ในที่สุดก็มาถึงวันนี้ วันที่บรรดาเนื้อปลอมมียอดขายลดลง
เนื้อปลอมที่ว่า ก็คือเนื้อสัตว์ที่ทำจากพืช ล่าสุดบริษัทมังสวิรัติ Beyond Meat มียอดขายลดลงราว 1 ใน 3 หรือประมาณ 30.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันคือช่วงไตรมาสสองของปีก่อนหน้า ขณะเดียวกัน หุ้นของบริษัทก็ร่วงลงเกือบ 12% ด้วย
ปีที่ผ่านมา บริษัทก็ประกาศแผนว่าจะลดจำนวนแรงงานลงราว 1 ใน 5 ของทั้งหมดหรือประมาณ 200 ตำแหน่ง ซึ่งจะทำให้ลดต้นทุนบริษัทได้มากราว 39 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 1,306 ล้านบาท จนในที่สุดบริษัทก็ออกมาแถลงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า บริษัทได้รับผลกระทบจากความต้องการทาน Plant-based หรือเนื้อที่ทำจากพืชลดลง ด้วยผลที่สืบเนื่องมาจากอัตราเงินเฟ้อที่สูง อัตราดอกเบี้ยสูง และผู้บริโภคกังวลว่าจะต้องใช้ชีวิตอยู่ในสภาวะเศรษฐกิจถดถอย
มีการคาดการณ์ว่ารายได้รายปีน่าจะอยู่ระหว่าง 360-380 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งถือว่าลดลงจากปีก่อนหน้าราว 415 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท เรื่องนี้ Ethan Brown ซึ่งเป็นซีอีโอของ Beyond Meat ระบุว่า จริงๆ แล้วความต้องการบริโภคเนื้อที่ทำจากพืชลดลงก็เพราะแนวคิดของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป
แนวคิดการบริโภคเนื้อที่ทำจากพืชเปลี่ยนไปเพราะความระแวงและความสงสัยของผู้บริโภค ที่สงสัยและกลัวเกี่ยวกับส่วนผสมและกระบวนการในการผลิตเนื้อที่ทำจากพืช ส่งผลให้รายได้ของช่วงไตรมาสสองของปีก่อนหน้าลดลงอยู่ที่ 53.3 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 1.86 พันล้านบาท จากปีก่อนหน้าที่ทำรายได้สูงกว่า อยู่ที่ 97.1 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 3.38 พันล้านบาท
อย่างไรก็ดี ไม่ใช่แค่ Beyond Meat ที่ประสบปัญหาอยู่ลำพัง บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอาหารอย่าง Kellogg และ Tyson Foods ก็ต้องเผชิญกับเรื่องนี้เช่นกัน มูลค่าหุ้นของ Beyond Meat ปัจจุบันอยู่ที่ 15 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 500 กว่าบาทซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่าช่วง IPO ที่ราคา 25 เหรียญสหรัฐหรือประมาณกว่า 800 บาท
ที่มา – BBC
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา