ซีรีส์เรื่อง Self Made Inspired by The Life of Madam C.J. Walker เอามาจากเรื่องจริง อิงจากหนังสือเรื่อง “On Her Own Ground by A’Lelia Bundles
หนังเรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากชีวิตของผู้หญิงชาวแอฟริกันอเมริกันคนหนึ่งที่มีความหลงใหลในเส้นผมของผู้คน เธอบอกว่าเส้นผม ทรงผมสะท้อนทุกสิ่ง ทั้งชีวิต ความรู้สึก ทรงผมบ่งบอกได้ว่าคุณมาจากไหนและกำลังจะไปไหนต่อ…แนวคิดของเธอสะท้อนความจริงอย่างยิ่งในยุคนั้น ยุคที่คนผิวสีต้องตกเป็นทาส ต้องใช้ผ้าโพกหัวตลอดเวลา จนทำให้เธอผมร่วงอย่างรุนแรง
เธอพยายามคิดค้นผลิตภัณฑ์ออกมาเพื่อตอบโจทย์ชีวิตคนทั่วไป นี่คือหนังที่เล่าจากชีวิตของ Sarah Breedlove ที่เป็นทั้งนักธุรกิจ นักบุญ นักเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง
ชีวิตของ Sarah Breedlove ผู้หญิงผิวสีที่เกิดในยุคที่เพิ่งประกาศเลิกทาสหมาดๆ เธอกลายเป็นผู้ประกอบการที่สร้างความร่ำรวยด้วยตัวเอง ไม่ใช่ร่ำรวยเพราะมรดกตกทอด เป็นผู้หญิงคนแรกของอเมริกาที่ร่ำรวยด้วยตัวเองจนถูกบันทึกเป็นสถิติโลกใน Guinness World Record
Sarah Breedlove มีชีวิตที่ยากลำบาก มีพี่น้องรวมห้าคน แม้เธอจะเกิดในยุคหลังประกาศเลิกทาส แต่แม่เสียเพราะโรคอหิวาตกโรคตั้งแต่ยังเล็ก อายุเพียง 7 ขวบ หลังจากนั้นพ่อก็ไปแต่งงานใหม่และเสียชีวิตหลังจากแม่อีก 1 ปี ทำให้ทางเลือกในการใช้ชีวิตน้อยลงไปด้วย แม้จะประกาศเลิกทาสแต่เธอก็ยังต้องทำงานเป็นหญิงรับใช้อยู่ดี และนี่คือข้อคิดที่ได้จากหนังเรื่องนี้
(1.) ความปรารถนาดี ความหวังดี ความจริงใจต่อผู้อื่น ถ้ามอบให้ไม่ถูกคน หรือมอบให้คนที่เขาไม่ต้องการ มันจะกลายเป็นการยัดเยียด ผู้ที่ไม่ต้องการรับก็พร้อมที่จะขยำความรู้สึกเหล่านั้นทิ้งและปามันใส่หน้าคุณได้อย่างไม่ใยดี มันคือความหวังดีที่สูญเปล่า ขณะเดียวกันคุณก็อาจค้นพบความจริงบางอย่างที่จำเป็นต้องรู้มานานแล้วก็ได้
(2.) จงเรียนรู้ที่จะใช้การดูถูกเหยียดหยามจากขั้วตรงข้ามมาผลักดันให้ตัวเองก้าวไปสู่ความสำเร็จให้ได้ เพราะอารมณ์ขุ่นมัวที่มีแต่ความท้อถอยและทำให้คุณจมอยู่กับคำดูแคลนเช่นนั้น ไม่สร้างประโยชน์อะไรให้กับชีวิตคุณมากไปกว่าเป็นรางวัลชั้นดีให้แก่ผู้ที่ดูแคลนคุณ “อย่าให้รางวัลคนอื่น ด้วยการทำลายตัวเองให้จมอยู่กับความผิดหวังอีกเลย”
(3.) แผนการสำคัญ บางทีก็ควรเก็บไว้ให้รู้เฉพาะคนที่ไว้ใจได้ แม้จะคัดกรองผู้คนที่ไว้ใจได้ซ้ำแล้วซ้ำอีก ก็อาจพลาดได้ สิ่งที่ทำให้พลาดน้อยลงก็คือการคิดแผนสำรองเผื่อไว้บ้าง
(4.) คนที่มีภาพลักษณ์ต่อสู้เพื่อคนอื่น จริงๆ แล้วก็อาจมีค่านิยมบางอย่างที่เป็นหลักการที่เขายึดถือที่อาจทำให้คุณรู้สึกผิดหวังได้ ทางที่ดีอย่าฝากความหวังไว้ที่ใคร และอย่าให้ใครมาเป็นหลักยึดเหนี่ยวคุณไว้จะดีกว่า หรือถ้าจะมีก็ควรจะมีแหล่งสำรองเยอะๆ จะได้ไม่ผิดหวังมากไป
(5.) ความจริงใจที่ต้องการต่อสู้ทั้งเพื่อตัวเองและเพื่อคนอื่น จะมีคนรับรู้เสมอ คุณอาจจะได้เพื่อนร่วมทางในการต่อสู้บนหนทางที่ยากลำบากแบบไม่ได้ตั้งใจ ขณะเดียวกันก็อาจสร้างศัตรูไปในคราวเดียวกัน จงเรียนรู้ที่จะเลือกคบคน การให้เวลาผูกสัมพันธ์กับคนที่ไม่จริงใจคือความสูญเปล่า
(6.) เวลาที่คุณทำสิ่งใดได้ดีมากๆ จนโดดเด่น ให้เตรียมใจไว้ได้เลยว่า ในที่สุดแล้วสิ่งที่คุณทำจะมีคนพยายามลอกเลียนแบบ การคิดใหม่ ทำใหม่ มันยาก คนช่างคิดในการหาลู่ทางทำสิ่งใหม่ๆ จึงมีน้อยมาก เพราะผู้คนไม่ให้คุณค่ากับความพยายามจากการล้มเหลวซ้ำๆ มันเหนื่อย จึงไม่น่าแปลกใจเท่าไร ถ้าเราจะเห็นว่าโลกนี้คราคร่ำไปด้วยนักก้อปปี้เต็มไปหมด ก็อปปี้มากๆ ก็นำไปสู่การขโมยในที่สุด เรื่องนี้แก้ไขได้ด้วยการไม่หยุดพัฒนาตัวเอง
(7.) ถ้ามีความชอบเรื่องใดเรื่องหนึ่งมากๆ แต่ไม่ยอมสร้างทางเดินของตัวเอง สักวันหนึ่งก็จะมีคนใช้ให้คุณไปช่วยสร้างทางเดินให้กับเขา ถ้าคุณมีความสุขต่อสิ่งนั้น คุณก็จะทำได้นานต่อไปเรื่อยๆ แต่ถ้าไม่ใช่ วันหนึ่งก็ต้องแยกทางจากกันอยู่ดี แล้วทำไมไม่สร้างทางเดินของตัวเองซะตั้งแต่ตอนนี้เลย เสียเวลาทำอะไรอยู่?
(8.) จงให้เวลาหรือจงใช้เวลาที่จะใช้ชีวิตหรือคลุกคลีหรือแวดล้อมไปด้วยผู้คนที่กระหายที่จะทำภารกิจให้ประสบผลสำเร็จในแนวทางที่ใกล้เคียงกัน เช่น ถ้าคุณชอบปีนเขา และหวังว่าสักวันหนึ่งจะครอบครองภูเขาสักแห่งเป็นของตัวเอง เป้าหมายและหนทางที่คุณเลือกเดิน ย่อมแตกต่างจากคนที่ไม่ได้ชอบปีนเขาเหมือนกัน และไม่ได้ฝันว่าอยากครอบครองภูเขาสักแห่ง
ถ้าเทียบจากหนังให้เห็นภาพชัดที่สุดก็คือ ถ้าในช่วงเวลาเดียวกัน คุณกำลังกระหายที่จะแก้ปัญหาบ้านเมือง แก้ปัญหาสังคมที่คุณเรียนรู้ว่ามันจะเลวร้ายมากขึ้น หากไม่คิดหาหนทางแก้ไข คุณหวังจะคว้าชัยชนะจากการแก้ปัญหานั้นๆ สำเร็จและพัฒนาสังคมให้ดีขึ้นได้ แต่คุณดันไปใช้เวลาอยู่กับคนอีกประเภทหนึ่งที่ไม่เห็นว่าสิ่งที่คุณพบเจอคือปัญหา เขาไม่ได้ต้องการแก้ปัญหาอะไร ไม่ได้มีความทะเยอทะยานในระดับใกล้เคียงกัน สุดท้ายก็ต้องแยกทางกันเดินอยู่ดี เพราะแนวทางในการใช้ชีวิตมันต่างกันเกินไป
(9.) การเก็บคนที่ดูหมิ่นดูแคลนความฝันของคุณไว้ใกล้ตัวอยู่ตลอดเวลา มีแต่จะบั่นทอนกำลังใจ แม้อีกทางหนึ่งอาจจะช่วยปิดช่องโหว่จากปัญหาที่คุณมีบ้าง แต่บางทีก็อาจทำให้คุณหมดกำลังใจในการสู้ต่อ จงใคร่ครวญให้ดี ใครควรอยู่เคียงข้างคุณบ้าง แยกให้ออกว่าคนกลุ่มนั้น ควรอยู่แห่งหนใดในชีวิตของคุณ
(10.) ความน่าสงสารของคนขี้อิจฉาที่ยึดติดอยู่กับอดีตก็คือ การเฝ้าวิ่งตามความก้าวหน้าของคนที่เคยเป็นคู่แข่ง มากกว่าจะปลุกสติตัวเองให้หันกลับมาพัฒนาตัวเองให้ไปได้ไกลกว่าเดิม มัวแต่ติดหล่มความสำเร็จเก่าก่อน จมปลักอยู่กับความขี้อิจฉาในความก้าวหน้าของอดีตคู่แข่ง จนทำให้ไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้
แน่นอนว่าอารมณ์ ความรู้สึกอยู่คู่กับมนุษย์ แต่ถ้าควบคุมมันได้ ละทิ้งอดีตได้ และหันมาสร้างหนทางที่ทำให้ตัวเองดีกว่าเดิมได้ น่าจะเป็นทางเลือกในการใช้ชีวิตที่ดีกว่าการเฝ้าจับผิดคู่แข่งไปวันๆ
อ้างอิง: Netflix: Self Made, ความสำเร็จของ Madam C.J. Walker ยังคงแข็งแกร่งตราบจนปัจจุบัน https://www.madambymcjw.com/us/en
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา