ความมั่งคั่งอย่างสมบูรณ์ หรือ Perfect Wealth ไม่ได้มีง่ายๆ เพราะนอกจากความมั่งคั่ง ความสุขก็ต้องมาพร้อมกัน จุดนี้เอง ธนาคารกสิกรไทย จึงยกระดับบริการ Private Banking ไปอีกขั้น เพื่อรักษาเบอร์หนึ่งของบริการนี้
รักษาเบอร์หนึ่งด้วยกลยุทธ์ที่ถูกต้อง
ปัจจุบันจำนวนลูกค้ากลุ่ม Private Banking หรือผู้มีสินทรัพย์ให้ทางธนาคารกสิกรไทยบริหารมากกว่า 50 ล้านบาท นั้นค่อยๆ เพิ่มขึ้น เช่นในปี 2560 มีทั้งหมด 10,500 คน เติบโตราว 7% โดยหลักๆ มาจากกลุ่มลูกค้า THE WISDOM ที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน และขยับขึ้นมาเป็นลูกค้าระดับ Private Banking
จิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ ผู้บริหารสายงานธุรกิจบริการไพรเวทแบงค์ ธนาคารกสิกรไทย เล่าให้ฟังว่า การเติบโตในแง่จำนวนลูกค้าระดับ Private Banking ของธนาคารนั้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยระดับประเทศถึง 1 เท่าตัว และคิดเป็นเบอร์หนึ่งของตลาด ผ่านสัดส่วน 34% แสดงให้เห็นถึงความไว้ใจ และกลยุทธ์การทำตลาดที่เดินมาในทิศทางที่ถูกต้อง
“แม้ตัว Asset รวมของ Private Banking ที่ธนาคารกสิกรไทยบริหารอยู่กว่า 7.5 แสนล้านบาทจะลดลงเล็กน้อย แต่ตัวหลักทรัพย์ที่ลูกค้าให้มาบริหารได้เปลี่ยนจากเงินฝาก เป็นการลงทุนมากขึ้น ทำให้เกิด Perfect Wealth ได้อย่างแท้จริง ซึ่งพวกเขาเชื่อใจเราในการบริหารหลักทรัพย์เหล่านั้นเพื่อความยั่งยืนในอนาคต”
ก้าวต่อไปกับความง่าย แต่ตอบแทนสม่ำเสมอ
เมื่อทิศทางของหลักทรัพย์เป็นการลงทุนมากขึ้น การพัฒนาผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับกองทุนก็ต้องทำให้ดีกว่าเดิม ซึ่งในปี 2560 ทางธนาคารได้สร้าง K-Alpha 2.0 หรือคำแนะนำการลงทุนบนหลักการหักกลบความเสี่ยงที่เพิ่มความง่ายในการกระจายความเสี่ยงโดยเน้นลงทุนระยะยาว และนำเงินเข้าลงทุนตลอดเวลา เพื่อสร้างผลตอบแทนสม่ำเสมอ
“K-Alpha 2.0 จะแบ่งการลงทุนเป็นส่วนการลงทุนหลัก (Core Investment) ส่วนใหญ่เพื่อตอบโจทย์ระยะยาว และส่วนการลงทุนเสริม (Satellites) เพื่อผลตอบแทนสูง ในบางจังหวะของเศรษฐกิจ โดยเราตั้งเป้าเติบโต ผ่านการขยายรูปแบบการลงทุนให้มากขึ้น”
ขณะเดียวกันธนาคารกสิกรไทยยังพร้อมช่วยเหลือการวางแผนความยั่งยืนในธุรกิจครอบครัว เช่นเรื่องภาษี และข้อกฎหมายต่างๆ รวมถึงการให้คำปรึกษาในเชิงการสร้างรายได้จากอสังหาริมทรัพย์ เพราะกลุ่ม Private Banking นั้นมีที่ดินอยู่จำนวนหนึ่งเช่นกัน เพื่อช่วยให้หลักทรัพย์ในมือของพวกเขามีเกิดประสิทธิภาพสูงที่สุด พร้อมกับมี e-Multimedia Publication ในชื่อ “PERFECT WEALTH” เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวของชีวิต และความมั่งคั่งที่ยั่งยืน ไม่ใช่แค่มูลค่าทรัพย์สิน ผ่านบุคคลต้นเรื่องที่เป็นลูกค้าทรงเกียรติของทางธนาคาร
เชื่อมั่น 2561 ภาพรวมตลาดโลกยังโต
“ปี 2560 เป็นปีที่ทุกปัจจัยดีหมด เรียกว่า Wonderful Year ก็ไม่ผิดนัก และเชื่อว่าในปี 2561 เทรนด์นี้ยังคงเดินต่อเนื่อง ทำให้โอกาสที่ได้ผลกำไรกลับมาจากการลงทุนก็สูงขึ้นเช่นกัน ดังนั้นเรื่องความเสี่ยงจึงไม่มีมากเหมือนปีก่อนๆ แต่เราก็แนะนำให้ Stay invested, but be prepared และลงทุนในตลาดเกิดใหม่เป็นหลัก”
และเพื่อรับกับเทรนด์ตลาดโลกมากขึ้น ธนาคารกสิกรไทยได้ส่งบุคลากรไปอบรมกับ Lombard Odier ที่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่สำคัญของธนาคารเพื่อยกระดับให้บริการของธนาคารให้เทียบเท่าสากล พร้อมกับเตรียมเข้าไปทำตลาดกับกลุ่มเศรษฐีในต่างจังหวัดมากขึ้น
นอกจากนี้ทางธนาคารยังเตรียมยกระดับตนเองขึ้นเป็น Best Private Banker for Chinese In Thailand หลังนักธุรกิจชาวจีนมาทำตลาดในไทยมากขึ้น และด้วยธนาคารเพิ่งรับใบอนุญาตในการประกอบกิจการที่จีน ทำให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมทำตามปรัชญา When Your Wish is More Than Wealth
สรุป
ถือเป็นก้าวสำคัญของธนาคารกสิกรไทยในการรักษาความเป็นผู้นำในกลุ่มบริการ Private Banking เอาไว้ ด้วยความจริงจังในการบริหารหลักทรัพย์, การส่งบุคลากรไปอบรม รวมถึงความจริงใจในการบริการ เหมือนกับประโยคว่า “ทุกระดับประทับใจ” ทำให้กลุ่มลูกค้าเศรษฐีให้ความไว้วางใจเพื่อบริหารหลักทรัพย์กว่า 7.5 แสนล้าน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา