เปิดมุมมองกับ “นวล” การ์ตูนหมาหน้ากวนที่ครองใจใครหลายคน

เปิดมุมมองกับ “นวล” การ์ตูนหมาหน้ากวนที่ครองใจใครหลายคน กับความจริงเรื่องการเมืองและความเหลื่อมล้ำ ที่ใครก็สามารถพูดได้

นี่ไม่ใช่เพจ หมา

และนี่ก็ไม่ใช่เพจ แมว 

แต่นี่คือเพจ นวล 

ภาพวาดลายเส้นเป็นสัตว์ต่างๆ อาจจะดูน่ารัก ใสใส แต่เนื้อหาเต็มไปด้วยประเด็น มุมมอง หรือภาพสะท้อนด้านการเมือง เศรษฐกิจ ความเหลื่อมล้ำทางสังคม สุขภาพจิต หรือแม้แต่เรื่องทั่วไปบนอินเทอร์เน็ต ก็ถูกหยิบมาเล่าได้อย่างสนุก ฟังง่าย แทรกด้วยการเสียดสีประปราย ซึ่งก็เพียงพอจะสร้างภาพจดจำและทำให้คนดูเฝ้าติดตามได้ไม่ยาก

ความจริงจังของเนื้อหาทั้งหมดทั้งมวล เริ่มจากความสนุกของคุณ “กวิน ศิริ” เจ้าของเพจนวลผู้ที่ไม่เคยใช้หน้าตัวเองเล่าเรื่องล้วนๆ แต่ก็เป็นความสนุกที่แฝงไปด้วยความอยากถ่ายทอดอะไรดีๆ เอาไว้ให้กับคนดู

จบสถาปัตย์ แต่มาเอาดีทางการวาดการ์ตูน 

ถ้าใครติดตามเพจนวลมาตลอดน่าจะพอสังเกตได้ว่า การเล่าเรื่องผ่านตัวการ์ตูนของเพจนี้ในช่วงแรกๆ มักจะไม่ใช่การ์ตูนแค่ 1 หน้า 3-4 ช่องแล้วจบ แต่จะมาเป็นอัลบั้มรูป มีการลำดับเรื่อง มีบท เป็นเหมือนสตอรี่บอร์ดการ์ตูนสั้นที่ถ่ายทอดเรื่องราว ซึ่งทักษะทั้งหมดนี้ ไม่เกี่ยวข้องใดๆ เลยกับวุฒิปริญญาที่คุณกวินได้มา

แบ็คกราวด์ของคุณกวิน คือจบคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่คุณกวินบอกว่าไม่ได้ไปสอบใบ ก.ส. (ใบประกอบวิชาชีพสถาปนิก) ด้วยซ้ำ และด้วยความสนใจในการ์ตูน ก็เลยอยากเอาดีทางด้านนี้

“เราไม่ได้อยู่ในประเทศญี่ปุ่น ถ้าจะเลี้ยงชีพด้วยการเป็นนักเขียนการ์ตูนเพียงอย่างเดียวในประเทศไทยเนี่ย คงจะต้องเป็นตัวจริง เป็นอันดับ 1 เท่านั้นถึงจะอยู่ได้ เราก็คิดว่าตัวเองไม่ได้แน่ขนาดนั้น ตอนนั้นผมเป็นฟรีแลนซ์ ทำงานกราฟิค แต่ก็เคยมีประสบการณ์ทำบทมาก่อน สมัยเป็นนักศึกษา ทำละคร สุดท้ายทักษะทักหมดก็เลยกลายมาเป็น นวล นี่แหละ”

ขอบคุณภาพจากเพจ นวล

ซึ่งจุดเริ่มต้นของเพจนวล เกิดจากการแค่ความสนุก อยากวาดการ์ตูน คุณกวินเลยเอาเรื่องของบ้านตัวเองมาวาด พอวาดเสร็จก็เอาลงเฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่อนก็แชร์จำนวนมาก คนเริ่มสนใจ แต่ก็ยังอยากมีความเป็นส่วนตัวกับโปรไฟล์ของตัวเอง เลยตัดสินใจทำเป็นเพจแยกขึ้นมา

ขณะที่การพลิกผันจากการแค่วาดการ์ตูน มาสู่การทำแอนิเมชัน คุณกวินบอกว่า เป็นเพราะการ์ตูนเป็นหน้าๆ ค่อนข้างมีขีดจำกัด ในแง่การนำเสนออยู่ระดับหนึ่ง อย่างการจะใส่มุข จะแซวหรือใส่นัยยะอะไรลงไปก็ค่อนข้างยาก รวมอยากใช้อุปกรณ์ในการเล่าเรื่องมากกว่าเดิม เลยศึกษาการทำแอนิเมชันด้วยตัวเอง 

ขอบคุณภาพจากเพจ นวล

จากความสนุก วาดเพราะอยากวาด สู่การถ่ายทอดเนื้อหาเชิงวิพากย์แบบไม่ได้มีอุดมการณ์สูงส่ง

นอกจากเพราะความชอบการ์ตูนและอยากเล่าเรื่องแล้ว จุดเริ่มต้นของเพจนวล ถูกสร้างขึ้นมาแบบออแกนิคล้วนๆ ไม่ได้อยากคิดจะทำเพื่อเป็น influencer และขายของ ช่วงแรกๆ เป็นการเล่าเรื่องต่างๆ รอบตัวผ่านการ์ตูน ในเรื่องที่อยากเล่า เพราะความสนุกและความชอบล้วนๆ

แต่ถ้าใครเป็นแฟนเพจนวล อาจจะสังเกตได้ว่า เนื้อหาของเพจนวล ไม่ว่าจะตั้งแต่สมัยที่เป็นการ์ตูนหน้าๆ หรือเป็นแอนิเมชัน มักจะออกไปในทางให้ความรู้ อธิบาย ที่แฝงไปด้วยการวิพากย์สังคมในแง่มุมต่างๆ ไม่ว่าจะเรื่องการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ไปจนถึงเรื่องทางจิตวิทยา นวลก็ทำมาแล้ว และสอดแทรกไปด้วยความบันเทิงตามแบบฉบับการ์ตูนหรือแอนิเมชัน 

“ผมอยากทำเนื้อหาที่จริง ๆ แล้วมีความสำคัญกับคนส่วนใหญ่ แต่ดันเข้าใจยาก ๆ มาสร้างเป็นแอนิเมชั่นให้คนดูเข้าใจง่าย ๆ ยกตัวเช่น สมัยเลือกตั้งที่ผ่านมา การแบ่งเขตเลือกตั้ง เพื่อล็อกผลคะแนน ผมทำแอนิเมชั่นแก๊งหมานวลขึ้น สร้างคาแรคเตอร์ผ่านหมาสายพันธุ์ต่าง ๆ และอธิบายเรื่องให้เข้าใจง่าย ๆ ทำให้คนดูสนุกไปกับเนื้อหา ผมรู้สึกว่ามันเป็นสกิลที่มีประโยชน์ต่อคนดูนะ”

ขอบคุณภาพจากเพจ นวล

ในการนำเสนอเนื้อหาวิดีโอออกไปแล้ว ให้ลองคิดว่าถ้าเป็นตัวเอง เราจะดูวิดีโอนั้นหรือเปล่า ถ้าคำตอบคือไม่ แปลว่าคุณกำลังทำสิ่งที่ไม่น่าทำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร การนำเสนอเนื้อหาจะต้องสนุก ประเด็นจะยิ่งใหญ่แค่ไหนไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่ถ้าการนำเสนอไม่สนุก เอาคนดูไม่อยู่ หรือไม่ได้ช่วยให้คนดูทำความเข้าใจได้ง่ายขึ้น ทุกอย่างก็จะพัง ไปไม่รอด ที่สำคัญคือคนทำเนื้อหา ต้องเคารพสติปัญญาของคนดูด้วย 

ถ้าคุณไม่แคร์ topic นั้น ผมว่ามันยากมากที่คุณจะทำคอนเทนต์นั้นให้คนดูแคร์ได้ … ผมรู้สึกว่าถ้าจะเลือก topic อะไร ต้องเป็น topic ที่ผมแคร์ก่อน ชาวเน็ตเขาดูออก เขาดูมาเยอะ เขาฉลาด อะไรที่ปลอม อะไรที่มัน fake ก็ดูออกหมด เราหลอกคนดูไม่ได้”

อันที่จริง นอกจากเรื่องความชอบ และความสนใจส่วนตัวแล้ว อีกหนึ่งแรงบันดาลใจในการสรรสร้างเนื้อหาเชิง edutainment อย่างที่ นวล เป็นอยู่ทุกวันนี้ คือความรู้สึกว่า สภาพแวดล้อมในสังคมไทย ไม่ว่าจะในระบบการศึกษาหรือโลกออนไลน์ ยังไม่ค่อยมีเนื้อหาที่มีประโยชน์เหล่านี้เท่าไหร่นัก

ขอบคุณภาพจากเพจ นวล

ที่เราโตมาเป็นเราแบบทุกวันนี้ อาจจะไม่ได้ดีเด่อะไร แต่มันพอสร้างประโยชน์ให้คนอื่นได้บ้าง ก็เพราะวิดีโอออนไลน์เลยนะ ผมดู YouTube channel ต่างประเทศ ตั้งแต่ยุคตั้งไข่ของมัน ประมาณ 2008-2009 เรามองว่าสิ่งประกอบสร้างที่ทำให้เราเป็นเรา เราได้มาจากการศึกษาในระบบน้อยมาก ในขณะที่ content ประเภทที่เราชอบ ที่เรารู้สึกว่าสนุก และเติบโตมากับการดูมันเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว ทุกวันนี้ยังแทบไม่มีใน ecosystem เมืองไทยเลย หลายๆสิ่งประกอบกันเลยทำให้เรารู้สึกว่า งั้นเราเป็นคนสร้างเองก็ได้วะ ไหนๆ ก็มีโอกาสแล้วที่คนอยากดูหมาเรา ก็เอาหมามาพูดเรื่องพวกนี้ดีกว่า

เมื่อถามว่า คิดว่าตัวเองทำอาชีพ influencer หรือไม่ คุณกวินบอกว่าตัวเองเป็นแค่ “animation producer ที่โชคดีที่มีคนดู” รวมถึงบอกด้วยว่า ไม่ได้คิดว่าเป็นนักทำคอนเทนต์เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ นั่นไม่ใช่ job requirement ของตัวเองในแต่ละวัน ถ้าคอนเทนต์มันสร้างแรงบันดาลใจได้ก็ดี แต่ถ้าดูแล้วหดหู่ คุณกวินก็บอกว่า “ผมก็หดหู่พอๆ กับคุณนั่นแหละครับ” (ฮา)

ขอบคุณภาพจากเพจ นวล

เมื่อเนื้อหาวิพากย์ ก็ต้องเปิดรับการวิพากย์

ทุกวันนี้ไม่ว่าคอนเทนต์จะอยู่ในรูปแบบไหน แพลตฟอร์มไหน คนติดตามเยอะแค่ไหน สิ่งหนึ่งที่หนีไม่พ้นเลยคือ ย่อมมีคนไม่เห็นด้วยต่อเนื้อหาที่นำเสนอ ซึ่งคุณกวินมองว่าเป็นข้อดีที่คนมาวิพากษ์กันในเพจ เพราะได้เห็นอีกมุมมองหนึ่งเหมือนกัน

ผมโอเคนะ และผมก็ยินดีต้อนรับคนที่ไม่เห็นด้วยแล้วมาโต้เถียงในเพจของผม ยิ่งมาเถียงกันเยอะๆยิ่งดี เพราะนั่นหมายความว่า สิ่งที่คนๆนั้นโต้เถียง เขาต้องมีความรู้ในระดับหนึ่งเลยนะ ถึงจะโต้แย้งกับเนื้อหาในประเด็นที่เรานำเสนอได้ ถ้าเขาเถียงกันในประเด็น เรานั่งอ่านก็ได้ความรู้เพิ่ม แต่ส่วนตัวผมไม่ค่อยไปตอบเมนท์เท่าไหร่ เดี๋ยวหาว่าผมเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายนึงอีก ขี้เกียจชี้แจงตัวเอง”

ขอบคุณภาพจากเพจ นวล

มีสปอนเซอร์ แต่ก็ยังรักษาตัวตน เพื่อคนดู

เมื่อเพจเริ่มดัง แน่นอนว่าก็ต้องเริ่มมีสปอนเซอร์เข้ามา แต่คุณกวินก็ยังคงรักษาแนวทางการนำเสนอรูปแบบเฉพาะตัวของเพจนวลไว้ โดยจะมีการพูดคุยกับลูกค้าตั้งแต่ต้นถึงแนวทางการทำเพจ ที่สำคัญคือพอรักษาตัวตนการนำเสนอของตัวเองเอาไว้แล้ว แม้จะเป็นการขายของ ผู้ติดตามก็ไม่ได้มีการตะขิดตะขวงใดๆ กลับสนับสนุนให้มีสปอนเซอร์ด้วยซ้ำ เพราะจะได้ดูเนื้อหาของนวลต่อไปเรื่อยๆ

“ผมไม่เคยคิดว่ามันเป็นเรื่องน่าอายที่จะเอา product เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเนื้อหาในเพจนวลเลย เพราะตราบใดที่เนื้อหาของเรามันตอบโจทย์ความต้องการคนดู คนดูพอใจ (ในเนื้อหา) ไปแล้ว ตอนจบจะขายโจ่งแจ้งแค่ไหน ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้คนดูรังเกียจเราหรือรังเกียจคอนเทนต์เลย สิ่งที่คนดูรังเกียจ คือการขายที่ไม่เคารพสติปัญญาของเขาต่างหาก”

เขาบอกว่าสุนัขมักจะเหมือนเจ้าของ

เมื่อถามถึงตัวเอกอย่างนวล ที่กลายมาเป็นองค์ประกอบหลักในการเล่าเรื่อง ทั้งนวลและเสือ เป็นหมาจรที่คุณกวินรับมาเลี้ยง  และรับมาพร้อมกัน ตอนเลี้ยงก็เลี้ยงแบบสัตว์เลี้ยงทั่วไป ไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องเชื่อง เรียกแล้วต้องมา เพื่อมาถ่ายทำคอนเทนต์ใดๆ ตัวตนของนวลจะค่อนข้างเอาแต่ใจ (แถมแซวว่าเหมือนตัวเอง) แต่ข้อดีคือนวลคือ เป็นหมาที่ ทน ถึก นั่นจึงกลายมาเป็นคาแรคเตอร์หมาของเพจนวล 

ก่อนลากลับ ด้วยความที่อยากสัมผัส อยากเห็นนวลตัวจริง ๆ จึงขอให้คุณกวินพาไปดู 

เป็นความลับทางการค้าครับ  (ยิ้ม)

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา