PlanB เป็นที่รู้จักในมุมผู้ทำธุรกิจป้ายโฆษณาต่าง ๆ แต่เมื่อ COVID-19 ระบาด คนอยู่บ้านมากขึ้น แล้วใครจะดูป้ายโฆษณา บริษัทจึงปรับตัวด้วยการลงทุนธุรกิจใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นเกม, กีฬา รวมถึงนวัตกรรมเกี่ยวกับการโฆษณา
PlanB กับการซื้อเกมมือถือมาให้บริการ
เริ่มต้นกันที่ เกม กันก่อน เพราะถือเป็นธุรกิจที่ค่อนข้างแตกต่างจากฐานเดิมของ PlanB โดยบริษัทได้เปิดตัวเกมมือถือ Hitman Reborn อย่างเป็นทางการในประเทศไทยเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2021 และทำรายได้มากกว่า 3.5 ล้านบาท ได้ภายใน 3 วันหลังเปิดให้บริการ และหากนับถึงเดือน ส.ค. 2021 เกมนี้ทำเงินไปกว่า 21 ล้านบาท
หากนับถึงวันที่ 8 ส.ค. 2021 เกม Hitman Reborn มีการดาวน์โหลดไปกว่า 6.48 แสนครั้ง และจำนวนนี้คิดเป็นต้น Cost per Install หรือต้นทุนต่อการติดตั้งค่อนข้างน้อย เพราะคิดเป็นเพียง 20 บาท/Install จากปกติเกมอื่น ๆ ในตลาดอยู่ที่ 40-60 บาท/Install โดยเกมนี้เปิดให้เล่นฟรี แต่มีระบบให้ซื้อไอเทมภายในเกม
PlanB ยังรุก Esports ต่อเนื่อง ผ่านการจัดการแข่งขันเกม eFootball (เดิมชื่อ Pro Evolution Soccer: PES) ในประเทศไทย ร่วมกับทีมฟุตบอลในไทยลีก ถือเป็นปีที่ 3 ที่จัดการแข่งขันนี้ขึ้น และบริษัทคาดว่าจะสร้างรายได้กว่า 80 ล้านบาท/ปี โดยปี 2020 มีการรับชมการแข่งขันมากกว่า 14 ล้านวิว เทียบเท่าการแข่งขันกีฬาต่าง ๆ
บุกธุรกิจกีฬาต่อยอดความสำเร็จฟุตบอล-โอลิมปิก
นอกจากนี้ PlanB มีแผนบุกธุรกิจกีฬาเพื่อสร้างรายได้ในอนาคต เพราะจากความสำเร็จของการทำตลาดให้สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ รวมถึงการได้สิทธิ์เผยแพร่กีฬาโอลิมปิก ทำบริษัทต้องการขยายโอกาสทางธุรกิจออกไปมากกว่าเดิม และไม่ใช่แค่ทำตลาด หรือถ่ายทอดสด แต่หมายถึงเป็นผู้จัด และต่อยอดไปในมุมอื่นได้
หากไม่นับการทำตลาดให้สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ PlanB ทำธุรกิจเกี่ยวกับกีฬาอีก 4 ธุรกิจ ประกอบด้วย การเป็นหนึ่งในทีมผู้จัดกีฬาต่อสู้, การเป็นผู้ได้สิทธิ์ถ่ายทอดสดมหกรรมกีฬาต่าง ๆ (โอลิมปิกคือหนึ่งในนั้น), การจัดลีก Esports และการจัดงานวิ่ง หรือกิจกรรมกลางแจ้ง
ในทางกลับกัน PlanB ไม่ได้เข้ามาอยู่ในธุรกิจเกี่ยวกับกีฬาแค่มุมการตลาด แต่เตรียมลงทุนด้านเทคโนโลยีเช่น การวิเคราะห์ข้อมูล, การประยุกต์ใช้ AI กับการแข่งขัน รวมถึงการใช้ระบบ Blockchain กับเชื่อมต่อ API ต่าง ๆ เพื่อปลดล็อคขีดจำกัดในธุรกิจที่เกี่ยวกับกีฬาด้วย
แต่นั่นคืออนาคต เพราะปีนี้แย่ถึงขั้นต้องปรับเป้า
อย่างไรก็ตาม เกม และ กีฬา คือรายได้ที่ต้องรออีกระยะหนึ่งกว่าจะเป็นส่วนหลักของ PlanB และเมื่อกินสัดส่วนน้อย ประกอบกับสถานการณ์ COVID-19 ยังระบาดต่อเนื่อง สุดท้ายแล้วธุรกิจโฆษณานอกบ้านจึงไม่ดีเหมือนเดิม และเป็นเหตุผลหลักให้ PlanB ปรับเป้ารายได้ลงเหลือ 4,000-4,200 ล้านบาท จากเป้าเดิม 5,000 ล้านบาท
สำหรับรายได้จากการขาย และบริการ PlanB ไตรมาส 2 2021 คือ 1,097 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.1% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 66.4% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2020 มาจาจากธุรกิจ Out-of-Home 71% ที่เหลือคือ Engagement Marketing ที่เติบโตได้มาจากสื่อนอกบ้านถูกกลับมาซื้อมากขึ้น และการได้ลิขสิทธิ์โอลิมปิก
ส่วนสถานการณ์การลงทุนโฆษณาในไตรมาส 2 2021 เติบโตขึ้น 24% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นมูลค่า 26,939 ล้านบาท โดยตลาดที่เกี่ยวข้องกับ PlanB เช่น Out-of-Home เติบโต 7% คิดเป็น 2,636 ล้านบาท, ออนไลน์เติบโต 20% คิดเป็น 5,700 ล้านบาท และสื่อโทรทัศน์เติบโต 29% คิดเป็น 16,396 ล้านบาท
สรุป
การปรับตัวของ PlanB นั้นเห็นมาอย่างต่อเนื่อง เช่นการทำป้ายโฆษณาใน 7-Eleven หรือการเข้ามาทำโปรแกรมซื้อสื่อโฆษณาทางโทรทัศน์ ซึ่งทั้งหมดเป็นการกระจายช่องทางรายได้ให้มากกว่าแค่ป้ายนอกบ้าน และการรุกธุรกิจกีฬา กับเกมในครั้งนี้ น่าจะสร้างแรงกระเพื่อมให้อุตสาหกรรมไม่มากก็น้อย
อ้างอิง // OppDay
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา