สหรัฐอเมริกา กลับมาโฟกัส Huawei หรือ หัวเว่ย อีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้เน้นหนักไปที่ TikTok และ WeChat คราวนี้ประกาศชัดเจนว่า จะไม่ใช้อุปกรณ์โครงข่ายจากหัวเว่ย และประเทศพันธมิตรก็ห้ามใช้ด้วย นั่นทำให้ธุรกิจของหัวเว่ยอาจจะมีอนาคตที่คลุมเครือขึ้นมาทันที
สำหรับธุรกิจของหัวเว่ย แบ่ง 3 ส่วนหลัก คือ Consumer หรืออุปกรณ์มือถือซึ่งมีสัดส่วนกว่า 59%, Carrier Business หรือ ธุรกิจที่เกี่ยวกับโครงข่ายทั้งหมด มีสัดส่วนประมาณ 30% และสุดท้ายคือ Enterprise Solution หรือแพลตฟอร์มสำหรับองค์กรต่างๆ
สิ่งที่หัวเว่ยต้องการเน้นมากเป็นพิเศษคือ Carrier Business เพราะ โครงข่ายจะเป็นหัวใจหลักของบริการในยุค 5G ซึ่ง หัวเว่ย มีการลงทุนวิจัยและพัฒนาเรื่องเทคโนโลยีและนวัตกรรมกว่า 15,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี ทำให้ปัจจุบัน หัวเว่ยมีสิทธิบัตร 5G และที่เกี่ยวข้องมากที่สุดในโลก การันตีว่าโครงข่ายจากหัวเว่ยเป็นของดีแน่นอน
นอกจากประสิทธิภาพดีแล้ว ราคาก็ยังต่ำกว่าโครงข่ายจากบริษัทอื่นๆ 30-40%
แต่ทำไมสหรัฐอเมริกาถึงจะไม่ใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ย และยังจะห้ามประเทศพันธมิตรใช้งานอีกด้วย
ฝากติดตาม Brand Inside Podcast ได้ผ่านช่องทางด้านล่างนี้ได้เลย