ไก่ทอดเกาหลีบุกไทยอีกเจ้า! Pelicana แบรนด์เก่าแก่ 40 ปี ที่คนเกาหลีทุกคนต้องรู้จัก

คนไทยกับ ‘ไก่ทอด’ เป็นของคู่กันมากกก! จะผ่านมากี่ปีๆ ความนิยมในไก่ทอดของคนไทยก็ไม่เคยเสื่อมคลาย ก่อนหน้านี้ข้อมูลจาก LINE MAN ระบุว่า ‘ไก่ทอด’ เป็นเมนูอาหารที่มียอดสั่งสูงสุดบนแพลตฟอร์ม เพราะคนไทยสั่งไก่ทอดบน LINE MAN ไปแล้ว 21 ล้านชิ้นใน 1 ปีที่ผ่านมา หรือเกือบ 1 ใน 3 ของประชากรไทย

นอกจากนั้น ‘ตลาดไก่ทอด QSR’ ในประเทศไทยยังมีมูลค่ามากถึง 30,000 ล้านบาท แถมยังโตเฉลี่ยปีละ 8% จึงไม่แปลกที่ทุกๆ ปีจะมี ‘แบรนด์ไก่ทอด’ แบรนด์ใหม่ปรากฎตัวขึ้นในประเทศไทย แม้ว่าในตลาดไก่ทอดจะมีคนมาและมีคนไปอยู่ตลอดเวลา

รอบนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น ‘Pelicana’ (เพลิคานา) แบรนด์ไก่ทอดเก่าแก่ระดับตำนานของเกาหลีที่ตัดสินใจมาบุกไทย

ไก่ทอดเกาหลีในตำนาน 40 ปี 3,000 สาขา

ถ้าสงสัยว่า Pelicana เป็นใคร? ผู้บริหารของ Pelicana เล่าว่า ถ้าถามคนเกาหลี 100 คนว่า “รู้จัก Pelicana ไหม?” เชื่อว่า 99 คนจะต้องรู้จักอย่างแน่นอน เพราะ Pelicana เป็นแบรนด์ไก่ทอดเกาหลีที่เปิดมาแล้วกว่า 40 ปี อยู่คู่กับคนเกาหลีมาหลายรุ่น จนทำให้เป็นแบรนด์เก่าแก่ที่คนเกาหลีทุกเพศทุกวัยคุ้นเคย

ชื่อ Pelicana มาจากนก Pelican ที่จะต้องคาบอาหารกลับรังให้ลูกๆ กิน เช่นเดียวกับพ่อๆ แม่ๆ ชาวเกาหลีที่เมื่อเงินเดือนออกก็จะซื้อไก่ทอดกลับบ้านไปให้ลูกๆ ที่บ้านได้ฉลองกัน

แม้ Pelicana จะไม่ใช่ร้านไก่ทอดที่มีจำนวนสาขามากที่สุดในเกาหลี แต่ก็มีจำนวนสาขามากถึง 1,245 สาขาในเกาหลี และมีสาขารวมทั่วโลกกว่า 3,000 สาขา เพราะได้ขยายตัวไปเปิดในหลายประเทศ

ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา แคนาดา อังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ไต้หวัน มาเลเซีย และจีนมาแล้ว ก่อนตัดสินใจมาลุยไทยในปีนี้ และมี บริษัท เพลิคาน่า (ประเทศไทย) จำกัด เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในประเทศไทยเพียงผู้เดียว

เปิดปีละ 5 สาขา เน้นลูกค้า Gen Z และ Y ชอบทดลองของใหม่

สำหรับตลาดไทย Pelicana เลือกเปิดสาขาแรก ณ อาคารสยามสเคปที่ตั้งอยู่ในสยามสแควร์ เพราะตั้งเป้าหมายจะเจาะลูกค้ากลุ่ม Gen Z และ Gen Y เป็นหลัก

ตั้งแต่กลุ่มนักเรียน นักศึกษา คนวัยเริ่มต้นทำงาน ไปจนถึงแฟนคลับของซีรีส์เกาหลี แฟนคลับศิลปิน K-Pop ทุกเพศทุกวัย และนักท่องเที่ยวชาวเอเชียด้วย

ในอีก 2 ปีข้างหน้าจึงจะเน้นเปิดสาขาในห้างสรรพสินต่างๆ ในกรุงเทพฯ เป็นหลัก รวมถึงช่องทางเดลิเวอรี่ทุกแพลตฟอร์มด้วย

สาเหตุที่เลือกเจาะกลุ่ม Gen Z และ Gen Y เป็นเพราะสองกลุ่มนี้ยังคงชอบทดลองอะไรใหม่ๆ อยู่ตลอด ขณะที่กลุ่ม Gen X ขึ้นไปจะไม่เปลี่ยนใจมาทดลองแบรนด์ใหม่ๆ แล้ว แต่เลือกทานแบรนด์เดิมๆ ที่คุ้นเคย

ผู้บริหารยังบอกด้วยว่า ในการเปิดสาขาอื่นๆ จะเน้นเจาะลูกค้า Gen Y มากขึ้น อย่างเช่นมีเมนูเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย แผนในระยะยาวของ Pelicana คือ เปิดร้านใหม่ 5 สาขาในปีนี้ ขยายเป็น 10 สาขาในปีหน้า และ 20 สาขาในปีถัดไป

โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้ในปีแรกเอาไว้ 100 ล้านบาท และตั้งเป้าจะมีรายได้ 500 ล้านบาทในอีก 3 ปีข้างหน้า ด้านส่วนแบ่งตลาด Pelicana วางเป้าหมายจะมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 2.5% ของตลาดไก่ทอด QSR ที่มีมูลค่าตลาด 30,000 ล้านบาทต่อปี และเติบโตมากถึงปีละ 8%

มาทีหลังไม่เป็นไร เน้นสินค้าเข้ากับคนไทย สร้างความประทับใจไปบอกต่อ

ในส่วนของตลาดไก่ทอดเกาหลีมีผู้เล่นในตลาดอยู่ราว 10 แบรนด์ ตั้งแต่ไซส์ใหญ่ไปจนถึงไซส์เล็กๆ แต่ Pelicana มั่นใจว่าจุดเด่นของแบรนด์แตกต่างจากตลาด เน้นไก่คุณภาพสูง หมัก 24 ชั่วโมง ทอดทีละจาน เปลี่ยนน้ำมันทุกวัน และวัตถุดิบนำเข้าจากเกาหลี

รวมถึงรสชาติที่มีให้เลือกมากถึง 10 รสชาติ อาทิ ซอสซิกเนเจอร์ ซอสน้ำผึ้ง ซอสสโมกกี้ฮ็อต ซอสกังจอง ซอสเผ็ด ซอสสโมกกี้มาโย ซอสเผ็ดมาโย ซอสกระเทียม ซอสถั่วเหลือง และผงชีส

แม้ตลาดไก่ทอดในประเทศไทยจะเป็นตลาดที่มีความท้าทาย เพราะมีการแข่งขันสูงจากแบรนด์ไทยและแบรนด์สากดจำนวนมาก แต่ Pelicana มองว่า การเข้ามาทีหลังจะทำให้ลูกค้ามีความเข้าใจในไก่ทอดเกาหลีอยู่แล้ว แบรนด์แค่ต้องอาศัยคุณภาพสร้างความประทับใจ ช่วงแรกจึงลงเวลาไปกับการพัฒนาโปรดักส์ให้เหมาะกับลูกค้าชาวไทยมากขึ้น

Pelicana จึงได้พัฒนาเมนูพิเศษเฉพาะในประเทศไทย คือ ‘ข้าวมันไก่ทอดเกาหลี’ โดยเสิร์ฟไก่ทอดเกาหลี พร้อมกับข้าวมันหอมมะลิของไทย ซึ่งคาดว่าลูกค้าจะให้การตอบรับเป็นอย่างดี เพราะความฮอตของข้าวมันไก่และไก่ทอดระดับพรีเมียมที่น่าจะเติบโตต่อเนื่องด้วย

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา