ถ้าย้อนกลับไปก่อนช่วงก่อนโควิดแพร่ระบาด Pfizer แม้จะเป็นบริษัทดัง แต่อาจไม่ใช่บริษัทที่เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากนักในความรับรู้ของสาธารณชน ในทางกลับกัน นี่คือบริษัทชื่อก้องโลกที่ทุกคนรู้จักในปัจจุบัน เพราะเป็นเจ้าแรกที่คิดค้นวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้สำเร็จ ที่สำคัญวัคซีนของ Pfizer ก็พิสูจน์ตัวเองแล้วว่ามีประสิทธิภาพสูงทั้งจากการทดลองและการศึกษาจากกรณีศึกษาในโลกจริง นี่คือเหตุผลที่ทำให้ผลประกอบการของ Pfizer ในไตรมาส 2 ร้อนแรง มีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า
จากผลประกอบการไตรมาส 2 ที่ Pfizer เปิดเผยออกมาเมื่อวานนี้ สิ่งที่น่าสนใจคือทางบริษัทมีผลประกอบการที่น่าประทับใจ มีรายได้ในช่วงไตรมาส 2 มากกว่าปีที่ผ่านมาเท่าตัว
- รายรับในช่วงไตรมาส 2 อยู่ที่ 1.89 หมื่นล้านดอลลาร์ (เพิ่มขึ้น 92% จากปีที่ผ่านมา)
- กำไรต่อหุ้น (EPS) อยู่ที่ 1.07 ดอลลาร์ต่อหุ้น (เพิ่มขึ้น 73% จากปีที่ผ่านมา)
ทั้งนี้เป็นเพราะวัคซีนของ Pfizer ได้รับความไว้วางใจและเป็นที่ต้องการของทั่วโลก ล่าสุดวัคซีนของ Pfizer มียอดขายได้เกิน 1 พันล้านโดส และสามารถทำรายได้ถึง 7.8 พันล้านดอลลาร์ (2.56 แสนล้านบาท) ในไตรมาส 2 พูดง่ายๆ คิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของรายได้ของ Pfizer ทั้งหมด
ที่สำคัญผลประกอบการของ Pfizer สูงกว่าที่บรรดานักวิเคราะห์จาก Zacks Equity Research ลงความเห็นไว้ด้วยซ้ำ แม้ทางนักวิเคราะห์ก็ประเมินด้วยมุมมองบวกแล้วก็ตาม
- นักวิเคราะห์ประเมินว่าไตรมาสนี้ Pfizer จะมีรายรับ 1.87 หมื่นล้านดอลลาร์
- นักวิเคราะห์ประเมินว่าไตรมาสนี้ Pfizer จะมีกำไรต่อหุ้น 0.97 ดอลลาร์ต่อหุ้น
อย่างไรก็ตามธุรกิจส่วนที่ไม่ใช่วัคซีนก็สามารถทำรายได้ได้อย่างไม่เคอะเขิน กำไรจากการดำเนินงาน (operating profit) เติบโตขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ช่วยเร่งการเติบโตในไตรมาส 2 ได้ 6%
สำหรับผลประกอบการของไตรมาส 3 ทาง Pfizer จะปล่อยออกมาในวันที่ 2 พฤศจิกายน ปีนี้ ซึ่งสิ่งที่ต้องจับตาต่อไปเพราะจะมีผลต่อการประกอบการของ Pfizer คือ การกลายพันธุ์ของไวรัสโควิด-19 การพิจารณาฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เพื่อกระตุ้น และการอนุมัติขยายขอบเขตการฉีดวัคซีนจากเดิมที่จะฉีดให้กับผู้มีอายุ 12 ปีขึ้นไปมาเป็นการฉีดในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 เดือน ซึ่งทั้งหมดนี้จะทำให้ยอดแจกจ่ายวัคซีนอาจจะเพิ่มขึ้นทั่วโลก
ที่มา – Investopedia, Pfizer (1)(2)
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา