Cheese Tart เจ้าใหม่จะอร่อยขนาดไหน แล้วทำไมต้อง Pablo ลองมาหาคำตอบไปด้วยกัน

ช่องว่างในตลาดร้านเบเกอรี่ไทยยังเปิดกว้างให้ผู้เล่นรายใหม่เสมอ สังเกตจากมีทั้งผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่พัฒนาสูตรเบเกอรี่ขึ้นเองเพื่อจำหน่าย และอีกส่วนก็ซื้อเฟรนไชส์จากเมืองนอกมาทำตลาด ซึ่งทั้งคู่ก็มีทั้งแป้ก และไปต่อได้ในระยะยาว และช่วงสิ้นปีนี้ก็มีร้าน Cheese Tart เจ้าใหม่เปิดให้บริกาในชื่อ Pablo ดังนั้น Brand Inside จึงไม่รอช้า และอาสาพาผู้ผ่านไปชิมกัน

pablo

ความอร่อยอยู่ที่ความสุกเหมือนสั่ง Steak

ก่อนจะชิมกันต้องมารู้จักกับ Pablo ซะก่อน เพราะถ้ารู้ประวัติแล้ว ความซาบซึ้งในรสชาติน่าจะมีมากขึ้น (มั้ง) โดยตัว Pablo นั้นเกิดขึ้นจาก Masamisu Sakimoto (มาซามิสุ ซากิโมโต้) ที่ชื่นชอบในการทำขนม และพยายามหาอะไรใหม่ๆ มาทำให้ Dessert Lover ได้ปลื้มปริ่ม ซึ่ง Cheese Tart ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่นักทำขนมคนนี้ต้องการพัฒนาสูตร แต่จนแล้วจนรอดก็ยังได้รสชาติไม่ตรงใจเขาสักที

จนวันหนึ่ง ซาคิโมโต้ ได้ทดลองชิม Cheese Tart ที่ยังอบไม่เสร็จดี เพราะตัวครีมชีสเยิ้มออกมามากกว่าปกติ และจากความบังเอิญนั้นเองทำให้นักทำขนมรายนี้ปิ๊งไอเดียขึ้นมาว่า ทำไมไม่ให้ลูกค้าสามารถเลือกความสุกของ Cheese Tart เหมือนกับเวลาสั่งสเต็กล่ะ และจากจุดเริ่มต้นนี้เอง การสั่ง Cheese Tart ของ Pablo จึงมีแบบ Rare และ Medium เพื่อให้ลูกค้าสามารถดื่มด่ำไปกับรสชาติที่ตนเองชอบได้เต็มที

Premium Cheese Tart ราคา 780 บาท
Premium Cheese Tart ราคา 780 บาท

คนทำก็ชื่อญี่ปุ่น แล้ว Pablo มาจากไหน?

เรื่องชื่อเป็นอีกเรื่องที่ผู้เขียนสงสัย เพราะประวัติของแบรนด์ Pablo นั้นเริ่มที่ญี่ปุ่น โดยคนญี่ปุ่น แล้วทำไมถึงตั้งชื่อร้านว่า Pablo? ซึ่งเรื่องนี้ ซากิโมโต้ เล่าให้ฟังว่า การทำขนมเหมือนออกแบบงานศิลปะ แต่การที่เขาปฏิวัติวงการ Cheese Tart ที่ญี่ปุ่น ก็เลยอยากได้ชื่อศิลปินที่มีลักษณะคล้ายกัน สุดท้ายจึงเลือก Pablo Picasso มาเป็นชื่อ แต่ด้วยความยาว จึงตัดเหลือแค่ Pablo และเริ่มวางขายในร้านตั้งแต่ปี 2554 ก่อนขยายเป็น 20 แห่งทั่วประเทศญี่ปุ่น

และด้วยความน่าสนใจของรสชาติ และ Story ของ Cheese Tart เจ้านี้ ทำให้มีผู้สนใจจากหลากหลายประเทศติดต่อไปทำทำตลาด ทั้งเกาหลี, ไต้หวัน, ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย และล่าสุดที่ประเทศไทย ผ่านการนำเข้ามาโดยกลุ่มทุนใบหยก ผ่านการใช้งบประมาณ 50 ล้านบาท เพื่อ Soft Opening ร้าน Pablo สาขาแรกที่ห้างสยามพารากอนเมื่อเดือนต.ค. ก่อน Grand Opening เดือนพ.ย. และมองการขยายสาขาอีก เพื่อบรรลุเป้าหมายรายได้ในปีแรกที่ 100 ล้านบาท/สาขา

บรรยากาศวันแรกของการเปิดร้านอย่างเป็นทางการ
บรรยากาศวันแรกของการเปิดร้านอย่างเป็นทางการ

ชีสเยิ้มๆ กับรสชาติฟินๆ

จบเรื่องประวัติ มาพูดถึงเรื่อง Cheese Tart ดีกว่า โดยตัว Cheese Tart ของ Pablo นั้นจะแตต่างกับ Cheese Tart ของร้าน Bake ของสองพี่น้องในวงการบันเทิง วิลลี่ และแหม่ม ที่เปิดในประเทศไทยเมื่อปลายปีก่อน เพราะมีเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 15 ซม. หรือราวๆ เค้ก 1 ปอนด์ ผ่าน 3 รสชาติคือ ต้นตำหรับ, ชาเขียว และช็อคโกแลต ราคาเริ่มต้น 415 บาท แต่ถ้าใครกินชิ้นใหญ่ไม่ไหว ทางร้านก็มีชิ้นเล็กๆ ไว้ให้ ขนาดใกล้เคียงกับทาร์ตปกติ ราคาเริ่มต้น 75 บาท

สรุป

ตลาดขนมยังมีที่ว่างเสมอ ดังนั้นร้านใดอยากอยู่ได้นาน ก็ต้องรักษาความนิยมไว้ให้ได้ ซึ่งตัว Cheese Tart ของ Pablo นั้นก็มีโอกาส เพราะเตรียมขยายสาขา และพัฒนารสชาติใหม่ๆ ตามฤดูกาลออกมา เพื่อแก้ความจำเจของรสชาติ ส่วนเรื่องกลุ่มลูกค้า ตอนนี้ก็คงต่อแถวกันยาวๆ ก่อน แม้ตัวราคาจะค่อนข้างสูงก็ตาม ดังนั้นใครอยากชิมก็รออีกนิดนะจะได้ต่อแถวไม่นาน

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา