แอป Bumble เปิดสถิติหาคู่ช่วงโควิด: ถ้าไม่ได้ฉีดวัคซีน ก็อย่าหวังว่าจะได้มีเซ็กส์กัน

แอปพลิเคชันหาคู่ชื่อดังเปิดเผยสถิติ “ปัดหาคู่” ช่วงโควิด-19 ระบาด เกิน 1 ใน 4 จะไม่ยอมมีเซ็กส์กับคู่เดทที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน

Photo by Alireza Helmi on Unsplash

Bumble แอปพลิเคชันปัดหาคู่แนวใหม่ ที่ให้ผู้หญิงมีอำนาจในการตัดสินใจเลือกคู่เดทที่เป็นผู้ชายก่อน ได้เปิดเผยสถิติการใช้งานแอปพลิเคชันของตนเองในช่วงที่โควิด-19 ระบาด โดยพบว่าโควิด-19 ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการ “ปัด” หาคู่เลย เพียงแต่พฤติกรรมการ “ออกเดท” เปลี่ยนไป

จากสถิติการใช้งานของแอปพลิเคชัน Bumble พบว่า ผู้ใช้งานชาวอเมริกันกว่า 90% อยากกลับไปออกเดทแบบเจอตัวจริง โดย 46% อยากออกเดทแบบปกติเหมือนช่วงก่อนโควิด-19 ระบาด แต่ก็ยังมีไม่น้อยที่ยังอยากรักษาระยะห่างทางสังคมอยู่ถึง 41%

นอกจากนี้ประเด็นด้านอัตราการฉีดวัคซีนที่เพิ่มขึ้นในแต่ละเมืองของสหรัฐอเมริกา ก็มีส่วนที่ทำให้จำนวนผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน Bumble เติบโตเช่นเดียวกัน

ส่วนประเด็นการฉีดวัคซีนของคู่เดท มีผลต่อการตัดสินใจหรือไม่ บอกเลยว่ามีอย่างแน่นอน

Bumble พบว่าผู้ใช้งานกว่า 30% จะไม่ยอมออกเดท หรือมีเพศสัมพันธ์กับคนที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ซึ่งก่อนหน้านี้แอปพลิเคชันหาคู่ชื่อดังอย่าง Tinder ก็ได้ออกฟีเจอร์สัญลักษณ์ยืนยันว่าผู้ใช้งานรายใดฉีดวัคซีนแล้ว เป็นการยืนยันว่าวัคซีนคือสิ่งที่ส่งผลต่อการออกเดทอย่างแท้จริง

ส่วนผลสำรวจในประเด็นอื่นๆ ที่น่าสนใจ มีดังนี้

    • 65% ของผู้ใช้งาน Bumble มองว่ามีความเป็นไปได้ที่จะตกหลุมรักคู่เดทที่ยังไม่เคยเจอตัวจริง
    • 39% บอกว่า ตั้งแต่โควิด-19 ระบาด คู่เดทที่ “เท” อย่างกระทันหัน มีจำนวนลดลง
    • 31% บอกว่าคู่เดทที่เป็นคนหลอกลวงลดลง
    • 91% บอกว่าการเดทออกเดทออนไลน์ ไม่ใช่เรื่องผิดอีกต่อไป
    • 38% บอกว่าเลือกออกเดทแบบ Virtual ในครั้งแรก ก่อนจะออกไปเจอตัวจริง

สรุป

แม้โควิด-19 จะระบาดมานานนับปี แต่การหาคู่เดทยังคงเป็นที่ต้องการของคนทั่วโลกอยู่เช่นเดิม แม้จะมีการเปลี่ยนความคิด และพฤติกรรมไปบ้าง การออกเดทออนไลน์ในครั้งแรกกลายเป็นเรื่องปกติ และวัคซีนกลายเป็นประเด็นในการตัดสินใจเพิ่มเติม นอกเหนือไปจากหน้าตา บุคลิก และนิสัยส่วนตัว

ที่มา – Fastcompany

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา