นอร์เวย์คือประเทศอันดับต้นๆ ที่ผู้บริโภคเปลี่ยนผ่านไปใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าอย่างรวดเร็ว สังเกตจากยอดซื้อรถใหม่เป็นรถยนต์ไฟฟ้าถึง 50% เมื่อเป็นอย่างนี้สถานีบริการน้ำมันที่นั่นจึงต้องปรับตัว และติดตั้งตู้ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแทน
อวสานการใช้งานน้ำมันในนอร์เวย์
ธุรกิจร้านสะดวกซื้อในประเทศนอร์เวย์มักจะทำธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน หรือที่เราคุ้นเคยกันในชื่อปั๊มน้ำมันควบคู่ไปด้วย เพราะทั้งสองธุรกิจนั้นต่างเกื้อหนุนกัน กล่าวคือเมื่อมีคนขับรถมาเติมน้ำมัน พวกเขาก็มักจะแวะร้านสะดวกซื้อเพื่อซื้ออาหาร หรือของจำเป็นติดไม้ติดมือออกไปด้วย
Circle K คือหนึ่งในธุรกิจร้านสะดวกซื้อในประเทศนอร์เวย์ที่ทำธุรกิจปั๊มน้ำมันควบคู่ไปด้วย แต่เมื่อภาพรวมตลาดรถยนต์ในประเทศเปลี่ยนไป ทำให้บริษัทตัดสินใจปรับปรุงปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งย่าน ย่านจัตุรัส Alexander Kiellands ที่เมืองออสโล โดยนำตู้จ่ายน้ำมันออกไปทั้งหมด และติดตั้งตู้ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแทนที่
“เราไม่เคยทำอย่างนี้มาก่อน เนื่องจากในอดีตรายได้จากธุรกิจสถานีบริการน้ำมันยังช่วยให้ภาพรวมธุรกิจเติบโต และปัจจุบันธุรกิจนี้ก็ยังสำคัญกับเราอยู่ แต่การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ Circle K ก็คิดมาเป็นอย่างดีแล้ว” Sverre Rosén ตัวแทนของ Circle K กล่าว
ขณะเดียวกันธุรกิจปั๊มน้ำมันรายอื่นๆ ก็เริ่มปรับเปลี่ยนไปในทิศทางเดียวกับที่ Circle K เช่นกัน โดยทั้งหมดให้เหตุผลไปในทิศทางเดียวกันว่า การเพิ่มตู้ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าจะช่วยรักษาลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการในอัตราเดิม แสดงให้เห็นถึงการยอมรับการเปลี่ยนแปลงของตลาด และไม่ยึดติดกับรูปแบบธุรกิจเดิมๆ
ในทางกลับกันนอกประเทศนอร์เวย์ก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงของผู้ทำธุรกิจปั๊มน้ำมันแล้วด้วย เช่น Shell ก็เริ่มสร้างเครือข่ายสถานีชาร์รถยนต์ไฟฟ้าในยุโรป, Petro-Canada กับ Chevron ก็เริ่มติดตั้งตู้ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในปั๊มน้ำมันขนาดใหญ่ ส่วน BP ก็มีการลงทุนพัฒนาระบบชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าผ่านบริษัท Startup
สรุป
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า นอร์เวย์เป็นประเทศที่พร้อมในการเปลี่ยนผ่านไปใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า และมันน่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีของประเทศอื่นๆ ที่จะปฏิบัติตามเพื่อลดมลพิษในประเทศ ซึ่งก็ต้องรอดูกันว่าจะปรับเปลี่ยนได้เร็วแค่ไหน และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์จะปรับตัวทันหรือไม่
อ้างอิง // Electrek
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา