โควิด-19 ได้สร้างผลกระทบต่อทุกอุตสาหกรรม รวมถึงอุตสาหกรรมอาหาร เบเกอรี่และเครื่องดื่มให้ต้องปรับตัว หนึ่งในเทรนด์ที่มาแรง คือ การให้ความสำคัญกับสุขภาพ เลือกซื้อสินค้าที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย และต้องเข้าถึงได้ง่ายมีการขายออนไลน์ จัดส่งถึงที่ ถือเป็นโจทย์ใหญ่ในเวลานี้
อาหารสุขภาพ จับตลาดคนรุ่นใหม่
สมชาย อัศวปิยานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) บอกว่า เทรนด์ในปัจจุบันพบว่า ไม่เพียงแต่ผู้สูงวัยที่เลือกรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ แต่กลุ่มคนรุ่นใหม่ไม่ว่าจะเป็น Gen Y หรือ Gen Z ล้วนมองหาผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ เพราะต้องการมีร่างกายที่แข็งแรงต่อสู้กับโรคภัยเช่นเดียวกัน
ต้นปี 2564 NSL Foods ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พัฒนานวัตกรรมอาหารจากหิ้งสู่ห้าง พัฒนาอาหารประเภท Plant-Based ที่ได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ มีสินค้าเปิดตัวออกมาต่อเนื่องตอบโจทย์ทั้งในแง่ของสุขภาพและความยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อม เพราะกระบวนการผลิตสินค้าช่วยลดการปล่อยคาร์บอนได้จำนวนมาก
อีกหนึ่งเทรนด์พฤติกรรมการบริโภค ที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างก้าวกระโดด คือสินค้าประเภทโปรตีนจากแมลง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคในทวีปยุโรป และกลุ่มเอเชียแปซิฟิกที่เป็น ‘trend setter’ เนื่องจากแมลงเป็นแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน กรดอะมิโน วิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย สามารถนำมาพัฒนาใช้เป็นวัตถุดิบในผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ ขนมปัง และขนมหวานต่างๆ
ผลิตภัณฑ์จากแมลง มาแรงทั่วโลก
จากเทรนด์เรื่องอาหารจากแมลง NSL Foods ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ขนมปังโฮลเกรนผสมโปรตีนจิ้งหรีดแบรนด์แรกในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ Natural Bites ซึ่งจุดขายคือมีโปรตีนและไฟเบอร์สูงกว่าขนมปังทั่วไปและมีโคเลสเตอรอลต่ำ เป็นทางเลือกใหม่สำหรับกลุ่มคนรักสุขภาพและรักษ์โลก
ตามผลสำรวจ ชี้ว่าฟาร์มจิ้งหรีดเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีความยั่งยืนกว่าฟาร์มปศุสัตว์ทั่วไป กล่าวคือ ในกระบวนการผลิตที่ได้มาซึ่งวัตถุดิบ ฟาร์มจิ้งหรีดสามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากกว่าถึง 100 เท่า โดยสินค้ากลุ่มดังกล่าว NSL Foods เริ่มวางจำหน่ายแล้วที่ร้าน Healthiful ซึ่งตั้งอยู่ในท็อปส์ เครือเซ็นทรัลรีเทล ก่อนจะเริ่มขยายตลาดต่างประเทศผลิตขนมอื่นๆ จากแมลงในทวีปยุโรปและเอเชียเร็วๆ นี้
เป้ารายได้ปีนี้ 3,500 ล้าน โตเป็น 6,000 ล้านใน 5 ปีข้างหน้า
บทวิเคราะห์ล่าสุดจากบริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด หรือ DBS เผยว่า NSL Foods ตั้งเป้ารายได้ในปี 2564 ที่ 3,500 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 19.5% จากปี 2563 ที่มีรายได้ที่ 2,927 ล้านบาท เนื่องจากในปี 2563 บริษัทฯได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด19 ส่งผลให้รายได้ลดลงจาก 3,373.5 ล้านบาทในปี 2562 ลงมาเหลือที่ระดับดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตามสถานการณ์โควิดในปี 2564 นี้ NSL Foods จะไม่ได้รับผลกระทบมากนักเนื่องจากมีการปรับตัวรับมือกับสถานการณ์มาตั้งแต่ปีก่อน รวมไปถึงการออกโปรโมชั่นต่างๆ ร่วมกับร้านเซเว่นอีเลฟเว่น
นอกจากนี้ จากการที่ NSL Foods ตั้งเป้ารายได้ในอีก 5 ปีข้างหน้าที่ 6,000 ล้านบาท ถือว่าเป็นการตั้งเป้ารายได้ที่เติบโตสูงจากรายได้ปีล่าสุดที่ประมาณ 3,000 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโตเฉลี่ยต่อปีถึง (CAGR) 18.9% และโดยปกติแล้ว การเพิ่มขึ้นของกำไรจะสูงกว่าระดับการเพิ่มขึ้นของรายได้ โดยคาดว่าจะมีรายได้จากร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ให้มีสัดส่วนรายได้ 70% ของรายได้รวมและรายได้นอกจากร้านเซเว่นอีเลฟเว่น สัดส่วน 30% ซึ่งตอนนี้บริษัทฯ กำลังศึกษาสินค้าอาหารประเภทใหม่ตั้งเป้าสำหรับส่งออก โดยที่จะมีการใช้เทคโนโลยีใหม่จากผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่ไม่ต้องแช่แข็งและไม่ใส่ สารกันบูด แต่สามารถเก็บไว้ได้นานหลายเดือน และทำให้รสชาติอาหารไม่เปลี่ยน ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีต่อการเติบโตของNSL Foodsในระยะกลาง–ยาวอย่างมาก
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา