โปรเจ็กต์ใหญ่แห่งปี TCC Group ส่ง One Bangkok อสังหาฯ อัลตราลักชัวรี่ 1.2 แสนล้าน ใจกลางกรุงเทพ

กลายเป็นโปรเจ็กต์ใหญ่แห่งปีอย่างแน่นอน เมื่อยักษ์ใหญ่แห่งวงการที่ดินเมืองไทย ทีซีซี กรุ๊ป นำโดยเจริญ สิริวัฒนภักดี เล็งสร้างพื้นที่ใจกลางกรุงเทพกว่า 104 ไร่ ให้เป็นแลนมาร์คแห่งใหม่ มีครบทั้งโรงแรม ร้านค้า อาคารสำนักงาน ใช้เงินลงทุนประมาณ 120,000 ล้านบาท คาดแล้วเสร็จปี 2564

ไม่เคยมีโครงการไหนในประเทศไทย ใหญ่เท่านี้มาก่อน!

บริษัท ทีซีซี แอสเซ็ท (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เฟรเซอร์ส เซ็นเตอร์พอยท์ ลิมิเต็ด (FCL) จับมือร่วมสร้างโครงการ One Bangkok บนพื้นที่ขนาด 104 ไร่ ใจกลางกรุงเทพบริเวณหัวมุมถนนวิทยุตัดกับถนนพระราม 4 ติดกับสวนลุมพินี โดยประมูลเช่าจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ (ยังไม่ทราบราคา ทีซีซีระบุว่าเป็นความลับทางราชการ) โดยต้องการจะทำให้พื้นที่ทั้งหมดนี้เป็นจุดหมายปลายทางหรือแลนด์มาร์คที่ผู้คนทั่วโลกต้องมาเยี่ยมเยือนให้ได้แห่งหนึ่งของโลก

ด้วยมูลค่าการลงทุนที่ไม่น้อยกว่า 120,000 ล้านบาทบนพื้นที่กว่า 104 ไร่ ทีซีซีจะทำให้ 50 ไร่เป็นพื้นที่สีเขียวและเป็นพื้นที่เปิด ส่วนที่เหลือจะสร้างเป็นตึกอาคาร เช่น พื้นที่โรงแรม ร้านค้าปลีก(Retail) อาคารสำนักงาน ส่วนในอนาคตจะพัฒนาให้เป็นพื้นที่อยู่อาศัยระดับอัลตราลักชัวรี่ ประเมินโดยรวมแล้วพื้นที่อาคารทั้งหมดในโครงการจะอยู่ที่ 1,830,000 ตารางเมตร ส่วนการก่อสร้างจะเริ่มในปลายปีนี้ 2017 และจะเปิดใช้งานส่วนแรกของโครงการในปี 2564 ส่วนองค์ประกอบทั้งหมดของโครงการจะเสร็จสมบูรณ์ในปี 2568

เจริญ สิริวัฒนภักดี ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท ทีซีซี และ FCL บอกว่า จุดมุ่งหมายในการวางแผนและออกแบบโครงการ One Bangkok คือการยกระดับภาพลักษณ์ของกรุงเทพฯ ในฐานะเมืองที่เป็นประตูเชื่อมโลกกับเอเชีย

“ทางกลุ่มรู้สึกเป็นเกียรติที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระหากษัตริย์ได้ให้ความไว้วางใจในการพลิกโฉมพื้นที่ผืนสำคัญใจกลางกรุงเทพฯ ผืนนี้ให้กลายเป็นเมืองที่ครบครัน ซึ่งถือเป็นความรับผิดชอบ ที่ผมมีความมุ่งมั่นและผมขอยืนยันที่จะสร้างสรรค์โครงการนี้ให้สำเร็จและโดดเด่นเป็นสง่าน่าภาคภูมิใจ พร้อมที่จะพลิกโฉมประเทศไทยให้ชาวโลกชื่นชม”

ดึงนักท่องเที่ยว นักลงทุน หมายให้เป็น Destination แห่งใหม่ของโลก

ปณต สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร FCL ระบุว่า ตลาดในเมืองไทยยังสามารถรองรับนักลงทุนได้อีกมาก เชื่อว่าโครงการนี้จะช่วยเพิ่มการลงทุนในระดับประเทศ

“ที่นี่จะมีครบทุกอย่าง เพราะเราชื่อว่ากรุงเทพเป็นตัวเชื่อมที่สำคัญของประเทศไทยและในภูมิภาคนี้ เราอยากให้เป็น Destination แห่งใหม่ที่ทุกคนต้อง แน่นอน เราไม่ทิ้งธรรมชาติ เพราะอยู่ใกล้สวนลุมพินี มีความเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว เราต้องการทำให้คุณภาพชีวิตของคนดีขึ้น แล้วที่บอกว่ามีทุกอย่างคือจะมีตั้งแต่ โรงแรม อาคารสำนักงาน รวมถึง Retail ที่เราถือว่าเป็นหัวใจสำคัญมาก”

เมื่อถามถึงเงินทุนจดทะเบียน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร FCL บอกว่าอยู่ที่ประมาณ 38,500 ล้านบาท ส่วนการลงทุนในพื้นที่นี้ภายใน 15 ปีน่าจะสร้างผลตอบแทนได้ แต่ในตอนนี้ยังไม่ระบุว่ามีโรงแรม อาคารสำนักงาน หรือร้านค้าปลีกแบรนด์ใดบ้างที่จะมาอยู่ในพื้นที่แห่งนี้บ้าง แต่มั่นใจว่าวันที่มีการขายโครงการ ราคาจะดีอย่างแน่นอน เพราะว่าทำเลดี ออกแบบมาอย่างดี และใกล้กับระบบขนส่งมวลชนอย่างรถไฟฟ้าใต้ดิน

ด้านการถือหุ้น One Bangkok บริษัท ทีซีซี แอสเซ็ท (ประเทศไทย) จำกัด ถือหุ้น 80.1% ส่วนบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด (เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้) ถือหุ้น 19.9%

“One Bangkok จะเป็นจุดหมายปลายทางแห่งไลฟ์สไตล์ที่มีสีสันและชีวิตชีวาที่จะทำให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่เป็นสุดยอดปรารถนาที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ที่ผู้คนอยากมาอยู่อาศัย มาทำธุรกิจ และมาเยี่ยมเยือน ตลอดจนดึงดูดบริษัททั้งในประเทศและบริษัทข้ามชาติชั้นนำจากต่างประเทศให้เข้ามาตั้งสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคเออีซี และแขกที่มาเยี่ยมเยือนจะได้รับประโยชน์จากสิ่งอำนวยความสะดวกและประสบการณ์ด้านไลฟ์สไตล์ที่ครบวงจรและหาไม่ได้จากที่ไหน”

ซู หลิน ซูน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร One Bangkok จำกัด บอกชัดว่า พื้นที่แห่งนี้จะรูปแบบการใช้ชีวิตของคนในศตวรรษที่ 21 เพราะการสร้าง One Bangkok จะมีมาตรฐานคุณภาพที่เหนือกว่าที่เคยมีมา เป็นแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดตามแบบสากล และความหลากหลายในเรื่องของรูปแบบการใช้ประโยชน์และสถาปัตยกรรม ซึ่งแผนแม่บทของโครงการทั้งหมดดูแลโดย Skidmore, Owings & Merrill LLP หรือ SOM และได้ทำงานร่วมกันกับผู้เชี่ยวชาญแถวหน้าของประเทศไทย ได้แก่ Plan Associates และ A49 ซึ่งเป็นการผสมผสานประสบการณ์จากทั้งในและต่างประเทศ จากบริษัทวางผังเมืองและบริษัทสถาปัตยกรรมที่ทรงอิทธิพลสูงที่สุดในวงการ

“One Bangkok จะสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจในอนาคต และจะเอื้อต่อการบุกเบิกให้เกิดเป็นเมืองอัจฉริยะที่ตอบโจทย์การทำธุรกิจ ซึ่งจะยกระดับประสบการณ์ของผู้คนที่จะเข้ามาใช้พื้นที่ต่างๆ ภายในโครงการแห่งนี้”

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา