อายุเฉลี่ยของคนทำงานในสหรัฐฯ คือ 42 ปี แต่ถ้ามาดูอายุเฉลี่ยของคนทำงานในซิลิคอนวัลเล่ย์ อาณาจักรไอทีที่ทรงอิทธิพลของโลก ให้ทายว่าอายุเฉลี่ยคือเท่าไร
เมื่อมาเจาะดูสถิติอายุของบริษัทยักษ์ใหญ่กันบ้าง ข้อมูลของสำนักวิจัย PayScale ระบุว่า Apple อายุพนักงานเฉลี่ย 31 ปี, Google และ Tesla อายุพนักงานเฉลี่ย 30 ปี, ส่วน Facebook และ LinkedIn อายุเฉลี่ยคือ 29 ปีเท่านั้นเอง
ทุกคนคงรู้กันดีอยู่แล้วว่าซิลิคอนวัลเลย์คือโลกของคนหนุ่มสาวเป็นหลัก คำถามคือคนทำงานที่อายุเยอะกว่านั้นไปอยู่ที่ไหนกัน?
โลกไอทีไม่ใช่ที่ของคนแก่
ตอนนี้มีหลายอุตสาหกรรม ที่พยายามเปลี่ยนคนทำงานที่มีอายุ มาเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีฐานเงินเดือนต่ำกว่า
ในขณะที่โลกไอทีฝั่งซานฟรานซิสโก แนวคิดนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว ที่นี่ไม่มีใครให้ความสนใจกับคนที่มีประวัติการทำงานในเรซูเม่ยาวเป็นหางว่าว คนที่ให้ภาพรวมในเรื่องนี้ได้ดีที่สุดคือ Mark Zuckerberg เคยพูดไว้เมื่อตอนอายุ 22 ปีว่าเป็นเพราะ “กลุ่มคนรุ่นใหม่ ฉลาดกว่าคนรุ่นก่อน” นั่นเอง
นอกเหนือจากปัญหาความไม่เท่าเทียม การเลือกปฏิบัติระหว่างเพศในบริษัทไอทีที่ยังคาราคาซัง ปัญหาช่องว่างทางอายุกลับมีมานานมากและดูจะไม่ค่อยมีใครมองเห็น
ตั้งแต่ปี 2008 เป็นต้นมา มีบริษัทยักษ์ใหญ่ 150 แห่งในซิลิคอนวัลเลย์ เจอคดีความที่ร้องเรียนเข้ามาทางกรมการจ้างงานอย่างยุติธรรมของรัฐแคลิฟอร์เนีย (California Department of Fair Employment) เรื่องการเลือกปฎิบัติทางอายุ (age discrimination) ถึง 226 คำร้อง ซึ่งมากกว่าข้อร้องเรียนเรื่องอคติเรื่องชาติพันธุ์ถึง 28% และมากกว่าการร้องเรียนเรื่องเลือกปฏิบัติระหว่างเพศ 9%
เคล็ดลับการสัมภาษณ์งาน: เปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดูหนุ่มสาวกว่าอายุ
ถึงแม้วัฒนธรรมของซิลิคอนวัลเลย์จะให้ความสำคัญกับคนรุ่นใหม่มากกว่า แต่การได้เข้าทำงานในบริษัทไอทีโดยเฉพาะในซิลิคอนวัลเล่ย์ก็ยังหอมหวานและน่าดึงดูดคนมีอายุอยู่ดี
คำถามคือเมื่อคนทำงานมีแต่เด็กๆ รุ่นใหม่ คนอายุ 40 ขึ้นไปต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างไร เพื่อให้เข้าตาคณะกรรมการสัมภาษณ์งาน ที่อาจมีอายุน้อยกว่าลูกของพวกเขาเองด้วยซ้ำ
Andrea Rodriguez อายุ 50 ปี เคยทำงานเป็นผู้ฝึกอบรมเซลส์ที่ SugarCRM บริษัทซอฟต์แวร์ทางธุรกิจ แต่เมื่อเธอต้องหางานใหม่ในซิลิคอนวัลเลย์ เธอถึงกับต้องเลิกใส่สูทในวันสัมภาษณ์งาน เปลี่ยนมาสวมสเวตเตอร์สีสันสดใส หรือใส่แจคเก็ตสวมทับแทนสูทเพื่อไม่ให้ดูแก่เกินไป
เธอยังต้องไปศึกษาคำใหม่ๆ ที่เธอไม่เคยได้ยินมาก่อนตามเว็บไซต์ต่างๆ อย่าง Yelp, Reddit, MSNBC เพื่อดูว่าวัยรุ่นเขาสนใจอะไรกัน เธอหาข้อมูลเยอะมากเพื่อจะได้คุยกับคนอื่นรู้เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาพยนตร์ซุปเปอร์ฮีโร่, บาสเก็ตบอลทีม Golden State Warriors หรือเรื่องดาราสาว Kim Kardashian
Rodriguez ยังต้องสร้างเครือข่ายในสังคมออนไลน์ต่างๆ เช่น LinkedIn Twitter Snapchat Pinterest และเริ่มเขียนบล็อก ด้วยความพยายามหนักหน่วงเหล่านี้ ส่งผลให้เธอได้งานที่บริษัท Aruba ผู้ผลิตอุปกรณ์ไร้สาย (HPE เป็นเจ้าของ)
เธอบอกเคล็ดลับในการทำงานกับคนรุ่นใหม่ว่า ต้องให้เพื่อนร่วมงานมองเธอเป็น “พี่สาว” ไม่ใช่ “แม่” และต้องขยันออกไปพบปะสังสรรค์กับคนที่ทำงานให้มากเข้าไว้
Michael Peredo อายุ 55 ปี เป็นอดีตวิศวกรที่ Mercedes-Benz แต่หลังเขาถูกปลด เขาไปปรึกษา ProMatch บริษัทที่ปรึกษาเรื่องการหางานว่าควรทำอย่างไรจึงจะได้งานในยุคสมัยนี้
ProMatch บอกว่า Peredo ต้องทิ้งเนคไทรูปโบว์ เปลี่ยนรูปโปรไฟล์ใน LinkedIn เป็นรูปภาพเท่ๆ และตัดข้อมูลที่เก่าเกิน 10 ปีในเรซูเม่ออกให้หมด เขายังต้องใช้เวลา 18 เดือนว่างงานอยู่พักใหญ่ๆ ก่อนจะได้งานสัญญาจ้างทำซอฟต์แวร์ให้กับรถยนต์ไร้คนขับ
เปลี่ยนการแต่งตัวไม่พอ บางคนถึงขั้นศัลยกรรมลดอายุ
Bob Schoenberger วิศวกรซอฟต์แวร์รายหนึ่งอายุ 61 ปี ถือเป็นคนที่โชคร้ายเพราะงานที่บริษัทผลิตชิปป Applied Materials ที่เขาเคยทำอยู่ถูกเอาต์ซอร์สไปเอเชียแทน เขาต้องไปหันเขียนโปรแกรมภาษาใหม่เพื่อเข้ากับยุคสมัย และกำลังคิดจะขายบ้านในแถบซานฟรานซิสโกที่ค่าครองชีพแพง ย้ายไปอยู่เมืองอื่นที่ค่าใช้จ่ายถูกกว่า
วิศวกรอีกรายหนึ่งอายุ 60 ปี (ไม่เปิดเผยชื่อ) ถูกให้ออกจากบริษัททำชิปแห่งหนึ่งในเมือง San Jose สิ่งที่เขาทำในวันสัมภาษณ์งานคือเปลี่ยนมาใส่เสื้อสบายๆ ใส่กางกางกากี รองเท้าผ้าใบ เขายังต้องฝึกเขียนโปรแกรมสำหรับระบบฝังตัว หันมาออกกำลังกาย ย้อมผมขาวให้เข้มขึ้น และความพยายามขั้นสุดคือทำศัลยกรรม แก้รอยใต้ตาให้ดูอ่อนเยาว์ลงด้วย
ไม่ใช่วัยกลางคนทุกรายที่พยายามแล้วสำเร็จ มีอีกมากที่บริษัทไม่รับเข้าทำงานเมื่อแก่ตัวลง เรียกได้ว่าเป็นงานที่สาหัสจริงสำหรับคนอายุเกิน 40 ปี ถ้าเกิดต้องตกงานในช่วงนี้และยังอยากทำงานในซิลิคอนวัลเลย์ต่อไป
ที่มา – Bloomberg
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา