บลจ. วรรณ (One Asset Management หรือ One AM) เปิดตัวบริษัทลูก บล. ไพน์ เวลท์ โซลูชั่น (Pine Wealth Solution) โดยวรรณถือหุ้น 99% จับตลาด wealth management สำหรับลูกค้าบุคคล
นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วรรณ จำกัด บอกว่านับจากเข้ามารับตำแหน่งซีอีโอเมื่อ 5 ปีก่อน สามารถขยายฐานสินทรัพย์ (AUM) จาก 1 แสนล้านบาทมาเป็น 2 แสนล้านบาทได้สำเร็จ ขั้นต่อไปคือการปรับโครงสร้างของวรรณ โดยจะทำ 2 เรื่องหลักๆ ได้แก่ การตั้งบริษัทลูก Pine Wealth เข้ามาดูลูกค้าบุคคลแยกเฉพาะ เน้นกลุ่มลูกค้ามั่งคั่ง เปรียบเสมือนยอดต้นสน (Pine) ตามชื่อบริษัท มีมุ่งเป้าสัดส่วนรายได้ 60% ของธุรกิจกองทุน (mutual fund) ทั้งหมดของวรรณ ซึ่งเริ่มดำเนินการไปแล้ว
การตั้งบริษัทลูกคือ Pine Wealth จะโอนพนักงานของวรรณไปประมาณ 30 คน เพื่อดูแลลูกค้าโดยเฉพาะ และโอนย้ายลูกค้าบุคคลไปยัง Pine Wealth โดยขอคำยินยอมจากลูกค้าก่อน ส่วนวรรณจะหันมาโฟกัสที่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่สร้างชื่อเสียงให้วรรณมาโดยตลอด เช่น กองทุนอสังหาริมทรัพย์ กองทุนชะรีอะห์ กองทุนแอนไทคอรัปชั่น เป็นต้น
ส่วนในอนาคตภายใน 3 ปีข้างหน้าจะเริ่มขยายตลาดออกสู่อาเซียน โดยสนใจตลาดลาวและเวียดนามเป็นหลัก รวมถึงจะเริ่มพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ อย่างการขอไลเซนส์จัดการสินทรัพย์ดิจิทัลในระยะถัดไป
นายสุรศักดิ์ ธรรมโม กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ไพน์ เวลท์ โซลูชั่น ระบุว่า Pine Wealth ถือเป็นบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) รายแรกในไทย ที่มีบริษัทแม่เป็นบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ต่างจาก บล. อื่นๆ ที่มักมีบริษัทแม่เป็นธนาคาร ทำให้รูปแบบการจัดการของ Pine Wealth ยืดหยุ่นกว่า ในขณะเดียวกันก็ยังมีฐานความแข็งแกร่งจาก บลจ. วรรณ คอยช่วยสนับสนุนเรื่องการลงทุนด้วย
Pine Wealth มีสินทรัพย์ภายใต้คำแนะนำ (AUA หรือ asset under advisory) จากฐานลูกค้าวรรณเดิม 1.5 หมื่นล้านบาท และวางเป้าหมายเติบโตเป็น 3 หมื่นล้านบาทภายใน 3 ปี ช่วงแรกเริ่มต้นด้วยผลิตภัณฑ์กองทุนรวมในประเทศ จากนั้นปีหน้าจะเป็นผลิตภัณฑ์กองทุนรวมทั่วโลก และตราสารหนี้ โดยเฉพาะตลาดแรก (IPO)
นายสุรศักดิ์ ระบุว่าข้อดีของการบริหารทรัพย์สินของลูกค้า Pine Wealth จะคล่องตัวกว่า One AM มาก เพราะไม่จำกัดเฉพาะผลิตภัณฑ์การลงทุนของ One AM เพียงอย่างเดียว และผลิตภัณฑ์ที่มีให้เลือกจะยืดหยุ่นกว่า เพราะไม่จำกัดแค่หุ้น แต่เน้นการทำ wealth management ที่ครบวงจร ทั้งตราสารหนี้ กองทุนรวม หุ้นกู้อนุพันธ์ และสินทรัพย์อื่นๆ ในอนาคตด้วย
นายสุรศักดิ์ ชี้ว่าลูกค้าคนไทยกลุ่ม high net worth มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป 2 ด้าน ได้แก่ มีระดับอายุที่เด็กลงจากฐานลูกค้าเดิมของวรรณที่มีอายุเฉลี่ย 55 ปี กับอีกด้านคือเริ่มสนใจการลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น มีแนวโน้มยึดติดกับการลงทุนในประเทศ (home bias) น้อยลง แต่เดิมทีตลาดนี้เป็นของกลุ่ม ultra high net worth มีที่มีเงินอยู่ในต่างประเทศอยู่แล้ว ซึ่งมีกระบวนการยุ่งยากสำหรับคนทั่วไป เมื่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยปรับเปลี่ยนเกณฑ์ตรงนี้ Pine Wealth จึงมองเห็นโอกาสเข้ามาทำตลาดนี้
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา