ศึกษาความกล้าของ Pantene กับสื่อโฆษณาที่กระตุ้นสาวๆ ญี่ปุ่นให้เป็นตัวเองเวลาไปสมัครงาน

ในญี่ปุ่นอะไรๆ ก็เป็น Uniform ไปหมด ไม่เว้นแต่เวลาไปสมัครงานที่ผู้หญิงต้องใส่สูทดำ-กระโปรงยาว-รองเท้าส้นสูง แถมต้องรวบหางม้า พร้อมหน้าม้าปาด Pantene จึงทนไม่ไหว และส่งสื่อโฆษณาให้สาวๆ เป็นตัวเองได้แล้ว

แคมเปญโฆษณาของ Pantene

บ่งบอกความเป็นแบรนด์ที่เคียงข้างผู้หญิง

เรื่องมันเริ่มมาจากช่วงนี้เป็นฤดูสมัครงานของประเทศญี่ปุ่น ทำให้เวลาเดินไปไหนก็จะเจอคนที่แต่งตัวเหมือนๆ กันหมด โดยเฉพาะกับผู้หญิงจบใหม่ที่มาพร้อมกับสูท และกระโปรงสีดำ สวมใส่ถุงน่อง กับรองเท้าส้นสูง แต่ที่ขาดไม่ได้เลยคือทรงผมรวบหางม้า พร้อมกับหน้าม้าปาด

ทำให้ Pantene ประเทศญี่ปุ่นตัดสินใจทำแบบสำรวจกับผู้หญิงที่กำลังหางานกว่า 1,000 คน และพบว่าพวกเธอต่างก็อยากให้มีอิสระในการแต่งกายเวลาไปสมัครงานมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องทรงผม แต่ทุกคนก็เข้าใจถึงความยากที่จะเปลี่ยนแปลง ดังนั้น Pantene จึง Tweet รูปภาพเพื่อแสดงให้เห็นว่าผู้หญิงทุกคนสามารถทำเรื่องนี้ได้

นอกจากนี้ยังซื้อโฆษณาหนังสือพิมพ์การเงินอย่าง Nikkei เต็มหน้า เพื่อแสดงรูปภาพ และข้อความเดียวกับที่ใช้ใน Twitter ด้วย ซึงประโยคเด็ดก็คงไม่พ้น “ถ้าไม่ทำผมทรงนั้น ฉันจะไม่ได้งานเลยเหรอ?” รวมถึง “หวังว่าการไปสมัครงานโดยไม่ต้องรวบหางม้าจะเป็นเรื่องปกติของประเทศญี่ปุ่น”

และถ้ามองไปที่ภาพดีๆ จะพบว่าตัวภาพจะสร้างมาจากตัวอักษรที่อุดมไปด้วยคำตอบจากแบบสำรวจเกี่ยวกับเรื่องการแต่งกายไปสมัครงานที่ Pantene จัดทำขึ้น โดย 81% ของผู้ทำแบบสอบถามบอกว่า พวกเธอยอมไม่เป็นตัวเอง หรือผูกหางม้า ทำหน้าม้าปาด เพื่อหวังว่าจะเข้าในสังคมนี้ และได้รับตำแหน่งในงานที่ชอบ

ที่สำคัญสื่อโฆษณาตัวนี้ได้รับคำชื่นชมจากผู้คนบนโลก Online เป็นอย่างมาก เพราะทุกคนต่างต้องการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมเดิมๆ ไปด้วยกัน ซึ่งก่อนหน้านี้การลงโฆษณาเต็มหน้าหนังสือพิมพ์เพื่อเปลี่ยนแปลงสิ่งเดิมๆ ก็มีมาแล้ว เช่น Godiva ที่อยากเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมวันวาเลนไทน์

สรุป

การทำโฆษณาเพื่อเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมเดิมๆ ของแต่ละประเทศถือเป็นเรื่องท้าทายเป็นอย่างมาก เพราะมีโอกาสที่ตัวแบรนด์จะถูกโจมตีจากคนหมู่มากที่ยังรักวัฒนธรรมเดิมๆ อยู่ แต่เชื่อว่าการทำตลาดแบบเลือกข้างนั้น น่าจะมีอีกหลายแบรนด์จัดทำขึ้น หลังความสำเร็จของ Nike ที่ทำแคมเปญโฆษณาแบบเลือกข้างออกมา

อ้างอิง // Soranews24

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา