ในห้วงเวลาที่เทรนด์ความสวยแบบเกาหลีกำลังมาแรง สาวเกาหลีมากมายก็ได้ใช้จุดนี้ สร้างตัวเองให้เป็นบิวตี้บล็อกเกอร์ โดยใช้ช่องทางออนไลน์ต่างๆ ให้เกิดประโยชน์
แต่บิวตี้บล็อกเกอร์ที่ดังที่สุดในเวลานี้คือสาวเจ้าของฉายา “Pony” ที่มียอดวิวแต่ละคลิปเฉลี่ยเกินล้านวิว
Pony มีชื่อจริงว่า Hye-Min Park ช่องทางยูทูบของเธอตอนนี้มีผู้ติดตามกว่า 1.7 ล้านคน ส่วน Instagram มีคนติดตามถึง 2.5 ล้านคน สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เธอโด่งดังทั่วโลก คือมีซับไตเติลภาษาอังกฤษในทุกคลิป ดูกันได้ทั่วโลก ไม่จำกัดเฉพาะคนเกาหลีใต้เพียงอย่างเดียว
นอกจากสกิลทักษะการแต่งหน้าขั้นเทพ ถึงขนาดสามารถเปลี่ยนชาวเอเชียให้ดูเป็นสาวยุโรปได้แล้ว (ดูจากคลิปที่เธอแต่งตัวเองเป็น Kylie Jenner ดาราสาวชาวอเมริกันชื่อดัง) เรื่องราวของตัว Pony ยังน่าสนใจไม่น้อย ไม่แปลกนักที่เธอจะดังและแตกต่างจากบิวตี้บล็อกเกอร์คนอื่น
เริ่มจากพื้นเพของตัว Pony เอง ที่เธอตั้งใจทำงานเป็นกราฟิกดีไซเนอร์มาก่อน และเคยทำงานเป็นสาวออฟฟิศมาก่อนแต่ก็ไม่ได้อินอะไรกับมันมากนัก
จุดพลิกผันของเธอคือระหว่างที่ทำงานเป็นดีไซเนอร์ มีบริษัทสิ่งพิมพ์มาเสนอให้เธอเขียนหนังสือเมคอัพสอนแต่งหน้า ซึ่งนับถึงตอนนี้เธอมีหนังสือออกพิมพ์ขายแล้วถึง 4 เล่มให้แฟนๆ ได้ตามซื้อกัน (ข่าวร้ายคือเป็นภาษาเกาหลีล้วนๆ)
ความโดดเด่นของ Pony คือกล้าใช้สีสดๆ แบบไม่กลัวใคร เธอมีผมสีชมพูอันเป็นเอกลักษณ์ แต่ก็ไม่ทิ้งการใช้สีแบบอื่นๆ
อีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้เธอโด่งดังคือ เธอเป็น make-up artist ส่วนตัวให้ “CL” หรือ Chaelin Lee นักร้องสาวชื่อดังของเกาหลีแห่งวงเกิร์ลกรุ๊ป 2NE1 ที่กำลังได้รับความนิยมในอเมริกา ส่งผลให้ตัว Pony โด่งดังในอเมริกาตามไปด้วย (สองสาวชอบถ่ายรูปด้วยกันใน Instagram อยู่บ่อยๆ)
นอกจากนี้ Pony พยายามเข้าถึงวัฒนธรรมของประเทศอื่นๆ เพื่อตอบโจทย์ของสาวๆ ทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะแค่ในเกาหลีใต้ อย่างเช่น ฮาวทูแต่งหน้าเวลาใส่ฮิจาบที่ทำเอาใจแฟนคลับในโลกมุสลิม หรือการแต่งหน้าเป็นคนดัง เปลี่ยนเบ้าหน้าเอเชียให้เป็นลุคฝรั่ง
ความโด่งดังของ Pony ส่งผลให้เธอมีเครื่องสำอางค์แบรนด์ตัวเองเรียบร้อยแล้ว โดยจับมือกับบริษัท Memebox บริษัทเครื่องสำอางค์แบบสมัครสมาชิกรายเดือนในเกาหลีใต้
อย่างไรก็ตาม แม้เธอกลายเป็นบิวตี้บล็อกเกอร์ชื่อดังระดับโลก แต่ Pony มีความเป็นส่วนตัวสูงมาก พยายามรักษาชีวิตส่วนตัวแยกจากชีวิตการทำงาน เวลาที่เธอเดินไปไหนมาไหน มักใส่ผ้าปิดปากตลอด เพื่อป้องกันการถูกถ่ายรูปโดยที่เธอไม่ได้ยินยอม
ที่มา – Bustle
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา