Pokémon GO ได้สร้างกระแสของเกมจนดังไปทั่วโลก จนคนที่ไม่เล่นเกมยังต้องสนใจ หลายคนถึงกลับอยากขอลองเล่นสักครั้ง ดูซิว่ามันสนุกยังไง (แต่ยังเล่นไม่ได้ในไทย) อ้าว! ยังเล่นไม่ได้แล้วทำไมเป็น Talk of The Town ขนาดนี้ Brand Inside เลยทำการรวบรวมข้อมูล และสอบถามจากผู้เล่นระดับ Real Gamer คนหนึ่ง แล้วสรุปให้เข้าใจง่ายๆ ว่าทำไม Pokémon GO ถึงได้กระหึ่มขนาดนี้
สิ่งที่ทำให้ Pokémon GO เป็นที่กล่าวถึงแบบถล่มทลายเหนือความคาดหมาย น่าจะเป็นการปฏิวัติเกม Pokémon และปฏิวัติวงการเกม ด้วยการทำให้โปเกมอนในเกม ออกมาโลดแล่นอยู่บนโลกเสมือนจริง โดยใช้เทคโนโลยี AR: Augmented Reality และระบบ Location Base ซึ่งหลายคนเชื่อว่า จะดังระเบิดเฉพาะกับเกม Pokémon GO เท่านั้น จากฐานผู้เล่นที่ติดตามในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา (2016 ครบรอบ 20 ปีเกมตระกูล Pokémon พอดี) และไม่เชื่อว่าจะเกิดขึ้นกับเกมอื่น
ยิ่งกว่านั้นบรรดาผู้เล่นที่รอ Pokémon GO แบบใจจดจ่อ สุดท้ายไม่ได้เล่น (รวมถึงไทยด้วย) ถึงขนาดมีความพยายาม สมัคร Apple ID ของออสเตรเลีย (ซึ่งเปิดให้เล่นได้แล้ว) หรือหาไฟล์ APK ของแอนดรอยด์มาติดตั้ง สุดท้ายผู้พัฒนา Niantic Labs ผู้พัฒนาได้จัดการล็อกโซนการเล่น จึงอดกันถ้วนหน้า
ความวุ่นวายที่เริ่มต้นขึ้นพร้อม Pokémon GO ในประเทศต่างๆ
ไหนๆ ก็ยังไม่ได้เล่นแล้ว ลองมาดูสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศอื่นไปพลางๆ ก่อน ขณะที่ประเทศไทยมีข่าวลือว่าจะเปิดให้บริการอยู่หลายรอบ แต่สุดท้ายก็เป็นแค่ข่าวลือ
- สถานีตำรวจในออสเตรเลีย ถูกกำหนดให้เป็น PokeStop จุดเก็บของและยิม ทำให้มีผู้เล่นเกมขึ้นไปบนสถานีตำรวจเป็นจำนวนมาก สุดท้ายเจ้าหน้าที่ต้องประกาศว่าไม่ต้องเข้ามาในสถานีก็สามารถเก็บไอเทมได้
- ความนิยมของ Pokémon GO สูงเกินกว่าที่ Niantic Lab คาดไว้ ทำให้ต้องเร่งแก้ปัญหาเซิร์ฟเวอร์ ส่งผลให้การเปิดให้บริการในประเทศอื่นๆ เลื่อนออกไป
- พลังของ Pokémon GO ทำให้หุ้นของ Nintendo ในตลาดหลักทรัพย์โตเกียวเพิ่มขึ้นทันที 10% ต้องบอกว่า Pokémon GO ไม่ใช่ผลงานของ Nintendo โดยตรง แต่เป็นความร่วมมือระหว่าง The Pokémon Company International ที่ Nintendo ถือหุ้นเพียง 1 ใน 3 (ที่เหลือถือโดย Game Freak และ Creatures บริษัทที่พัฒนาเกมในซีรีส์ Pokemon) และ Niantic Labs ผู้พัฒนาเกม Ingress ที่แยกตัวมาจาก Google แต่คนส่วนใหญ่ก็จดจำได้ว่าแบรนด์ Pokémon เป็นของ Nintendo
- มีการใช้ Pokémon GO ไปในทางมิจฉาชีพพอสมควร เช่น การดักปล้นจี้ในจุด PokeStop หรือการก้มหน้าก้มตาเล่นของผู้เล่น Pokémon ก็อาจทำให้โดนทำร้ายได้
- เดิมผู้พัฒนา Pokémon สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้เล่นได้แบบล้วงลึกอย่างมาก แต่ภายหลังได้ปรับแก้ไขแล้ว (อย่างไรก็ตาม เวลาจะโหลดแอป หรือเกมมาเล่น ก็อ่านเงื่อนไขก่อนกดยอมรับนะครับ)
- Ninatic บอกว่าจะเปิดให้บริการ Pokémon GO ในอีก 200 ประเทศเร็วๆ นี้ (และหวังว่าจะมีประเทศไทยอยู่ในนั้นด้วย)
โอกาสของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Pokémon GO
- ในธุรกิจเพลง ทาง Spotify บอกว่าเพลงจาก Pokémon ได้รับความนิยมสูงขึ้น 3 เท่าหลังจาก Pokémon GO เปิดให้ดาวน์โหลด ตัวอย่างเพลง เช่น Pokemon Theme, Pokerap, Pokemon Johto, Go Pokemon Go และ I Want To Be A Hero ลองไปหาฟังกันได้
- ยอดผู้ใช้งาน Pokémon GO ต่อวันสูงกว่า Twitter ไปแล้วเรียบร้อย
- เกิดธุรกิจใหม่ บริการขับรถพาผู้เล่นไล่ตระเวนจับ Pokémon ซึ่งเกิดขึ้นแล้วในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา
- มีการใช้ Pokémon GO เพื่อประโยชน์ทางการตลาด เช่น ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ที่ยินดีต้อนรับนักเล่น Pokémon ให้เข้ามาใช้บริการ ลองนึกว่าถ้ามีโปรโมชั่นเด็ดๆ หรือมีการติดตั้ง PokeStop, Gym หรือกิจกรรมอื่นใดเพื่อดึงดูดผู้เล่น รับรองว่าร้านนั้นระเบิดแน่นอน
- คาดการณ์ว่า Pokémon GO จะสามารถทำรายได้มากกว่า 1,000 ล้านเหรียญได้ ด้วยการขายไอเทมในเกมเป็นหลัก (โดยเฉพาะ PokeBall)
- ผู้ให้บริการมือถือ T-Mobile ในสหรัฐอเมริกา ให้เล่น Pokémon GO โดยไม่คิดค่าเน็ตนาน 1 ปี
- Hollywood สนใจนำ Pokémon ไปสร้างเป็นภาพยนตร์แบบคนแสดง โดยอยู่ระหว่างการประมูลแข่งขันกับเจ้าของลิขสิทธิ์ (ก่อนหน้านี้มีแต่การ์ตูนอนิเมะ)
- อุปกรณ์ที่ออกมาจำหน่ายแล้ว Pokémon GO Plus – คล้ายๆ Wearable เชื่อมต่อด้วยบลูทูธกับสมาร์ทโฟน ไว้แจ้งเตือนผู้เล่นถึงกิจกรรมที่เกิดในเกม จะได้ไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหว เช่น Pokémon ปรากฏขึ้นมาในพื้นที่ใกล้เคียง
ย้อนมาทำความรู้จักกับ Pokémon กันก่อน
Pokémon Go ดังถึงขนาดนี้ ลองมาทำความเข้าใจกันง่ายๆ ก่อน Pokémon เป็นชื่อย่อของ Pocket Monster ถือเป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัท Nintendo ซึ่งเป็นผู้ผลิตเกมยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น (เจ้าของแฟรนไชส์ มาริโอ้ วิดีโอเกมชื่อดัง) ซึ่งได้แนวคิดการพัฒนาเริ่มต้นมาจาก Satoshi Tajiri (และชื่อ ซาโตชิ กลายเป็นตัวเอกในการ์ตูนอนิเมะด้วย) ถ้าแบ่งง่ายๆ Pokémon จะมีการ์ตูนอนิเมะ, การ์ตูนในหนังสือ และวิดีโอเกม (ซึ่งเนื้อหาไม่ได้เกี่ยวข้องกัน)
Pokémon เริ่มต้นครั้งแรกในปี 1996 (ดังนั้นปีนี้จึงครบ 20 ปีพอดี) และเป็นแฟรนไชส์ที่สร้างรายได้ให้กับ Nintendo ตลอดกาลเป็นอันดับ 2 (เป็นรอง มาริโอ้ นั่นเอง) มาถึงตรงนี้ ทุกคนจะรู้จักจุดเริ่มต้นของ Pokémon แล้ว นอกจากการ์ตูนและวิดีโอเกมแล้ว มีสินค้าจำนวนมากที่อยู่ภายใต้ลิขสิทธิ์ Pokémon สร้างรายได้มหาศาลทั่วโลก ทำให้ธุรกิจเกม มีมูลค่าสูงกว่าหนังและเพลง (แต่ผู้ใหญ่ในไทยมองว่านี่คือ สิ่งมอมเมา)
แล้ว Pokémon ที่เป็นวิดีโอเกม เป็นอย่างไร (ส่วนนี้ไม่ใช่ Pokémon GO)
แนวคิดง่ายๆ เกม Pokémon คือ ตัวละคร (ผู้เล่นเกม) เดินทางเก็บรวบรวมตัวโปเกมอน เลี้ยงดู ฝึกฝน พัฒนา ผ่านการสู้กับผู้ฝึกโปเกมอนอื่นๆ ในเกม (ที่เป็นคอมพิวเตอร์) และสามารถเชื่อมต่อกับผู้เล่นจริงๆ คนอื่นเพื่อมาสู้กัน (Battle) จากนั้นจะต้องเข้าไปต่อสู้กับ ยิมลีดเดอร์ หรือ หัวหน้ายิม ซึ่งมีทั้งหมด 8 ยิม พร้อมกับปราบเหล่าร้ายระหว่างทาง ถ้าชนะได้ทั้ง 8 ยิมจะได้สิทธิ์เข้าแข่งขันในโปเกมอนลีกประจำภูมิภาค ซึ่งคุมโดย 4 จตุรเทพ ถ้าเอาชนะได้ จะได้สิทธิ์ท้าสู้กับ แชมเปียนประจำภูมิภาค (Regional Champion) ถ้าเอาชนะได้ ก็จะกลายเป็น Pokémon Master
เนื้อเรื่องหลักของ Pokémon ในภาคหลักจะเหมือนกันคือ ผ่าน 8 ยิม และเข้าแข่งในลีก ความสนุกคือ การค้นพบและฝึกฝนโปเกมอน ดังนั้นผู้เล่นบางคน ก็อาจเลือกที่จะสะสมโปเกมอนแบบต่างๆ ให้ครบ หรือมุ่งไปสู่ชัยชนะเป็นแชมเปียนก็ได้ ซึ่งภาคหลักของ Pokémon จนถึงตอนนี้เดินทางมาถึง 6th Generation แล้ว
มารู้จัก 6th Generation แบบเร็วๆ กันเถอะ
ถึงวันนี้ Pokémon มีมาแล้ว 6th Generation และกำลังจะออกภาคใหม่ใน 7th Generation ประมาณเดือนพฤศจิกายนนี้ (Pokémon Sun และ Pokémon Moon) มีโปเกมอนรวมแล้วประมาณ 720 ชนิด ก่อนจะพูดถึง Pokémon Go มาทำความเข้าใจกับ 6th Generation กันเล็กน้อย
1st-3th Generation เป็นยุคเริ่มต้นเล่นบนเครื่องเลย เกมบอย ก่อนจะพัฒนาขึ้นมาใน 4th -5th Generation ที่ใช้เครื่อง Nintendo DS และใน 6th Generation เป็นครั้งแรกที่ใช้ Nintendo 3DS (เป็น 3D polygon) รวมถึง 7th Generation ที่จะเปิดตัวในเดือน พ.ย.นี้ด้วย
- Gen1: มี 3 ภาค คือ Red, Green และ Yellow (เวอร์ชั่น US มีภาค Blue มาแทน Green ด้วย)
- Gen2: มี 3 ภาค คือ Gold, Silver และ Crystal
- Gen3: มี 5 ภาค คือ Ruby, Sapphire, FireRed, LeafGreen และ Emerald
- Gen4: มี 3 ภาค คือ Diamond, Pearl และ Platinum
- Gen5: มี 4 ภาค คือ Black, White, Black 2 และ White 2
- Gen6: มี 4 ภาค คือ X, Y, OmegaRuby และ AlphaSapphire
แต่ละ Generation มีหลายภาค เนื้อเรื่องจะคล้ายกัน แตกต่างกันที่เหล่าร้าย และโปเกมอนภายในภาคนั้น (เพื่อจะได้มาเชื่อมต่อ และสะสมให้ครบ: เรียกเงินจากนักเล่นเกมได้อย่างต่อเนื่อง)
Pokémon GO จะมีตัวโปเกมอนจาก 1st Gen ให้เล่น 151 ตัวก่อน และน่าจะขยายในอนาคต และน่าจะถือว่าอยู่ใน 6th Generation ของ Pokémon ก่อนที่ 7th Gen จะเปิดตัว คือภาค Sun และ Moon ในเดือน พ.ย. นี้
บทสรุป Pokémon สิ่งที่เป็นมากกว่าแค่ “เกม”
เวลานี้บรรดาเกมเมอร์ ผู้เล่น Pokémon ในไทยตั้งหน้าตั้งตารอคอยการเปิดตัว Pokémon GO แบบไม่กระพริบตา และเชื่อว่าจะดึงดูดเงินของคนไทย รวมถึงผู้เล่นทั่วโลกได้อย่างมหาศาล เป็นการเดินหมากที่สุดยอดอย่างคาดไม่ถึงของบริษัทที่พัฒนาเกมนี้ขึ้นมา จากปกติเนื้อหาตระกูล Pokémon สร้างรายได้จาก การ์ตูน เกม และสินค้าต่างๆ มากอยู่แล้ว แต่ก็ยังจำกัดในกลุ่มนักเล่นเกม จนกระทั่ง Pokémon GO ถือกำเนิดขึ้น เชื่อว่าจะกลายเป็นการเพิ่มฐานผู้เล่น Pokémon ให้มากขึ้นกว่าเดิม
ด้วยลักษณะของ Pokémon GO ที่อาจจะเทียบเคียงได้เหมือนลักษณะของ Avatar หรือตัวการ์ตูนที่สามารถเลี้ยงดู พัฒนา ตกแต่ง ผสมพันธุ์ ออกไข่ ไปได้เรื่อยๆ มีการแลกเปลี่ยนกันระหว่างผู้เล่น น่าจะทำให้เส้นทางการเล่นเกมเหมาะกับคนทั่วไปมากขึ้น (และดึงดูดเงินจากกระเป๋าคนทั่วไปได้มากขึ้นด้วย)
ในอีกมุมหนึ่ง การใช้ Pokémon GO เป็นเครื่องมือทางการตลาดให้กับ Brand ต่างๆ ก็ดูน่าสนใจไม่น้อย (ผู้เล่นจำนวนมาก โอกาสทางการตลาดก็มากขึ้นไปด้วย) และอย่างที่บอก พ.ย. นี้ Pokémon Sun และ Moon จะเปิดตัวบน Nintendo 3DS เรียกว่าไม่ทิ้งฐานเกมเมอร์เดิม งานนี้รับทรัพย์กันเน้นๆ ยาวๆ
Discover Pokémon in the Real World with Pokémon GO!
Credit: ขอบคุณเนื้อหาบางส่วนจาก Blongnone
Credit Image: Pokemon Go
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา