Oracle ผู้ผลิตซอฟต์แวร์รายใหญ่ที่เชี่ยวชาญเรื่องฐานข้อมูล กลายเป็นผู้ชนะในการยื่นข้อเสนอกับ TikTok ที่จะเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ หลังจาก ByteDance ได้เขี่ยข้อเสนอจาก Microsoft ที่ต้องการซื้อกิจการทั้งหมด
สื่อต่างประเทศหลายแห่ง ได้รายงานว่า Oracle สามารถเอาชนะ Microsoft ในการเสนอข้อตกลงกับแอพลิเคชั่นชื่อดังอย่าง TikTok ที่กำลังจะใกล้เส้นตายของประธานาธิบดีสหรัฐที่ออกคำสั่งบริหารที่ TikTok จะต้องปรับโครงสร้างบริษัทหรือไม่ก็ขายกิจการในสหรัฐออกมาให้กับบริษัทอื่นๆ ภายใน 45 วัน หลังจากที่มีความกังวลถึงเรื่องความปลอดภัยของผู้ใช้งานในสหรัฐ
ข้อเสนอของฝั่ง Oracle นั้นจะปรับโครงสร้างของ TikTok ในสหรัฐ และนำข้อมูลของผู้ใช้ในสหรัฐทั้งหมดที่อยู่นอกสหรัฐมาอยู่ใน Cloud ของบริษัทที่อยู่ในสหรัฐ ซึ่งเงื่อนไขของ Oracle นั้นตรงกับความต้องการของ ByteDance ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ TikTok มากกว่า นอกจากนี้ทาง Oracle เองก็อาจได้ถือหุ้นบางส่วนของ TikTok ในสหรัฐ หลังจากการปรับโครงสร้างแล้ว
สำหรับ Oracle นั้นเป็นผู้ผลิตซอฟต์แวร์ระดับโลก โดยชื่อเสียงของบริษัทมาจากซอฟต์แวร์ระบบฐานข้อมูล ที่ส่วนใหญ่ลูกค้าให้ความเชื่อใจ รวมไปถึงล่าสุดนั้นบริษัทได้หันมาเป็น 1 ในผู้ให้บริการระบบ Cloud โดยคาดกันว่าถ้าหาก TikTok ย้ายระบบมาใช้ Cloud ของ Oracle แล้วอาจใช้ทรัพยากร Cloud ได้มากถึง 10% ของระบบทั้งหมดเลยทีเดียว
อย่างไรก็ดีข้อเสนอของ Oracle เองนั้นไม่ใช่การซื้อกิจการเสียด้วยซ้ำ และถือว่าเป็นข้อเสนอที่ค่อนข้างซับซ้อนแตกต่างกับเงื่อนไขของ Microsoft ที่ต้องการซื้อกิจการในสหรัฐทั้งหมด
แต่เงื่อนไขของ Microsoft เองก็อาจมีปัญหากับกฎเกณฑ์ใหม่หลังจากรัฐบาลจีนเตรียมที่จะออกกฎจำกัดการส่งออกเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านของปัญญาประดิษฐ์ ทำให้ ByteDance ได้แจ้งกับ Microsoft ว่าจะไม่ขายธุรกิจของ TikTok ในสหรัฐให้ แม้ว่า Microsoft จะมั่นใจในข้อเสนอที่ยื่นไปก็ตาม
แม้ Oracle เองจะเป็นผู้ชนะในการเป็นพันธมิตรกับ TikTok ในสหรัฐ แต่ก็ต้องผ่านการตรวจสอบเงื่อนไขจากรัฐบาลสหรัฐว่าเงื่อนไขในการปรับโครงสร้างบริษัท รวมไปถึงการย้ายข้อมูลผู้ใช้งานในสหรัฐกลับมานั้นถือว่าตรงกันหรือไม่ ซึ่งเส้นตายนั้นที่ประธานาธิบดีสหรัฐคือในวันที่ 15 กันยายนที่ถึงนี้ และยังต้องให้รัฐบาลจีนพิจารณาว่าการเป็นพันธมิตรไม่ขัดกับเงื่อนไขการส่งออกปัญญาประดิษฐ์ด้วย
ที่มา – The Verge, TechCrunch
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา