หนังสือพิมพ์ Wall StreetJournal รายงานว่า Procter & Gamble หรือ P&G บริษัทเครื่องใช้อุปโภคบริโภครายใหญ่ของโลก จะปรับกลยุทธ์การโฆษณาออนไลน์ โดยเริ่มลดการจ่ายเงินโฆษณาใน Facebook แบบเจาะจงกลุ่มผู้ใช้งาน ด้วยเหตุผลว่าไม่ประสบผลสำเร็จตามที่หวังไว้
Marc Pritchard ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของ P&G บอกว่า ยุทธศาสตร์การลงโฆษณาแบบเจาะจงกลุ่มประชากร (targeted consumer) ไม่เวิร์คนัก เพราะบริษัทเจาะจงกลุ่มเป้าหมายแคบเกินไป (too narrow) อย่างไรก็ตาม เขายืนยันว่า P&G จะยังโฆษณากับ Facebook ต่อไป ไม่ได้ลดงบโฆษณาลง แค่จะลงโฆษณาแบบเจาะจงกลุ่มเป้าหมายเมื่อจำเป็นเท่านั้น
P&G เคยใช้วิธีโฆษณาแบบเจาะจงกลุ่มเป้าหมายกับน้ำยาปรับอากาศ Febreze โดยเลือกลูกค้าที่มีสัตว์เลี้ยง หรือครอบครัวที่มีคนเยอะๆ แต่กลับไม่เวิร์ค ภายหลังเมื่อบริษัทเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายให้กว้างขึ้นมากๆ เป็น “ใครก็ได้ที่อายุ 18 ปีขึ้นไป” ยอดขายก็เพิ่มขึ้นทันที
P&G ถือเป็นบริษัทเอกชนที่มีงบโฆษณามากที่สุดในโลก การปรับยุทธศาสตร์ของ P&G ครั้งนี้ย่อมส่งผลกระทบต่อยุทธศาสตร์การโฆษณาของ Facebook ที่เปิดให้ผู้ลงโฆษณาเลือกกลุ่มเป้าหมาย (demographic) ที่ต้องการ และเสนอราคาแข่งกันเพื่อให้ได้ค่าโฆษณาที่สูงขึ้น (ยิ่งเจาะจงกลุ่มเป้าหมายแคบ ราคายิ่งแพง)
อย่างไรก็ตาม กรณีตัวอย่างนี้คงพออธิบายได้ว่าโฆษณาแบบ target อาจไม่เหมาะกับบริษัทที่ขนาดใหญ่มากๆ แบบ P&G ที่มีสินค้าจับตลาดแมสเท่านั้น แต่คงไม่สามารถสรุปได้ว่าสุดท้ายแล้วโฆษณาแบบ target จะไม่เวิร์คเลยในทุกกรณี
Pritchard ยังบอกว่า P&G จะลดการลงโฆษณาในเว็บไซต์ขนาดเล็ก ที่ไม่มีกลุ่มผู้ชมจำนวนมากแบบเดียวกับที่ Facebook, Google, YouTube มี
ที่มา – Wall Street Journal
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา