คิดแบบ “ทวี ปิยะพัฒนา” เปลี่ยนเพื่อโต บนเส้นทางเดิน PFP ในธุรกิจอาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง

ก้าวสู่ทศวรรษที่ 4 สำหรับธุรกิจอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งพีเอฟพี “ทวี ปิยะพัฒนา”นั่งแท่นประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัท พีเอฟพี มองเป็นยุคที่มีความท้าทายรอบด้าน ทั้งเทรนด์อาหาร กระแสรักษ์โลก พฤติกรรมของผู้บริโภค เป็นโจทย์ที่ ณ วันนี้ คนทำอาหารสำเร็จรูปพร้อมทานและพร้อมปรุงต้องปรับตัว 

ทวี ปิยะพัฒนา ประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัท พีเอฟพี เล่าว่า การทำธุรกิจธอาหารทะเลแช่แข็งพร้อมทานและอาหาพร้อมปรุง (Ready to Eat , Ready to Cook) ยุคนี้เป็นเรื่องท้าทายของผู้ประกอบการ ที่ต้องคิดใหม่ ทำใหม่ เพราะปัจจัยแวดล้อมรอบด้านเกิดการเปลี่ยนแปลงใหม่หมด

โจทย์ของการทำธุรกิจของเรา คือ ทำอย่างไรให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน การมุ่งพัฒนาอาหารแห่งอนาคต ทั้งอาหารสำหรับผู้สูงอายุ อาหารเพื่อสุขภาพ จนไปถึงแพกเกจจิ้งรักษ์โลก ซึ่งเราก็ต้องทำด้วย

พัฒนาเมนูรองรับประชากรผู้สูงอายุ

แนวโน้มประชากรผู้สูงอายุที่มีเพิ่มขึ้นในประเทศไทย โดยปี 2563 ผู้สูงอายุจะคิดเป็นสัดส่วน 20% ของประชากรไทย จึงเป็นโอกาสของธุรกิจอาหารที่จะเข้าไปทำตลาด พบว่า ผู้สูงอายุมีต้องการอาหารชะลอความเสื่อมถอยของร่างกาย เคี้ยวง่าย ไขมันต่ำ ไม่มีคลอเลสเตอรอล และไม่มีน้ำตาล

โดยมองว่าอาหารมังสวิรัติจะเป็นเซ็กเมนต์ที่เติบโต เนื่องจากเป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่เหมาะกับผู้สูงอายุ แต่ขณะนี้ตลาดดังกล่าวมีมูลค่าเพียง 250 ล้านบาท จากภาพตลาดอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท สำหรับพีเอฟพี เรากำลังพัฒนาสินค้าและเตรียมนำเมนูอาหารสำหรับผู้สูงอายุเปิดตัวลงสู่ตลาดกลางปี 2563

ผลิตอาหารชั้นเลิศเจาะกลุ่มหรูหรา

นอกจากเมนูอาหารสำหรับผู้สูงอายุแล้ว อาหารที่เป็นเทรนด์มาแรงคือ เมนูอาหารชั้นเลิศสำหรับกลุ่มที่มีกำลังการซื้อและพร้อมยอมจ่ายเงินเพื่อกินอาหารหรูหรา และตอบโจทย์ความสะดวกสบาย เพราะเป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งจะผลักดันให้ยอดขายเติบโตเพิ่มขึ้น

สำหรับเมนูอาหารระดับพรีเมี่ยม ส่วนใหญ่จะพัฒนาในกลุ่มอาหารญี่ปุ่นเป็นหลัก อาทิ หมึกฮอกไกโด พิซซ่าหน้าญี่ปุ่น ข้าวปั้นญี่ปุ่น เป็นต้น

ขณะที่สถานการณ์ตลาดอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งพร้อมทานมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท ในปี 2563 ก็ไม่ค่อยสู้ดีคาดการณ์ว่าตลาดเติบโตเพียง 2% เท่านั้น เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว

แพกเกจจิ้งรักษ์โลกก็ต้องทำ

ปี 2563 ธุรกิจค้าปลีกงดการแจกถุงพลาสติก แต่ในธุรกิจอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งพร้อมทานก็ต้องปรับตัว ใช้พลาสติกที่รีไซเคิลได้ แต่คงจะปรับเปลี่ยนทั้งหมดไม่ได้ ตอนนี้พีเอฟพีเริ่มทยอยปรับเมนูอาหารบางรายการใช้พลาสติกรีไซเคิลได้ เนื่องจากต้นทุนค่อนข้างสูงโดย ซึ่งมีผลต่อราคาสินค้าต้องปรับเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 5 บาท

คำถามตอนนี้ เรากังวลใจเมื่อต้นทุนแพกเกจสูงแล้ว ผู้บริโภคก็ต้องพร้อมยอมจ่ายด้วย แต่จากภาวะเศรษฐกิจในปีหน้าที่ไม่ค่อยดีมากนัก หากจะปรับแพกเกจจิ้งรีไซเคิลทั้งหมดจะกระทบต่อยอดขาย เราจึงวางเป้าหมายภายในปี 2565 อาหารสำเร็จรูปพร้อมทานของพีเอฟพีจะเปลี่ยนมาใช้พลาสติกรีไซเคิลทั้งหมด 100%

อาหารขึ้นราคายากเร่งลดต้นทุน

การขึ้นราคา “อาหาร” มีผลต่อการตัดสินใจซื้อผู้บริโภคอย่างแน่นอน พีเอฟพีมองถึงการเร่งลดต้นทุนการผลิต โดยลงทุนนำเทคโนโลยีการผลิตใหม่ๆ มาใช้ภายในโรงงาน และขณะเดียวก็ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เชื่อว่าผู้ประกอบการธุรกิจอาหารเผชิญกับสถานการณ์ดังกล่าวไม่แตกต่าง

นอกจากนี้ธุรกิจอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งพร้อมทาน การแข่งขันจากคู่แข่งทางอ้อมอย่าง ฟู้ดดิลีเวอรี่ ที่เข้ามาช่วงชิงฐานลูกค้าอาหาร แต่สิ่งที่อาหารแช่แข็งสำเร็จรูปพร้อมทาน ยังสามารถยืนหยัดได้นั้น คือ ตอบโจทย์ในเรื่องของความสะดวกสบาย ช่วงเวลาเร่งด่วน หิวเมื่อไหร่ก็อุ่นกินได้ ไม่ต้องสั่งให้เสียเวลา ซึ่งเป็นจุดเด่นของโปรดักส์

มองทุกอย่างคือโอกาสพีเอฟพี

โอกาสของธุรกิจบีทูบี หรือนำวัตถุดิบอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งพร้อมทานไปจำหน่ายให้กับคู่ค้า โดยเฉพาะ “ฟู้ดดิลีเวอรี่” ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องนั้น นอกจากนี้ยังมองถึงการพัฒนาเมืองใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดธุรกิจค้าปลีก ร้านอาหารและโรงแรมเพิ่มขึ้น

ตอนนี้เราต้องขยายในทุกช่องทาง เพราะสถานการณ์การส่งออกในปีหน้าไม่ค่อยดี ทั้งตลาดในอเมริกาและยุโรป ในขณะที่ตลาดภายในประเทศ ยังมีปัจจัยบวก จากการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากสถานการณ์การประท้วงในฮ่องกง

สรุป

การทำธุรกิจอาหาร นอกจากต้องสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ ออกมาให้ผู้บริโภคได้ลิ้มลองความอร่อยกันแล้วนั้น ต้องมองลงลึกถึงเซ็กเมนต์ของอาหารกระทั่งผู้สูงอายุ หรือต่อไปอาจมีอาหารสำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคต่างๆ ออกมาเพื่อชะลอความเสื่อมของร่างกาย ตลอดจนการมุ่งลดต้นทุนการผลิตและสิ่งพันธกิจสำคัญ แบรนด์ต้องรักษ์โลก

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา