อ่านบันทึกของ Bill Gates หลังพบผู้นำจีน Xi Jinping: พร้อมพัฒนาสาธารณสุขและนวัตกรรมร่วมกัน

Xi Jinping บอก Bill Gates คือเพื่อนชาวอเมริกันคนแรกของปีที่ได้พบปะกับเขาที่ปักกิ่ง

หลังจากที่มีข่าวว่า Bill Gates จะพบปะกับ Xi Jinping ล่าสุด ทั้งสองฝ่ายได้พบกันแล้ว มาดูกันว่าทั้งสอง คุยอะไรกันบ้าง?

สำนักข่าว Xinhua รายงานว่า สี จิ้นผิง ชื่นชมเกตส์และมูลนิธิเกตส์ที่พยายามปฏิบัติภารกิจในการลดความยากจน พัฒนาประเด็นสุขภาพให้ดีขึ้นทั่วโลก โดยมองว่าจีนก็ทำแบบเดียวกัน แต่มุ่งพัฒนาในประเทศตัวเองก่อนเพราะมีประชากรจำนวนมหาศาลกว่า 1.4 พันล้านคน จีนก็พยายามมุ่งพัฒนาชีวิตคนให้ดีขึ้นเช่นกัน สี ยังคงย้ำจุดเดิมตามที่เคยกล่าวไว้หลายครั้งในเวทีอื่นๆ ก่อนหน้า เช่น จีนไม่ได้ต้องการเป็นมหาอำนาจครอบงำโลก แต่ต้องการทำงานร่วมกับประเทศอื่นเพื่อพัฒนาร่วมกัน

China

สี จิ้นผิง ระบุว่า จีนพร้อมแล้วที่จะขยายความร่วมมือกับประเทศอื่นๆ ทั้งในด้านวิทยาศาสตร์ นวัตกรรม และเทคโนโลยี และต้องการที่จะรับมือประเด็นท้าทายใหม่ร่วมกัน ทั้งเรื่องสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง เรื่องโรคระบาด เรื่องสาธารณสุข จีนยังให้ความร่วมมือกับมูลนิธิเกตส์อย่างเต็มที่ในประเด็นที่เกี่ยวข้อง และพร้อมจะสนับสนุน ให้ความร่วมมือกับประเทศกำลังพัฒนา ภายใต้ศักยภาพที่จีนจะทำได้

สี จิ้นผิง กล่าวกับเกตส์ว่า “คุณคือเพื่อนชาวอเมริกันคนแรกของปี ที่ได้พบปะกับฉันที่ปักกิ่ง” มูลนิธิจีน-สหรัฐฯ ร่วมมือกันโดยมีประชาชนเป็นฐานราก เราฝากความหวังไว้กับคนอเมริกันเสมอมาและขออวยพรให้เจอแต่สิ่งที่ดีที่สุดเพื่อมิตรภาพของประชาชนทั้งสองประเทศ”

เกตส์ชื่นชมจีนด้านสังคมและวิทยาศาสตร์: ลดความยากจน ผลิตยาต้านโรคสำคัญได้

ขณะที่ บิล เกตส์ พูดถึงความร่วมมือกับจีนและการที่จะกลับมาเยือนจีนในอนาคตว่า เขาพบว่า จีนประสบความสำเร็จที่ทำให้ลดความยากจนได้ ขณะเดียวกัน การรับมือกับโควิด-19 ก็ถือเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับโลก ซึ่งมูลนิธิเกตส์ได้ร่วมมือกับจีนเพื่อพัฒนานวัตกรรมให้ก้าวหน้า ซึ่งจะส่งผลดีต่อจีน ประเทศกำลังพัฒนาและโลกด้วย เกตส์ยืนยันว่าจะให้ความร่วมมือมากขึ้นทั้งในเรื่องนวัตกรรม การลดความยากจนในโลก ด้านสาธารณสุข การวิจัยและพัฒนายา การเกษตรรและจะส่งต่อความสำเร็จ ส่งต่อเทคโนโลยีไปยังประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ ด้วย

ทั้งนี้ บิล เกตส์ ยังได้เขียนบทความลงใน GatesNotes ไว้ด้วย เขาบอกว่าเขาอยากแบ่งปันความประทับใจหลังจากที่เขาได้เยือนประเทศจีนและได้พบปะกับ Xi Jinping ว่า ทั้งสองฝ่ายได้หารือกันถึงความสำคัญในประเด็นสุขภาพในระดับโลก พูดคุยกันเรื่องความไม่เท่าเทียมเชิงสุขภาพ (เช่น ประเทศแอฟริกาที่มักจะประสบปัญหาเรื่องโรคระบาด โรคติดเชื้อมากกว่าประเทศอื่นๆ ในโลก) ประเด็นเรื่องสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และจีนควรจะมีบทบาทอย่างไรในการช่วยพัฒนาชีวิตของประชาชนในโลกนี้

การได้แบ่งการไปเยือนในประเทศต่างๆ ภายใต้ภารกิจของมูลนิธิเกตส์ ประเทศที่เขาต้องการไปเยือนมีทั้ง จีน อินเดีย แอฟริกา ยุโรป และวอชิงตัน ดีซี ซึ่งประเด็นที่เขาให้ความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือเรื่องสุขภาพที่โลกต้องรับมือและเผชิญ บทเรียนจากโควิดระบาดที่เขาเฝ้าศึกษามานานทำให้เรียนรู้ว่าควรหาทางป้องกัน หาทางร่วมมือกับประเทศต่างๆ เพื่อให้เกิดการพัฒนาร่วมกันและนำไปสู่การร่วมกันรับมือหากจะเกิดโรคระบาดอีกครั้งในอนาคต

เกตส์บอกว่า การแก้ปัญหาดังกล่าว จำเป็นต้องใช้นวัตกรรม ซึ่งประกอบได้วยเครื่องมือใหม่ๆ และหนทางใหม่ๆ ที่จะป้องกันการเกิดปัญหาด้านสุขภาพเช่นที่เคยมีได้ เขาบอกว่าจีนประสบความสำเร็จทั้งการกำจัดโรคโปลิโอ และมาลาเรีย รวมถึงการพัฒนาตัวยาที่ทำให้ช่วยรักษาชีวิตคนับล้านได้ทั่วโลกจากมาาลาเรีย รวมถึงการลดความยากจนในประเทศ งานของเกตส์เมื่อไปเยือนประเทศต่างๆ คือการพูดคุยกับนักวิจัย ผู้นำรัฐบาล ฝ่ายสนับสนุน และผู้เชี่ยวชาญที่ทำงานเพื่อการพัฒนาและลดความเหลื่อมล้ำทางสุขภาพที่หลายประเทศต้องพบเจอ

เกตส์เยือนสถาบัน GHDDI ที่ก่อตั้งร่วมกับจีนและศูนย์ศึกษาด้านเมล็ดพันธุ์ของจีน

เกตส์ยังได้เยือน GHDDI สถาบันที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ที่ร่วมมือกันก่อตั้งร่วมกับเทศบาลปักกิ่งและมหาวิทยาลัย Tsinghua เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ในการศึกษาเพื่อพัฒนาตัวยาในการรักษาโรคต่างๆ ได้  นอกจาก GHDDI แล้ว เกตส์ยังไปเยือน National Crop Genebank of China ด้วย เขาบอกว่า หน่วยงานนี้มีเพื่อศึกษาวิจัยพืชผลและยังเป็นพื้นที่ที่เก็บรักษาเมล็ดพันธุ์ในระยะยาวเพื่อให้นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกสามารถเข้าถึงข้อมูลทางพันธุกรรมที่สำคัญได้

ขณะที่เกตส์เยือนที่ศูนย์เมล็ดพันธุ์แห่งชาติจีนนั้น เขายังได้พบกับนักวิทยาศาสตร์ด้านการเกษตรที่กำลังทำงานกับหุ้นส่วนทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศแอฟริกา พวกเขากำลังศึกษาพันธุ์ข้าวใหม่ๆ ที่จะช่วยให้เกษตรกรสามารถเพิ่มผลผลิตและลดการใช้ปุ๋ย ลดการใช้ยาฆ่าแมลง ลดการใช้น้ำได้ ผลประโยชน์ดังกล่าวจะเกิดแก่ครัวเรือนเกษตรกรทั่วเอเชียและแอฟริกา การลงทุนในเทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้ภาคการเกษตรมีบทบาทสำคัญมากขึ้น ช่วยเพิ่มความสามารถในการผลิตด้านการเกษตรทั่วประเทศจีนได้

เกตส์บอกว่า สิ่งที่น่าตื่นเต้นก็คือ จีนรับปากว่าจะแบ่งปันความเชี่ยวชาญของตัวเองโดยเฉพาะเรื่องนวัตกรรมแก่ประเทศที่มีรายได้น้อย จะช่วยเหลือเกษตรกรให้สามารถปรับตัวรับมือกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง เพิ่มรายได้ และต่อสู้กับวิกฤตทางอาหารเพื่อให้โลกมีความมั่นคงทางอาหารเพิ่มขึ้น

ที่มา – Xinhua, GatesNotes

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา