com ได้มีการรวบรวมรายการกลุ่มสินค้าที่ผู้บริโภคชาวไทยนิยมค้นหาเพื่อเปรียบเทียบราคาบนเว็บไซต์ไพรซ์ซ่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 ถึง 31 ธันวาคม 2560 จากยอดการค้นหาเฉลี่ยมากกว่า 10 ล้านครั้งต่อเดือน พบข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้
กลุ่มสินค้าที่ได้รับความนิยมค้นหาและเปรียบเทียบราคามากที่สุด 3 อันดับแรกคือ เสื้อผ้าและแฟชั่น 14.77 % เครื่องใช้ไฟฟ้า 13.96% และ โทรศัพท์อุปกรณ์สื่อสาร 11.38% ตามลำดับ โดยสินค้าที่มีการค้นหาสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ iPhone 5s iPhone 6s และกล้อง Fuji X-A2 วันและช่วงเวลาที่มีผู้เข้าใช้บริการค้นหาสินค้ามากที่สุดคือ วันจันทร์ ช่วงเวลาระหว่าง 21.00-21.59 น. วันอังคาร ช่วงเวลาระหว่าง 14.00-14.59 และวันศุกร์ ช่วงเวลาระหว่าง 15.00-15.59 น.ตามลำดับ
นอกจากนี้ ยังพบข้อมูลที่น่าสนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับพฤติกรรมการซื้อสินค้าทางออนไลน์ว่า ยอดการซื้อสินค้าออนไลน์เฉลี่ยอยู่ที่ 1,800 บาทต่อออเดอร์ โดยยอดสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านสมาร์ทโฟนอยู่ที่ 1,177 บาทต่อออเดอร์ และมียอดสั่งซื้อผ่านคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊คหรือพีซีอยู่ที่ 2,008 บาทต่อออเดอร์
ธนาวัฒน์ มาลาบุปผา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และหนึ่งในผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Priceza.com กล่าวว่า
“จากข้อมูลที่เรารวบรวมได้แสดงให้เห็นว่าสินค้ากลุ่มเสื้อผ้าและแฟชั่น และกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้ายังคงเป็นกลุ่มสินค้าที่ผู้บริโภคนิยมค้นหาและเปรียบเทียบราคาก่อนซื้ออย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังชี้ให้เห็นว่า เมื่อต้องสั่งซื้อสินค้าที่มีมูลค่าสูง ผู้บริโภคจะเลือกทำรายการสั่งซื้อผ่านคอมพิวเตอร์มากกว่าการทำรายการสั่งซื้อผ่านสมาร์ทโฟน”
นายธนาวัฒน์ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “หนึ่งในเทรนด์ร้อนอีคอมเมิร์ซปี 61 คือ “UGC” (User Generated Content) หรือการสร้างคอนเทนต์จากผู้ใช้งานจริง ซึ่งเทรนด์นี้เป็นกระแสมาอย่างต่อเนื่อง โดยเห็นได้จากการที่ผู้ใช้งานจริงถ่ายทอดประสบการณ์การใช้งานสินค้าหรือบริการต่างๆผ่านการเขียนบล็อก การโพสต์บนโซเชียลมีเดีย รวมถึงการรีวิวบนแพลตฟอร์มต่างๆ โดยเฉพาะบนไพรซ์ซ่าเองมีการรีวิวจากผู้ใช้งานถึง 43,135 รีวิว และจากการทำ A/B Testing ของไพรซ์ซ่า โดยทำการเปรียบเทียบสินค้าชนิดเดียวกันระหว่างสินค้าที่มีการรีวิวจากผู้ใช้งานจริง กับไม่มีการรีวิว พบว่า สินค้าที่มีการรีวิวนั้น มียอดการคลิกสินค้าสูงกว่าถึง 22.89% ดังนั้นเรามองว่าในปี 61 นี้ UGC จะยังเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลที่ได้มีประโยชน์ต่อธุรกิจอีคอมเมิร์ซในการที่จะนำข้อมูลไปวิเคราะห์และต่อยอดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการต่อไป”
นอกจากนี้ ไพรซ์ซ่ายังมีแผนที่จะมุ่งพัฒนา Big Data เพื่อตอบโจทย์ความต้องการผู้ใช้งานไพรซ์ซ่า ในฐานะที่เป็น Shopping Search Engine เพื่อเพิ่มความสะดวก และง่ายต่อการค้นหาสินค้าและเปรียบเทียบราคา รวมถึงพัฒนาระบบฐานข้อมูลต่างๆ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการรายงานผลสำหรับร้านค้า โดยมุ่งหวังที่จะสร้างระบบนิเวศอีคอมเมิร์ซให้เกิดความเป็นธรรมทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ตามวิสัยทัศน์ขององค์กร
“ด้วยเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานที่พัฒนาและเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคเข้าถึงการใช้งานอินเทอร์เน็ตมากขึ้นและมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กฎหมายและการสนับสนุนของภาครัฐผ่านนโยบายไทยแลนด์ 4.0 การเติบโตของธุรกิจโลจิสติกส์ที่มีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามานำเสนอบริการและนวัตกรรมใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางบวก คือ มีความคุ้นชิน รู้สึกได้รับความสะดวกสบายและหันมาสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์มากขึ้น ปัจจัยเหล่านี้ ล้วนมีส่วนในการเติบโตของไพรซ์ซ่าและอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยทั้งสิ้น เราคาดการณ์ว่า ในปี 2561 ไพรซ์ซ่าจะเติบโตขึ้นอีก 50% เป็น 187 ล้านเซสชั่นทั้งปี และตั้งเป้าว่าภายในสิ้นปี 2561 จะมีฐานผู้ใช้บริการเฉลี่ยราวเดือนละ 18 ล้านคน” นายธนาวัฒน์กล่าวสรุป
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา
Related