จับจุดเด่น โอสถสภา (OSOTSPA) บนเส้นทางการเติบโตข้ามศตวรรษ

ตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วหรือ Fast Moving Consumer Goods: FMCG เป็นหนึ่งในสินค้าที่อยู่ในตลาดที่มีการแข่งขันอย่างดุเดือดในทุกยุคสมัย เห็นได้จากกลยุทธ์ทางการตลาดที่มีหลายรูปแบบ ทั้งการทำโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย การทำโปรโมชั่น ณ จุดขายเพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค รวมถึงการให้ความสำคัญกับการพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าตามเทรนด์ตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป และทำให้แบรนด์สินค้ามีความโดดเด่นเหนือคู่แข่งในตลาดอยู่ตลอดเวลา

บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ” หรือ “โอสถสภา”) ถือเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการรายใหญ่ในธุรกิจ FMCG ของเมืองไทยที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่าร้อยปี บริษัทฯ ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มที่ไม่ผสมแอลกอฮอล์ และผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล ที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมและสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้หลายกลุ่ม โอสถสภาประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลังที่มีจุดเริ่มต้นจากเครื่องดื่มลิโพวิตัน-ดี ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ตัวแรกที่ผลิตและจัดจำหน่ายออกสู่ตลาด ไปจนถึงเครื่องดื่มเอ็ม-150 รวมถึงฉลามและโสมอิน-ซัมที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจากผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ทำให้ทุกวันนี้พอร์ตเครื่องดื่มบำรุงกำลังที่ผลิตโดยโอสถสภามีมูลค่าตลาดค้าปลีกคิดเป็น 54.4% ของมูลค่าตลาดค้าปลีกเครื่องดื่มบำรุงกำลังในประเทศไทย (ข้อมูลสำหรับปี 2560 จาก Frost & Sullivan)

นอกจากตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลังแล้ว โอสถสภายังมีแบรนด์สินค้าที่มีความแข็งแกร่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล ประกอบด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กที่มีแบรนด์ “เบบี้มายด์” เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กอันดับหนึ่งในประเทศไทย เมื่อพิจารณาจากมูลค่าตลาดค้าปลีก (โดยไม่รวมผลิตภัณฑ์ผ้าอ้อมเด็กทารก) (ข้อมูลสำหรับปี 2560 จาก Nielsen) และผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ “ทเวลฟ์พลัส” ซึ่งอยู่ในกลุ่มตลาดผลิตภัณฑ์ความงามสำหรับผู้หญิง ซึ่งมีมูลค่าตลาดค้าปลีกสูงสุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์โคโลญจน์สำหรับผู้หญิง และมีมูลค่าตลาดค้าปลีกเป็นอันดับที่สามในกลุ่มผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายสำหรับผู้หญิง และเป็นอันดับที่สี่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์แป้งฝุ่นในประทศไทย เมื่อพิจารณาจากมูลค่าตลาดค้าปลีกในประเทศไทย (ข้อมูลสำหรับปี 2560 จาก Frost & Sullivan) เรียกว่าทเวลฟ์พลัสเป็นอีกแบรนด์ที่แข็งแกร่งของโอสถสภาเลยก็ว่าได้ …

ผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคที่แข็งแกร่ง

ภายใต้วิสัยทัศน์ “พลังเพื่อเสริมสร้างชีวิต” หรือ “The Power to Enhance Life” โอสถสภาจึงเน้นการสร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัยออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งมอบสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีคุณภาพ และสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้ดีที่สุด โดยบริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจเครื่องดื่มที่ไม่ผสมแอลกอฮอล์ โดยมีเครื่องดื่มบำรุงกำลังเป็นกลุ่มสินค้าที่ทำรายได้หลัก นอกจากนี้ ยังมีการขยายตลาดอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเกลือแร่ภายใต้แบรนด์ เอ็มเกลือแร่ (M-Electrolyte) และผลิตภัณฑ์กาแฟพร้อมดื่มภายใต้แบรนด์ เอ็ม-เพรสโซ ซึ่งเป็นการขยายเข้าสู่ตลาดกาแฟพร้อมดื่ม ที่จะมีศักยภาพการเติบโตในประเทศไทยสูง รวมถึงตลาดเครื่องดื่มที่มีการเติมส่วนผสมเพื่อให้ได้คุณสมบัติเฉพาะ (Functional drinks) ที่ “โอสถสภา” ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม “เปปทีน” และเครื่องดื่ม “ซี-วิต”

ในส่วนของกลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล บริษัทฯ เน้นผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก และผลิตภัณฑ์ความงามสำหรับผู้หญิงเป็นหลัก ภายใต้แบรนด์เบบี้มายด์และทเวลฟ์พลัสที่ต้องยอมรับว่าชั่วโมงนี้ผลิตภัณฑ์ทั้งคู่ของโอสถสภามีความแข็งแกร่ง ทำให้ “โอสถสภา” สามารถใช้ความแข็งแกร่งทางด้านแบรนด์สินค้าต่อยอดไปสู่การพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ของผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างความสนใจให้แก่ผู้บริโภค โดยมีการแย่งส่วนแบ่งตลาดกันเอง (Cannibalization) อย่างจำกัด

การบริหารด้านการผลิตและการจัดจำหน่าย

บริษัทฯ มีการดำเนินธุรกิจขนาดใหญ่ มีกระบวนการผลิตที่ครบวงจร และมีการดำเนินการตามหลักการ “Lean Principle” ทำให้บริษัทฯได้เปรียบในการแข่งขัน สามารถบริหารจัดการต้นทุน การผลิตที่มีประสิทธิภาพ และมีความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนหรือพัฒนาสินค้า อีกทั้งยังมีเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่กว้างขวางในประเทศ โดยมีการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายแบบดั้งเดิม และช่องทางการจัดจำหน่ายแบบสมัยใหม่ (Modern Trade) เช่น เซเว่น อีเลเว่น (7-Eleven) เทสโก้ (Tesco) และบิ๊กซี (Big-C) บริษัทฯ เชื่อว่าบริษัทฯ เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีเครือข่ายการจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคครอบคลุมที่สุดในประเทศไทย ทำให้ผลิตภัณฑ์ของ “โอสถสภา” เข้าถึงฐานผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็ว ถือเป็นอีกหนึ่งความได้เปรียบที่ช่วยสนับสนุนให้สินค้าจาก “โอสถสภา” ประสบความสำเร็จในการทำตลาดภายในประเทศ

การพัฒนานวัตกรรมและการปรับระบบการบริหารจัดการองค์กร (Business Transformation)

ด้วยประสบการณ์ในธุรกิจที่ยาวนานถึง 127 ปี ทำให้ “โอสถสภา” เข้าใจความต้องการและพฤติกรรมของผู้บริโภคในแต่ละท้องถิ่นอย่างลึกซึ้ง ประกอบกับบริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์อย่างสม่ำเสมอ จึงทำให้สามารถคาดการณ์แนวโน้มตลาดและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป และสามารถนำเสนอนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาดภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี  

นอกจากนี้ ตั้งแต่ปี 2559 ที่ผ่านมา “โอสถสภา” ยังมีการปรับโครงสร้างการบริหารองค์กร โดยดึงมืออาชีพชั้นนำที่มีประสบการณ์ในธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคเข้ามาเสริมทัพ อาทิ “คุณวรรณิภา ภักดีบุตร” และ “คุณพรธิดา บุญสา” อดีตทีมบริหารจากบริษัทข้ามชาติชั้นนำ ซึ่งที่ผ่านมาได้ทำให้โอสถสภามีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และได้เพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินงานของบริษัทฯ

สรุป

ประสบการณ์การดำเนินธุรกิจที่ยาวนานข้ามศตวรรษ เป็นบทพิสูจน์อย่างดีถึงความแข็งแกร่งและความสำเร็จของ “โอสถสภา” ในการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ธุรกิจและสร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์เพื่อเป็นพลังเสริมสร้างชีวิตผู้บริโภคในแต่ละยุคสมัย อย่างไรก็ตาม แม้บริษัทฯ จะเชื่อว่าบริษัทฯ มีความได้เปรียบในหลายด้าน และมีแบรนด์ที่ทำยอดขายเป็นอันดับหนึ่งอยู่ในหลายกลุ่มผลิตภัณฑ์ แต่ “โอสถสภา” ไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาและขยายการเติบโต เพื่อให้สามารถรักษาความเป็นผู้นำตลาด ท่ามกลางสมรภูมิธุรกิจ FMCG ที่ฟาดฟันอย่างดุเดือดในปัจจุบัน …

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.osotspa.com

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา