บล. ภัทร ปรับเป้า GDP ของไทยในปีนี้จากเติบโต 1.4% กลายเป็น -0.4% หลังจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 กลายเป็นการระบาดทั่วโลก กระทบการท่องเที่ยวของไทยอย่างหนัก รวมไปถึงปรับเป้าหุ้นไทยด้วย
บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) ได้ปรับเป้า GDP ไทยจากคาดการณ์ในตอนแรกที่ 1.4% ล่าสุดวันนี้ปรับเป้าใหม่คาดว่า GDP ไทยในปีนี้จะติดลบ 0.4% จากประเด็นสำคัญคือการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ที่กลายเป็นการระบาดใหญ่ระดับโลก หรือ Global Pandemic เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยทันที
- องค์การอนามัยโลก ประกาศให้ COVID-19 เป็น “การระบาดใหญ่ระดับโลก” (Global Pandemic)
- โดนัลด์ ทรัมป์ สั่งแบนการเดินทางจากยุโรปเป็นเวลา 30 วัน มีผลทันทีศุกร์ 13 มีนาคมนี้
ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวของไทยที่ บล. ภัทร คาดไว้ว่าจะสามารถฟื้นตัวในรูปแบบตัว U หลังไตรมาส 2 นั้นไม่น่าจะเป็นไปได้ตามคาด นอกจากนี้การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวของไทยอาจฟื้นตัวได้ช้าในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
บล. ภัทร ยังคาดว่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% ภายในการประชุมของ กนง. ในวันที่ 25 มีนาคมนี้ เปลี่ยนจากคาดการณ์ตอนแรกในช่วงกลางปีนี้ และคาดหวังที่จะเห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลที่มากกว่านี้ หลังจากที่ บล. ภัทร วิเคราะห์ว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลอาจไม่เพียงพอ
นอกจากนี้ บล. ภัทร ยังได้ปรับเป้าของดัชนีหุ้นไทย โดย SET Index คาดว่าจะอยู่ในช่วง 1,310 จุด และจุดต่ำสุดที่ บล. ภัทร มองไว้คือ 1,080 จุด ปัจจัยสำคัญมาจากเศรษฐกิจไทยที่เข้าสู่สภาวะถดถอย ราคาน้ำมันที่ตกลง ส่งผลต่อหุ้นกลุ่มพลังงานของไทย การแพร่ระบาด COVID-19 ที่ยังแพร่กระจายไม่หยุด
ที่มา – บทวิเคราะห์จาก บล. ภัทร
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา