รู้จัก Plant-based Food ธุรกิจเนื้อไร้เนื้อที่มาแรงที่สุดในปี 2019

Plant-based Food ไม่ใช่แค่อาหารเฉพาะกลุ่ม แต่จะเป็นดาวรุ่งในอนาคต หลายแบรนด์ใหญ่ลงมาเล่นตลาดนี้ เพราะมีโอกาสทางตลาดมากมาย 

Photo : Shutterstock

Plant-based Food คืออะไร ทำไมถึงมาแรง?

ตอนนี้ผู้บริโภคมีทางเลือกในการบริโภคอาหารมากมาย ก่อนหน้ามีเทรนด์ของคนที่ไม่ทานเนื้อสัตว์ ทานมังสวิรัติ หรือเป็นกลุ่ม Vegan ที่ต่อต้านการละเมิดชีวิตสัตว์ทุกประเภท

ตอนนี้มีคำว่า Plant-based Food เข้ามาใหม่ในระบบ เป็นเทรนด์ที่มาแรงมากในปีนี้ เชื่อว่าจะไม่ใช่แค่ Niche Market เป็น Mega Trend แห่งปี จะเป็นอนาคตของธุรกิจอาหารเลยก็ว่าได้ 

โดยที่ “หนูดี-วนิษา เรซ” ได้พูดถึงความร้อนแรงของ Plant-based Food ภายในงาน LINE Food Tech 2019 งานที่รวบรวมเทคโนโลยีเกี่ยวกับอาหารในอนาคต 

อธิบายง่ายๆ ได้ใจความ Plant-based Food คือ อาหารที่ทำมาจากพืชเป็นหลักประมาณ 95% ส่วนใหญ่ทำมาจากถั่ว และบีทรูท แต่ไม่ใช่อาหารเจ ไม่เกี่ยวกับศาสนา ไม่ใช่มังสวิรัต ที่ไม่กินนม ไม่กินไข่ ไม่ใช่ Vegan เพราะไม่มีประเด็น Animal Activist หรือการไม่ละเมิดชีวิตสัตว์ ที่ไม่เลี้ยงสัตว์ ไม่ใช้ขนสัตว์ ไม่ไปสวนสัตว์ และไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง เป็นเรื่องสุขภาพ และสิ่งแวดล้อมล้วนๆ 

Plant-based Food ที่นิยมมากที่สุดในตอนนี้ ก็คือการทำเป็น “เนื้อเบอร์เกอร์” หรือจะเรียกกันว่าเบอร์เกอร์ไร้เนื้อสัตว์ แต่ให้รสชาติ และผิวสัมผัสที่เหมือนเนื้อจริงๆ

จะเห็นว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมาทั่วโลกได้พูดถึงปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อม หลายคนเริ่มตระหนักในเรื่องวัสดุที่ทำลายสิ่งแวดล้อม เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับสิ่งที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น

เรื่องของอาหารก็เช่นเดียวกัน ทุกคนเริ่มมองหาอาหารที่มาจากธรรมชาติ เพื่อสุขภาพของตัวเอง และเพื่อสิ่งแวดล้อม การเพิ่มพืชในมื้ออาหารให้มากขึ้น จึงกลายเป็นเทรนด์ที่มาแรงที่สุดของโลก กล่าวได้ว่าอนาคตของอาหารจะกลายเป็นพืชเสียส่วนใหญ่

ถ้าให้เปรียบเทียบระหว่างแผ่นเบอร์เกอร์ที่เนื้อสัตว์จริงๆ กับเบอร์เกอร์ที่เป็นเนื้อไร้เนื้อในปริมาณ 113 กรัมเท่ากัน จะพบว่าเนื้อจากพื้ชไม่มีคอเรสเตอรัล มีไขมันอิ่มตัวน้อยกว่า กระบวนการผลิตใช้น้ำน้อย ลดก๊าซเรือนกระจก และช่วยบำรุงคุณภาพดิน

ซึ่งกระบวนการในการทำเนื้อจริงจะเพิ่มก๊าซมีเทน ปศุสัตว์เป็นธุรกิจที่เพิ่มก๊าซเรือนกระจกรายใหญ่ของโลก รวมไปถึงเรื่องการผลิตที่เนื้อจริงต้องฆ่าสัตว์จริงๆ แต่เนื้อไร้เนื้อใช้พืช ซึ่งพืชไม่มีระบบประสาท ไม่มีความรุนแรงในการฆ่าอย่างแน่นอน

แบรนด์ยักษ์ใหญ่ในตลาดต้องลงมาเล่น

ถ้าพูดแค่ว่า Plant-based Food เป็นเทรนด์ใหญ่มาแรงในปีนี้คงจะยังไม่เห็นภาพเท่าไหร่ ต้องขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพได้ชัดขึ้น ซึ่ง Plant-based Food กลายเป็นธุรกิจที่มาแรงแห่งปีจริงๆ มีผู้เล่นหลายแบรนด์ลงมาจับตลาด ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ไปจนถึงผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ของโลก

Photo : Shutterstock

แต่ถ้าพูดถึง Plant-based Food ต้องพูดถึง Beyond Meat เป็นอันดับแรก บริษัทที่ทำ Plant-based Meat หรือเนื้อไร้เนื้ออันดับแรกๆ ก่อตั้งปี 2009 และมีสินค้าวางจำหน่ายเมื่อปี 2016 ปีนี้ได้กลายเป็นธุรกิจดาวรุ่งพุ่งแรงมากที่สุด ถึงขนาดที่ว่า ลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ” นักแสดงชื่อดังได้เข้ามาลงทุน 

ความร้อนแรงของ Beyond Meat นั้น บริษัทได้เข้า IPO เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา หุ้นพุ่งขึ้นถึง 163% มากที่สุดในหุ้นทั่วโลกของปีนี้ IPO ที่ 800 บาท เปิดตลาดที่ 1,470 บาท พุ่งขึ้นไปถึง 2,300 และปิดที่ราคา 2,100 บาท หุ้นนี้มีความผันผวนมากจน NASDAQ ต้องประกาศหยุดการขายช่วงหนึ่ง 

ทำให้ Beyond Meat เป็นหุ้นที่ฮ็อตมาก ในสิ้นวันนั้นมูลค่าของบริษัทอยู่ที่ 120,000 ล้านบาท สามารถบอกได้ว่าผู้คนต่างให้ความสนใจกับธุรกิจมากแค่ไหน

Beyond Meat มีคู่แข่งคนสำคัญคือ Impossible Food ที่ทำ Impossible Burger ให้กับ Burger King ผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดเบอร์เกอร์นั่นเอง ในเมนู Impossible Whopper 

เบอร์เกอร์ที่ว่านั้นได้ทำเหมือนเนื้อจริงในทุกมิติ ไม่ว่าจะตอนลงกระทะแล้วมีเสียงชู่ววว เหมือนเสียงเนื้อ หรือหั่นออกมาแล้วมีเลือดไหล รสชาติเหมือนเนื้อทุกอย่าง 

ตอนนี้ Burger King ได้จำหน่าย Impossible Whopper ในสหรัฐอเมริกา แต่ได้รับผลตอบรับที่ดีมีแผนเตรียมวางจำหน่ายทั่วอเมริกา และทั่วโลกในลำดับต่อไป 

Photo : Shutterstock

นอกจากนี้ McDonald’s ก็ได้ออกเมนูเบอร์เกอร์ Big Vegan TS เป็นเมนูเบอร์เกอร์มังสวิรัติ เริ่มที่ประเทศเยอรมนีแห่งแรก ซึ่ง McDonald’s ได้ออกออกเมนูเอใจชาว Vegan มานานแล้ว อีกทั้งยังมีผู้เล่นรายอื่นสนใจในตลาดนี้ด้วย เช่น White Castle, Qdoba, Bareburger และแบรนด์อื่นๆ ที่กำลังขยายเมนูที่ทำมาจากพืชเช่นกัน

แต่นอกจากแบรนด์ร้านอาหารที่ตื่นตัวกับ Plant-based Food แล้ว ผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ระดับโลกอย่าง Nestle เตรียมวางจำหน่าย Plant-based Burger ในสหรัฐอเมริกา และในยุโรป ส่วนคู่แข่งอย่าง Unilever ก็เตรียมจำหน่าย The Vegetarian Butcher หรือเรียกว่านักฆ่าผักด้วยเช่นกัน

คิดตามง่ายๆ ก็คือ ทำไมคนขายเนื้อรายใหญ่อย่าง Burger King ยังต้องทำ Plant-based Food เพราะเขามองว่าเนื้อไร้เนื้อคืออนาคตนั่นเอง 

Plant-based Food เหมาะสำหรับทุกคน ตอบโจทย์ธุรกิจ

Plant-based Food มีโอกาสมากมายทั้งทางธุรกิจ และเรื่องของสุขภาพ คนที่ทานยังคงได้รับความอร่อยที่เหมือนเนื้อ แต่ได้รับสารอาหารจากพืช ซึ่ง Plant-based Food สามารทานได้ตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึงแก่ 

นอกจากจะทำให้สุขภาพดีขึ้นแล้ว ในแง่ธุรกิจยังสามารถขายผู้ป่วยได้ หรือคนที่ต้องการฟื้นฟูสุขภาพได้ด้วย เพิ่มสมรรถนะร่างกาย มีโปรตีนที่สร้างกล้ามได้ดีกว่า คนที่ออกกำลังกายจะได้กล้ามใหญ่ที่ไขมันน้อยกว่าเนื้อสัตว์

Photo : Shutterstock

อีกทั้งยังมีวิจัยรับรองที่หลากหลายว่าสามารถฟื้นฟูสุขภาพ ทุกคนกินได้อย่างปลอดภัย ทานเป็นไลฟ์สไตล์ก็ได้ หรือทานเพื่อป้องกัน และรักษาโรคได้ เช่น โรคหัวใจ หลอดเลือดหัวใจ ลดการเป็นอัลไซเมอร์ เบาหวานประเภท 2 และโรคอ้วนได้ เพราะไม่มีคอเรสเตอรัล

ที่สำคัญได้ช่วยสิ่งแวดล้อมโลก และสัตว์ เพราะธุรกิจปศุสัตว์สร้างก๊าซเรือนกระจกมากกว่ายานพาหนะเสียอีก

แต่ก็ยังไม่อาจสรุปได้ว่าเทรนด์ของ Plant-based Food จะมาเมืองไทยหรือไม่ หรือจะได้รับการตอบรับอย่างในต่างประเทศหรือเปล่า แต่ก็ชี้ให้เห็นว่าเทรนด์นี้ต้องมาแน่นอน เพราะคนไทยก็เริ่มให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ดูแลสุขภาพมากขึ้น 

ต้องดูว่าร้านอาหาร หรือแบรนด์ไหนจะนำเข้ามาก่อนเป็นรายแรก และจะเข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนไทยได้หรือไม่

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา