โดย บรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการ กิจการค้าหลักทรัพย์ บมจ.หลักทรัพย์บัวหลวง
เคยไหมครับ…ที่เวลาเราสนใจในสินค้าหรือบริการบางอย่าง ผู้ขายกลับมุ่งที่จะขายสินค้าหรือนำเสนอแต่โปรโมชั่นเน้นปิดการขายมากกว่าสนใจว่าความต้องการที่แท้จริงของเราว่าคืออะไร เราควรต้องรู้อะไรบ้าง และให้การแนะนำ เพื่อที่จะทำให้เรามีความรู้มากพอที่จะเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับเราได้ ซึ่งผมว่าไม่แปลกหรอกครับที่เรามักเจอกับเหตุการณ์เหล่านี้ เพราะเวลาที่แต่ละฝั่งผู้ซื้อผู้ขายให้ต่อกันมักมีจำกัด ทำให้เรื่องที่จะพูดคุยกันมักต้องพยายามสรุปการซื้อขายกันให้ได้มากกว่าการใช้เวลาให้เกิดประโยชน์กันสูงสุดของทั้งสองฝ่าย
แต่ถ้าจะให้ธุรกิจเป็นไปอย่างยั่งยืน ผมมองว่าภาคธุรกิจควรจะต้องพยายามเข้าใจลูกค้าและทำให้ลูกค้ามีความรู้ควบคู่ไปกับการตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการด้วย ขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปก็ไม่สมบูรณ์ กระบวนการง่ายๆ เช่นนี้จะทำให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายเกิดความรู้ความเข้าใจและซึมซับข้อมูลในกระบวนการทำธุรกิจด้วยกันตลอดทาง เกิดการเรียนรู้ทั้งฝั่งผู้ซื้อและผู้ขายร่วมกัน คือ ผู้ซื้อสามารถเกิดความมั่นใจ เพราะมีความเข้าใจในสิ่งที่เขาจะซื้อได้มากขึ้นและผู้ขายก็จะมีความเข้าใจลูกค้าของเขาได้มากขึ้น และแนวคิดง่ายๆ แบบนี้น่าจะสามารถใช้ได้กับทุกธุรกิจเสียด้วยซ้ำ ตัวอย่างที่เคยเจอก็เช่น บริษัทขายรถยนต์บางแห่งมีคอร์สเชิญให้เจ้าของรถมารับการอบรมเรียนรู้เทคนิคการขับรถและให้ทดลองขับรถยนต์ในสภาวะต่างๆ เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับรู้ถึงสมรรถนะและเทคโนโลยีในรถยนต์ของตนเองว่าสูงขนาดไหน จะได้ใช้รถได้เต็มประสิทธิภาพและเข้าใจว่าทำไมออฟชั่นบางตัวในรถถึงมีความสำคัญ
เรื่องการลงทุนก็เช่นกัน ถ้าหากนักลงทุนมุ่งเลือกจะมองแต่ที่ “ผล” มากกว่า “กระบวนการ” สิ่งที่ท่านจะได้รับก็มีแต่คำแนะนำให้ซื้อขายเน้นให้ “ลงมือ” มากกว่าเน้นให้ ”เรียนรู้” ซึ่งเมื่อผลออกมาไม่เป็นอย่างที่ใจหวัง เพราะการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง เราก็มักจะผิดหวังและโทษนั่นโทษนี่โดยที่ในการลงมือลงทุนไปในครั้งนี้ เราไม่ได้เรียนรู้อะไรเพิ่มเติมขึ้นมาเลย หรือในยุคอินเทอร์เน็ตนี้ที่เราสามารถค้นคว้าหาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ได้โดยสะดวก เราก็จะเจอทั้งแหล่งที่ข้อมูลน่าเชื่อถือได้มีตรรกะที่ดีที่จะช่วยทำให้เรามีความรู้เพิ่มเติม แต่บางแหล่งก็อาจเป็นแหล่งที่ข้อมูลและตรรกะมั่วสุดๆ ซึ่งสุดท้ายถ้าเลือกหนทางเช่นนี้ เราก็อาจเจอการเรียนรู้ที่ผิดทาง ต้องคลำผิดถูกอยู่นานพอสมควรจนกว่าจะมีความรู้ด้านการลงทุนเป็นจริงๆ
แต่หากนักลงทุนรู้จักสละเวลา เพื่อศึกษาข้อมูลที่ใช้ในการตัดสินใจ และรู้จักนำเครื่องมือที่ได้มาตรฐานต่างๆ เข้ามาช่วยด้วย ก็จะทำให้การศึกษาทำความเข้าใจด้านการลงทุนตลอดจนการลงมือลงทุนเป็นเรื่องง่ายได้ และที่สำคัญคือยิ่งเรียนรู้มากขึ้น ลงมือมากขึ้น นักลงทุนท่านนั้นยิ่งเกิดทักษะและความชำนาญมากขึ้น เราเลยมองว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่งที่นักลงทุนควรต้องมีความรู้ควบคู่ไปกับการลงทุน เพราะความรู้จะเป็นอาวุธชั้นดีที่ทำให้เราลงทุนได้ถูกทางและทำให้บรรลุเป้าหมายการออมที่ต้องการได้ คราวนี้ล่ะใครจะมาเชิญชวนหรือหลอกเอาเงินท่านไปทำอะไร คงกินท่านได้ยากแล้ว
ในทุกๆ ปี หลักทรัพย์บัวหลวง จึงได้ริเริ่มโครงการ The Stock Master ที่เป็นโครงการให้ความรู้นักลงทุนและแนะนำให้ลงมือลงทุนจริง ด้วยแนวคิด “รู้จริงกับสนามจริง” แทรกด้วยการแข่งขันวัดผลการลงทุนอย่างเป็นระบบ เพื่อให้เกิดความมันในการเรียนรู้ร่วมกัน โดยแต่ละปีก็จะเน้นเนื้อหาที่ต่างกันไป และในปีนี้ที่เข้าสู่ปีที่ 8 แล้วเราจะเน้นเรื่องของการ “เทรดหุ้นแบบมืออาชีพด้วยโปรแกรม Trade Master” ซึ่งเป็นการอบรมที่อัดแน่นด้วยการปูพื้นฐานความรู้ด้านการลงทุนที่ครบเครื่องและเวิร์กชอปแนะนำเทคนิคและการใช้เครื่องมือด้านการลงทุนแบบต่างๆ โดยเฉพาะโปรแกรมเทรดหุ้นสุดล้ำ Trade Master ที่จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาให้กับนักลงทุนทั้งด้านการเรียนรู้และการลงมือได้อย่างแท้จริง โดยปีนี้เราเปิดให้มีการอบรมที่บริษัทฯ และทางออนไลน์ด้วย เริ่มโครงการกันเดือนก.ย. นี้ ซึ่งเราเชื่อว่า หากเราสามารถดำเนินธุรกิจแบบพัฒนานักลงทุนจาก “แมงเม่า” ให้มาเป็น “Stock Master” หรือผู้ที่รู้จักการลงทุนอย่างจริงจังได้แล้ว การลงทุนน่าที่จะประสบความสำเร็จได้ในระยะยาว และองค์กรธุรกิจเราก็จะอยู่ได้อย่างยั่งยืนครับ
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา