Nissan คือหนึ่งในผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในตอนนี้ และยิ่งความจริงจัง รวมถึงการทำตลาดมานาน ทำให้ค่ายรถญี่ปุ่นรายนี้ตั้งเป้าในปี 2568 ว่าครึ่งหนึ่งของยอดขายในประเทศญี่ปุ่นทั้งหมดต้องมาจากรถยนต์ไฟฟ้า
ความสำเร็จของ LEAF ช่วยกรุยทางสะดวก
เรียกได้ว่า Nissan ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นที่จริงจังในเรื่องรถยนต์ไฟฟ้าที่สุดก็ว่าได้ เพราะเริ่มทำตลาดรุ่น LEAF มาตั้งแต่ปี 2553 จนปัจจุบัน LEAF นั้นเข้าสู่ Generation ที่ 2 แล้ว ขณะที่ค่ายรถญี่ปุ่นอื่นๆ ยังอยู่แค่ขั้นกำลังพัฒนา หรือเพิ่งเริ่มขายในบางตลาด
ยิ่งประกอบกับแผนการตลาดที่ช่วยสร้างชื่อให้รถยนต์ไฟฟ้าของ Nissan จึงไม่แปลกที่ยอดขาย LEAF ในประเทศญี่ปุ่นจะทะลุ 1 แสนคันไปแล้ว ส่วนถ้าเป็นยอดขายในระดับโลกก็มีมากกว่า 3 แสนคัน และการเติบโตนี้เองทำให้ Nissan ตั้งเป้ารถยนต์ไฟฟ้าแบบสุด Agressive
“ภายในปี 2568 ครึ่งหนึ่งของยอดขายรถยนต์ในประเทศญี่ปุ่นของ Nissan ต้องมาจากรถยนต์ไฟฟ้า” นี่คือเป้าหมายที่กล่าวโดย Daniele Schillaci รองประธานฝ่ายบริหารของ Nissan ซึ่งก่อนจะไปถึงจุดนั้น ค่ายรถญี่ปุ่นรายนี้จึงเตรียมเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 100% หรือ Battery EV ทั้งหมด 3 รุ่นภายในปีปฏิทิน 2565
นอกจากนี้ยังเตรียมทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า e-Power ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปในเพื่อปั่นมอเตอร์ไฟฟ้าอีก 5 รุ่น ซึ่งตอนนี้มีรุ่น Note ในประเทศญี่ปุ่นใช้เครื่องแบบนี้แล้ว จุดเด่นของ e-Power คือเป็นทางเลือกในการประหยัดเชื้อเพลิง เพราะตัวเครื่องยนต์มีไว้เพื่อปั่นไฟ ต่างกับเครื่องยนต์ Hybrid ที่เครื่องยนต์ กับแบตเตอรี่ทำงานไปพร้อมๆ กัน
“เราเชื่อว่า e-Power ยังมีโอกาสขยายตลาดได้อีกมาก และเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Nissan เป็นผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า โดยเป้าหมายสูงสุดของเราคือสามารถจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าได้ 1 ล้านคัน ซึ่งจะทำอย่างนั้นได้ ยังมีความท้าทายสำหรับเราอีกมาก” Schillaci กล่าวเสริม
อ้างอิง // Japan Times
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา