แค่เพียงไตรมาสแรกของปี 2021 บริษัทยายักษ์ใหญ่สัญชาติอเมริกันที่ผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 มีประสิทธิภาพสูงเป็นอันดับ 1 ของโลกอย่าง Pfizer ก็ทำรายได้มหาศาลถึง 1.46 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐหรือราว 4.5 แสนล้านบาทแล้ว
ถ้าพูดถึงผลิตภัณฑ์ของ Pfizer มีทั้งที่มีชื่อเสียงโด่งดัง หลายประเทศรู้จัก บางชนิดก็ดังและมีข้อมูลเปิดเผยให้รู้เฉพาะภายในอเมริกาเท่านั้น บางชนิดก็ใช้จำหน่ายในประเทศ บางชนิดประเทศไทยก็ไม่ได้นำเข้ามา ยาที่เป็นที่รู้จักและนิยมกัน มีอยู่ 7 ตัว ดังนี้
- (1) Advil เป็นยาบรรเทาอาการปวด ลดไข้ แก้สารพัดปวด ปวดไมเกรน ปวดประจำเดือน ปวดกล้ามเนื้อ
- (2) Bextra ยาที่ใช้รักษาอาการปวดเฉียบพลัน โรคข้อเสื่อม โรครูมาตอยด์ และรักษาอาการปวดชนิดปฐมภูมิ
- (3) Celebrex เป็นยาที่บรรเทาอาการอักเสบและอาการปวดในโรคข้อกระดูกเสื่อมและข้ออักเสบรูมาตอยด์
- (4) Diflucan เป็นยารักษาและป้องกันการติดเชื้อรา รักษากลากและเกลื้อน
- (5) Lyrica เป็นยารักษาอาการปวดประสาท
- (6) Robitussin เป็นยารักษาอาการไอ ลดเสมหะ
- (7) Viagra เป็นยาช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ
สำหรับรายได้ของ Pfizer ในไตรมาสแรกของปี 2021 นี้ อยู่ที่ 14,582 ล้านเหรียญสหรัฐ เทียบกับปี 2020 ไตรมาสแรก มีรายได้อยู่ที่ 10,083 ล้านเหรียญสหรัฐ รายได้เพิ่มขึ้นมากถึง 45% รายได้ Pfizer แบ่งเป็นรายได้จากวัคซีน, ด้านมะเร็ง เนื้องอก, ด้านอายุรศาสตร์, โรงพยาบาล, ระบบภูมิคุ้มกันและโรคหายาก ดังนี้
วัคซีน
- ปี 2021 ทำรายได้จากวัคซีน 4,894 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 1.54 แสนล้านบาท
- ปี 2020 ทำรายได้จากวัคซีน 1,611 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 5 หมื่นล้านบาท
- อัตราความเปลี่ยนแปลง *% (Pfizer ไม่ระบุ แจ้งแค่ว่า ตัวเลขความเปลี่ยนแปลงไม่ได้มีความสำคัญใดๆ)
ด้านมะเร็ง เนื้องอก
- ปี 2021 ทำรายได้อยู่ที่ 2,862 ล้านเหรียญสหรัฐ
- ปี 2020 ทำรายได้ 2,435 ล้านเหรียญสหรัฐ
- เพิ่มขึ้น 18%
ด้านอายุรศาสตร์
- ปี 2021 ทำรายได้ 2,594 ล้านเหรียญสหรัฐ
- ปี 2020 ทำรายได้ 2,332 ล้านเหรียญสหรัฐ
- เพิ่มขึ้น 11%
โรงพยาบาล
- ปี 2021 ทำรายได้ 2,343 ล้านเหรียญสหรัฐ
- ปี 2020 ทำรายได้ 2,088 ล้านเหรียญสหรัฐ
- เพิ่มขึ้น 12%
ระบบภูมิคุ้มกันและการอักเสบ
- ปี 2021 ทำรายได้ 1,065 ล้านเหรียญสหรัฐ
- ปี 2020 ทำรายได้ 978 ล้านเหรียญสหรัฐ
- เพิ่มขึ้น 9%
โรคหายาก
- ปี 2021 ทำรายได้ 824 ล้านเหรียญสหรัฐ
- ปี 2020 ทำรายได้ 639 ล้านเหรียญสหรัฐ
- เพิ่มขึ้น 29%
ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้รายได้ Pfizer พุ่งทะยานสูงขึ้นกว่าไตรมาสแรกของปี 2020 ถึง 45%
(1) BNT162b2 หรือวัคซีนต้านโควิด-19 ของ Pfizer ทำเงินได้มากถึง 4,894 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 1.54 แสนล้านบาท
(2) Eliquis หรือยาต้านป้องกันภาวะสมองขาดเลือดและป้องกันการเกิดลิ่มเลือดที่ไปอุดตันตามเส้นเลือดในส่วนต่างๆ ของร่างกาย ยาตัวนี้มีรายได้ทั่วโลกเพิ่มขึ้นมากถึง 25% ยอดขายเติบโตมากโดยเฉพาะในอเมริกาและยุโรป
(3) Vyndaqel/ Vyndamax เป็นยาที่รักษาโรคเกี่ยวกับกล้ามเนื้อหัวใจ ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ ลดอัตราการตายและการป่วยจนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลได้ ตัวยานี้สามารถสร้างรายได้ให้กับ Pfizer ได้ทั่วโลกมากถึง 88% ยาตัวนี้เพิ่งจะได้รับอนุมัติจากองค์การอาหารและยาไปเมื่อกุมภาพันธ์ ปี 2020
(4) Xeljanz เป็นยาที่รักษาผู้ป่วยโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายผิดปกติ ทำลายเซลส์และเนื้อเยื่อ ส่วนมากพบบริเวณข้อต่างๆ ของร่างกาย ยาตัวนี้สร้างรายได้ทั่วโลก 18% เฉพาะในสหรัฐอเมริกาเติบโตถึง 16% ส่วนตลาดต่างประเทศเติบโตราว 21%
(5) Xtandi เป็นยาสำหรับการต้านการแพร่กระจายของเนื้อร้ายและต้านมะเร็งต่อมลูกหมาก มียอดขายในอเมริกาเติบโตเพิ่มขึ้น 28% เพิ่งได้รับการอนุมัติในสหรัฐฯ เมื่อเดือนธันวาคม 2019 ที่ผ่านมา
(6) Inlyta ยาที่ใช้รักษามะเร็งไตที่สามารถแพร่กระจายเซลส์มะเร็งได้ ช่วยยับยั้งเซลส์มะเร็ง หรืออยู่ในจุดที่ไม่สามารถจัดการได้ด้วยการผ่าตัด ยาชนิดนี้สามารถทำรายได้ทั่วโลกเพิ่มขึ้น 34% มีความต้องการเพิ่มขึ้นทั้งในสหรัฐอเมริกาและยุโรป เพิ่งได้รับการอนุมัติให้ใช้ยาตัวนี้ได้เมื่อปี 2019 ที่ผ่านมา
(7) Biosimilars ยาชีววัตถุคล้ายคลึง เป็นตัวยาที่ผลิตหรือได้มาจากสิ่งมีชีวิต มีกระบวนการผลิตที่ซับซ้อน เติบโตมากถึง 79% จากการดำเนินงานเป็น 530 ล้านเหรียญสหรัฐเป็นยาที่ช่วยกระตุ้นภูมิต้านทาน ยารักษาโรคมะเร็ง มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งเต้านม ยารักษาภาวะโลหิตจางช่วยทำให้ร่างกายสร้างเซลส์เม็ดเลือดแดง
(8) ผลิตภัณฑ์โรงพยาบาล เติบโตขึ้น 10% เป็น 2.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ได้แรงหนุนจาก Pfizer CentreOne ซึ่งทำหน้าที่พัฒนาและผลิตสัญญาและองค์กรการผลิต (CDMO) ภายใน Pfizer และทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ โดยยอดขายสะท้อนผ่านผลิตภัณฑ์จากบริษัท Upjohn ที่ผลิตยาและถูกควบรวมกับบริษัท Mylan และจัดตั้งเป็นบริษัท Viatris เมื่อปี 2020 ที่ผ่านมา
รายได้จากผลิตภัณฑ์ของ Pfizer ตามที่กล่าวมาข้างต้น ช่วยชดเชยรายได้บางส่วนที่ลดลง
(1) Prevnar 13 คือวัคซีนป้องกันปอดอักเสบ 13 สายพันธุ์ มีการเติบโตลดลง 20% ในสหรัฐอเมริกา มีการใช้วีคซีนตัวนี้ในระดับผู้ใหญ่น้อยลง 57% หลังโควิด-19 ระบาด ทำให้เกิดข้อจำกัดทั้งการเคลื่อนไหว รวมถึงการรับวัคซีนต้านโควิด-19 ทำให้การรับวัคซีนตัวอื่นต้องชะลอตัวลงตามคำแนะนำของ CDC หรือศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ
(2) Ibrance เป็นยาที่ใช้รักษามะเร็งเต้านมบางประเภท ใช้ควบคุมการเติบโตของเซลส์และการแบ่งเซลส์ สามารถชะลอเซลส์มะเร็งและทำให้การลุกลามของมะเร็งช้าลง ยอดขายในอเมริกาลดลง 7% คาดว่าโรคระบาดและผลกระทบทางเศรษฐกิจส่งผลต่อการซื้อยาชนิดนี้ด้วย
(3) Chantix เป็นยาที่ช่วยรักษาคนที่กำลังต้องการหยุดบุหรี่
สรุป
รายได้ส่วนใหญ่ของ Pfizer ที่เพิ่มขึ้น ก็มักจะเป็นตัวยาที่สำหรับใช้รักษาโรคร้ายแรง เช่น โรคมะเร็ง เนื้องอก ที่ทำให้รายได้เพิ่มขึ้นถึง 18% โรคทางอายุรศาสตร์ เช่น โรคทางระบบหายใจ ระบบทางเดินอาหาร ต่อมไร้ท่อ ระบบหัวใจ โรคที่เกี่ยวกับเลือด เหล่านี้ทำรายได้เพิ่มขึ้น 11% ระบบภูมิคุ้มกันและการอักเสบทำรายได้เพิ่มขึ้น 9% โรคหายากรายได้เพิ่มขึ้นถึง 29% รวมถึงผลิตภัณฑ์ในโรงพยาบาลที่ทำรายได้เพิ่มขึ้น 12%
รายได้ส่วนใหญ่ที่เพิ่มขึ้นของ Pfizer นั้นเป็นผลมาจากความสามารถในการผลิตวัคซีนต้าน COVID-19 ที่มีประสิทธิภาพสูงเหนือใครในระยะเวลาอันสั้น ทำรายได้มหาศาลถึง 4,894 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 1.54 แสนล้านบาท สำหรับการผลิตวัคซีนนั้น Pfizer ไม่รับเงินจากรัฐบาลกลางมาผลิตในช่วงเริ่มต้นและเคยระบุไว้แล้วว่าจะผลิตเพื่อทำกำไร ต่างกับแบรนด์อื่นๆ ที่ออกมาบอกว่าจะผลิตวัคซีนไม่เอากำไร
ในส่วนของกำไรที่เพิ่มขึ้น ผลจากรายงานประกอบการของ Pfizer ในไตรมาสแรก ก็ไม่ระบุว่ามีอัตราส่วนที่เพิ่มขึ้นจากการผลิตวัคซีนเท่าไร บอกไว้แต่เพียงว่า ตัวเลขไม่ได้มีความสำคัญใดๆ เรื่องนี้ Pfizer ก็ถูกโจมตีจากสื่อหลายสำนักทั้งเรื่องผลิตวัคซีนเพื่อทำกำไรและการไม่เปิดเผยผลกำไรที่แท้จริง
Click to access Q1-2021-PFE-Earnings-Release.pdf
อ้างอิง – Pfizer (1), (2), Drug Watch
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา