Omnicom เตรียมซื้อ Interpublic ปั้นอาณาจักรโฆษณาใหญ่ที่สุดในโลกด้วยรายได้รวม 8.43 แสนล้านบาท

Omnicom Group หนึ่งใน Big 4 บริษัทโฆษณาระดับโลก แจ้งบรรลุข้อตกลงควบรวมกิจการ Interpublic Group คู่แข่งที่เป็น Big 4 ในอุตสาหกรรมเดียวกัน

หากการควบรวมครั้งนี้สำเร็จ จะสร้างอาณาจักรโฆษณาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ผ่านพนักงานรวมกันมากกว่า 1 แสนคน และรายได้รวมกันกว่า 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 8.43 แสนล้านบาท เมื่อนำรายได้ของทั้งสองบริษัทในปี 2023 มารวมกัน

OMG IPG

Omnicom มุ่งสู่เบอร์ 1 วงการโฆษณา

สำนักข่าว New York Times รายงานว่า จุดเริ่มต้นของการควบรวมของ 2 บริษัทนี้เกิดจากอุตสาหกรรมโฆษณาทยอยเจอการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อย่างต่อเนื่อง ไล่ตั้งแต่การมาถึงของโฆษณาดิจิทัล และพฤติกรรมผู้บริโภค โดยเฉพาะการที่ Meta และ Alphabet เข้ามามีบทบาทต่อเม็ดเงินโฆษณา และแย่งส่วนแบ่งจากกลุ่มเอเจนซี่ดั้งเดิมไปอย่างมีนัยสำคัญ

ก่อนหน้านี้ Accenture หนึ่งในบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ ได้เข้าซื้อกิจการครีเอทีฟเอเจนซี่เช่นกัน แสดงให้เห็นถึงโลกฝั่งเทคโนโลยีเข้ามาโจมตีเอเจนซี่โฆษณาอย่างต่อเนื่อง ถึงขนาด John Wren ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Omnicom ได้แจ้งในแถลงการณ์เกี่ยวกับการควบรวมกิจการ Interpublic ว่า

“การควบรวมกิจการครั้งนี้จะช่วยให้เราสามารถใช้โอกาสสำคัญที่เกิดจากเทคโนโลยีใหม่ ๆ โดยเฉพาะในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ” โดยการควบรวมครั้งนี้ Omnicom คาดการณ์ว่าจะเสร็จสิ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2025

สำหรับโครงสร้างหลังควบรวมกิจการ ผู้ถือหุ้นฝั่ง Omnicom จะถือหุ้นในกิจการในสัดส่วน 60% ส่วน Interpublic จะถือในสัดส่วน 40% ที่สำคัญการควบรวมครั้งนี้จะช่วยประหยัดต้นทุนการดำเนินธุรกิจได้กว่า 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และกิจการใหม่นี้ยังใช้ชื่อ Omnicom และมีสำนักงานใหญ่ที่นิวยอร์กเช่นเดิม

อย่างไรก็ตาม การควบรวมกิจการครั้งนี้ยังต้องเจอกับการตรวจสอบด้านกฎหมาย โดยเฉพาะกฎหมายเกี่ยวกับการป้องกันการผูกขาดในสหรัฐอเมริกา เช่นเดียวกับดีลการควบรวมกิจการอื่น ๆ เช่น Microsoft ประกาศซื้อกิจการ Activision Blizzard เป็นต้น

Interpublic กับการสูญเสียลูกค้าใหญ่

ด้าน Interpublic ที่ถูกควบรวมกิจการนั้น ก่อนหน้านี้ต้องเจอปัญหาสูญเสียลูกค้าใหญ่ เช่น Verizon และ BMW รวมถึงรายได้ในปี 2023 ยังไม่มีการเติบโต ส่วนรายได้ในปี 2024 คาดการณ์ว่าจะเติบโตเพียง 1% เท่านั้น และเพื่อควบคุมต้นทุน Interpublic มีการขายบางส่วนธุรกิจที่สำคัญออกไป เช่น Huge และ R/GA ที่เก่งเรื่องดิจิทัล

นักวิเคราะห์จาก Bernstein มองว่า การควบรวมครั้งใหญ่มักจะเจอปัญหาทั้งฝั่งการรักษาลูกค้า และคนเก่งในองค์กร เพราะค่อนข้างมีความซับซ้อน จึงถือเป็นโอกาสของคู่แข่งในช่วงเวลานี้ ขณะเดียวกัน Omnicom เคยพยายามควบรวม Publicis อีก Big 4 ในวงการโฆษณาในปี 2013 เช่นกัน แต่สุดท้ายก็ล้มเหลว

ส่วนประวัติของทั้ง 2 องค์กร เริ่มต้นที่ Interpublic ก่อตั้งในปี 1930 จากการรวมตัวกันของ McCann และ Erickson อดีตบริษัทโฆษณาที่ใหญ่ที่สุดในโลก ส่วน Omnicom ก่อตั้งปี 1986 จากการรวมตัวของ 3 เอเจนซี่ หนึ่งในนั้นคือ BBDO Worldwide และมีบริษัทในเครือเช่น TBWA และ OMD ซึ่งบริษัทเหล่านี้มีการเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยเป็นช่วงระยะเวลาหนึ่งแล้ว

สำหรับ Big 4 ในวงการโฆษณาประกอบด้วย Omnicom, Interpublic, WPP และ Publicis

Brand Inside มองว่า การควบรวมระหว่าง Omnicom และ Interpublic จะสร้างภาพใหม่ในอุตสาหกรรมโฆษณา และการตลาด โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทสำคัญ แต่ก็ถือเป็นอีกโอกาสของคู่แข่งในระยะสั้น ๆ ที่จะช่วงชิงลูกค้า รวมถึงคนเก่ง ๆ จากทั้งสององค์กรนี้ เช่นกัน

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา