บริษัทจีนเบี้ยวลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด Premier League ถึง 6.2 พันล้านบาท อ้าง COVID-19 กระทบธุรกิจ

พรีเมียร์ลีก ลีกฟุตบอลที่ดีที่สุดของโลก ได้ประกาศยกเลิกสัญญากับ PPTV บริษัทถ่ายทอดสดกีฬาในประเทศจีน หลังจาก PPTV เบี้ยวหนี้กว่า 6,200 ล้านบาท ขณะเดียวกันสื่อต่างประเทศก็มองว่าเรื่องการเมืองก็กดดันในเรื่องนี้ด้วย

Premier League พรีเมียร์ลีก เชลซี ลิเวอร์พูล
Trent Alexander-Arnold of Liverpool scores his team’s second goal from a free kick during the Premier League match between Liverpool FC and Chelsea FC at Anfield on July 22, 2020 in Liverpool (Photo by Phil Noble/Pool via Getty Images)

PPTV ผู้ถือลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด Premier League ลีกฟุตบอลที่ดีที่สุดของอังกฤษ ได้เบี้ยวค่าลิขสิทธิ์มากถึง 213 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราวๆ 6,200 ล้านบาท โดยเม็ดเงินที่ต้องจ่ายนี้ครบกำหนดในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทำให้ทาง Premier League ต้องยกเลิกสัญญาทั้งหมดที่ทำไว้กับบริษัท และยังทำให้การถ่ายทอดสด Premier League ซึ่งกำลังจะเริ่มต้นฤดูกาล 2020-21 ซึ่งจะเริ่มไม่กี่วันข้างหน้านั้นจะไม่มีผู้ถือลิขสิทธิ์อย่างเป็นทางการในจีนทันที

สำหรับ PPTV เป็นแพลตฟอร์มถ่ายทอดสดฟุตบอลออนไลน์ใหญ่สุดในประเทศจีน และยังถือลิขสิทธิ์ฟุตบอลลีกดังในทวีปยุโรป อื่นๆ เช่น La Liga สเปน Serie A อิตาลี นอกจากนี้ยังเป็นบริษัทบริหารลิขสิทธิ์กีฬาต่างๆ เช่น ขายลิขสิทธิ์ให้กับช่องทีวีอื่นๆ เช่น CCTV ซึ่งเป็นฟรีทีวีในประเทศจีน หรือทีวีบอกรับสมาชิกในประเทศจีนรายอื่นๆ

โดยเจ้าของตัวจริงของ PPTV คือกลุ่ม Suning นั้นทำธุรกิจค้าปลีกในประเทศจีน ไม่เพียงแค่นั้น Suning ยังเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอล Inter Milan ในอิตาลีอีกด้วย

PPTV เองได้เซ็นสัญญาลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด Premier League ในประเทศจีนตั้งแต่ฤดูกาล 2016 เป็นต้นมา และรอบลิขสิทธิ์ล่าสุด 2019-2021 นั้นได้เซ็นสัญญาเป็นเงินมากถึง 650 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งลิขสิทธิ์ในประเทศจีนในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ถือว่าเป็นรายได้สำคัญนอกสหราชอาณาจักรของลีกฟุตบอลอังกฤษนี้อย่างมาก ถ้าหากไม่นับจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฮ่องกง และตะวันออกกลาง

ทางด้านตัวแทนของ PPTV ได้ให้เหตุผลว่า COVID-19 นั้นทำให้ทางบริษัทต้องเจรจากับ Premier League หลายรอบจนท้ายที่สุดไม่สามารถตกลงกันได้ ขณะที่ทางลีกฟุตบอลอังกฤษนั้นไม่ได้มีการกล่าวเพิ่มเติมอะไรนอกจากเรื่องการยกเลิกสัญญา

อย่างไรก็ดีมีคาดการณ์ว่าส่วนหนึ่งที่ PPTV เบี้ยวหนี้นั้นอาจถูกกดดันมาจากสถานการณ์ด้านการเมืองระหว่างประเทศของสหราชอาณาจักร-จีน ที่ความสัมพันธ์แย่ลงจากเรื่องของฮ่องกง การให้ความเห็นเรื่องชนกลุ่มน้อยอุยกูร์ รวมไปถึงเรื่องของ Huawei

นอกจากนี้ในช่วงก่อนที่ Premier League จะจบฤดูกาล 2019-20 ไม่นาน ทาง CCTV ของจีนที่ได้ย้ายการถ่ายทอดสดฟุตบอลลีกดังของอังกฤษนี้ไปยังช่องรองมาแล้ว แทนช่อง CCTV 5 ซึ่งเป็นช่องกีฬาหลักของประเทศ
โดย Global Times สื่อในจีน ได้อ้างอิงตัวแทนของ CCTV ให้เหตุผลว่า ช่องรองของ CCTV มีระบบภาพแบบ HD ซึ่งคมชัดกว่า ขณะที่สื่อต่างประเทศกลับมองว่าเหตุผลการเมืองกดดันในเรื่องนี้ก่อนที่จะมีการยกเลิกสัญญาของ PPTV ที่ได้กล่าวไป

ที่มา – Euro News, CNBC, Evening Standard

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

mm
Content Writer ที่สนใจในเรื่องของตลาดทุนทั้งในและต่างประเทศ กลุ่ม TMT (Technology, Media, Telecom) การควบรวมกิจการ (M&A) นโยบายทางเศรษฐกิจของไทยและต่างประเทศ รวมถึงสิ่งละอันพันละน้อยทางธุรกิจที่น่าสนใจ