‘OMODA & JAECOO’ หรือ ‘โอโมด้า แอนด์ เจคู่’ แบรนด์รถพลังงานใหม่ที่เริ่มเป็นที่รู้จักขึ้นเรื่อยๆ ในหลายประเทศ รวมถึงตลาดไทย เดินหน้าลงสนามอย่างจริงจัง หลังจากขยายธุรกิจสู่กว่า 33 ประเทศ และมีผู้ใช้ทั่วโลกมากกว่า 410,000 คน

จุดยืนของแบรนด์คือ การพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์พลังงานใหม่หลายรูปแบบ ทั้ง BEV, PHEV, และ HV เพื่อให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกที่ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย
ในไทย แบรนด์เริ่มสร้างฐานผู้ใช้ตั้งแต่เข้ามาทำตลาดในปี 2567 และเริ่มได้รับความสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะในงาน ‘Motor Expo 2025’ ที่ทำผลงานได้โดดเด่นจนติดอันดับยอดจองสูงสุดของงาน
โดยแบรนด์คว้า Top 2 หมวดรถไฟฟ้า และติด Top 3 ของยอดจองสูงสุดในงาน รวมถึงยอดจองทั่วประเทศถึง 7,266 คัน โดยพระเอกของงานคือ ‘JAECOO 5 EV’ ที่กลายเป็นรุ่นที่ถูกพูดถึงมากในปีนี้ และเริ่มขยับขึ้นมาเป็นหนึ่งในแบรนด์ EV มาแรงของตลาดไทย
‘เซดริก ชุย’ ประธาน OMODA & JAECOO ประเทศไทย เล่าว่าผลประกอบการทั่วโลกก็ดีขึ้นต่อเนื่อง โดยยอดขาย 10 เดือนแรกของปี 2568 อยู่ที่ 286,966 คัน โตขึ้น 153.2% เทียบกับปีก่อน
ส่วนในไทย มียอดส่งมอบ 12,000 คันตั้งแต่ต้นปี 2568 ถึงเดือนตุลาคม ซึ่งสะท้อนว่า ผู้บริโภคไทยเริ่มเปิดใจต่อแบรนด์หน้าใหม่รายนี้
ส่วนปี 2569 ถูกมองว่าเป็นอีกปีสำคัญ เพราะบริษัทเตรียมเริ่มผลิตรถไฟฟ้ารุ่นแรกจากโรงงานในไทยช่วงเดือนกุมภาพันธ์ กำลังการผลิตที่ตั้งไว้ราว 80,000 คันต่อปี ทำให้ตลาดไทยจะได้เห็นรถที่ผลิตในประเทศมากขึ้น และเสริมความมั่นใจให้ผู้บริโภคที่มองหารถไฟฟ้าในราคาที่จับต้องได้

ด้านไลน์อัพปี 2569 ก็จัดเต็มเช่นกัน ตั้งแต่ BEV จำนวน 5 รุ่น ผลิตในไทย 2 รุ่น นำเข้า 3 รุ่น ตามด้วย REEV 1 รุ่น, HEV 1 รุ่น, และ PHEV อีก 2 รุ่น ทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกตามสไตล์ และการใช้งานมากขึ้น
นอกจากนี้ แบรนด์ยังเตรียมยกระดับระบบอัจฉริยะ ทั้งระบบขับขี่ ระบบความปลอดภัย และความบันเทิง พร้อมขยายดีลเลอร์จากกว่า 80 แห่งให้ครอบคลุมทั่วประเทศมากขึ้น
ด้าน ‘บิล จาง’ ผู้อำนวยการ OMODA & JAECOO ประเทศไทย ระบุว่ารถหลายรุ่นเริ่มคว้ารางวัลจากเวทีใหญ่ในไทย เช่น:
- JAECOO 7 SHS: รางวัล ‘The BEST SUV PHEV AWARD’ จาก Bangkok International Motor Show 2025
- JAECOO 5 EV: เข้ารอบสุดท้ายรางวัล ‘รถไฟฟ้ายอดเยี่ยมแห่งปี 2568’ โดยสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย
- JAECOO 6 EV: รางวัล ‘รถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี 2568’ สาขา Best Off-Road EV จากกรังด์ปรีซ์ กรุ๊ป
ยอดส่งมอบในไทยกว่า 12,000 คันในปี 2568 ยิ่งตอกย้ำว่า ผู้บริโภคเริ่มเชื่อมั่นในแบรนด์มากขึ้น ทำให้ปี 2569 ตั้งเป้าขยายโชว์รูม และศูนย์บริการเป็น 120 แห่งทั่วประเทศ พร้อมตั้งเป้ายอดขาย 26,000 คัน
รวมทั้งเดินหน้าอัปเกรดบริการ OJ O-JAI ให้ครอบคลุมมากขึ้น ทั้งบริการฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง และบริการพิเศษที่จะเพิ่มเข้ามา เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่า “นี่แหละ รถที่ดูแลเราจริงๆ”
- BYD ประเทศไทย บอกว่า ปีหน้าคือตัววัดตลาด EV ไทย เพราะรัฐอุดหนุนน้อยลง เจอโจทย์ราคา-การแข่งขันจริง
- ฮุนได ประเทศไทย มองสงครามราคา EV แรงสุดในรอบหลายปี ตลาดโตเพราะลดราคา ไม่ใช่ความต้องการจริง
ที่มา: Motor Expo 2025
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา