โอลิมปิก ไม่ใช่แค่มหกรรมกีฬา แต่คือพื้นที่ปล่อยของของผู้ผลิตอุปกรณ์กีฬา หนึ่งในนั้นคือ Super Shoes

โอลิมปิกที่ปารีสไม่ใช่เพียงการแข่งขันระหว่างนักกีฬาที่เก่งที่สุดในโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นสมรภูมิของผู้ผลิตอุปกรณ์กีฬาในการแสดงศักยภาพของเทคโนโลยีในสินค้าต่าง ๆ หนึ่งในนั้นคือ Super Shoes หรือรองเท้าวิ่งประสิทธิภาพสูง ช่วยให้นักวิ่งวิ่งได้ไกล และเร็วขึ้น

Super Shoes ถูกพูดถึงตั้งแต่ปี 2017 ที่ Nike เปิดตัว Nike Vaporfly รองเท้าวิ่งรุ่นแรกที่มีแผ่นคาร์บอนในพื้นรองเท้า และหลังจากนั้น Adidas รวมถึงผู้ผลิตรายอื่นต่างผลิต Super Shoes ออกมาเพื่อให้นักวิ่งใช้ทำลายสถิติ รวมถึงจำหน่ายเป็นการทั่วไปด้วย

ยิ่งก่อนการเปิดตัว Nike Vaporfly มีนักวิ่งหญิงเพียง 19 คน ที่เคยวิ่งมาราธอนไม่เกินเวลา 2 ชม. 20 นาที แต่ปี 2023 แค่ปีเดียว มีนักวิ่งหญิงถึง 26 ที่วิ่งได้ต่ำกว่าเวลาดังกล่าว Brand Inside จึงอยากชวนมาสำรวจตลาด Super Shoes ที่กำลังเป็นหนึ่งในเครื่องมือขับเคลื่อนธุรกิจแบรนด์อุปกรณ์กีฬายักษ์ใหญ่ดังนี้

Alphafly3

มี Super Shoes ออกมา สถิติก็ถูกทำลายเป็นว่าเล่น

ในปี 2023 สถิติการวิ่งมาราธอนถูกทำลายเป็นว่าเล่น ซึ่งนอกจากประสิทธิภาพของนักกีฬา Super Shoes ถือเป็นอีกปัจจัยสำคัญ เช่น Tigist Assefa ที่สวมรองเท้า Adidas รุ่น Adizero Adios Pro Evo 1 จบการแข่งขันเบอร์ลินมาราธอน 2023 ในเวลา 2:11:53 ชม. ทำลายสถิติเก่าของนักวิ่งหญิงไปกว่า 2 นาที

ส่วน Kelvin Kiptum ชนะชิคาโกมาราธอนในปี 2023 ในเวลา 2:0:35 ชม. ทำลายสถิติเดิมของนักวิ่งชาย 34 วินาที ผ่านการสวมใส่ Nike Alphafly 3 Kiptum และยังเป็นสถิติโลกจนถึงปัจจุบัน (นับถึงวันที่ 8 ส.ค. 2024) ซึ่งรองเท้ารุ่นดังกล่าวมีน้ำหนัก 215 กรัม และถูกออกแบบมาเพื่อวิ่งระยะไกลได้เร็วขึ้น

การออกแบบของ Super Shoes นั้นเน้นที่การซับแรงจากการลงน้ำหนักของนักวิ่งเพื่อส่งกำลังกลับคืนไปที่นักวิ่งเพื่อให้วิ่งไปข้างหน้าได้เร็วขึ้น และ Nike มีการติดตั้ง Air Pocket เพื่อช่วยซับ และส่งแรงกลับไปที่นักวิ่ง รวมถึง Elliott Heath ผู้จัดการสายผลิตภัณฑ์รองเท้าวิ่งของ Nike ยังเสริมว่า พื้นรองเท้าที่เชื่อมต่อกันยังช่วยให้วิ่งเร็วกว่าเดิม

Kelvin Kiptum

แผ่นคาร์บอนไฟเบอร์ คืออีกสิ่งสำคัญ

Wouter Hoogkamer ผู้อำนวยการห้องปฏิบัติการ Integrative Locomotion มหาวิทยาลัยแมสซาชูเซตส์ แอมเฮิร์สต์ ชี้ให้เห็นส่วนประกอบหลายอย่างบนการสแกนพบว่า สิ่งสำคัญในการทำให้ Super Shoes ช่วยให้นักวิ่งวิ่งได้เร็วขึ้นคือ แผ่นคาร์บอนไฟเบอร์

“สิ่งสำคัญคือต้องเน้นความโค้งของแผ่น (คาร์บอนไฟเบอร์) แผ่นเรียบจะทำให้จุดที่ใช้แรงอยู่ที่ปลายเท้า ขณะที่แผ่นโค้งจะช่วยให้จุดที่ใช้แรงอยู่ใต้เนินปลายเท้า (Ball: ระหว่างปลายเท้า กับอุ้งเท้า) ซึ่งจะลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อน่อง และส่งนักวิ่งไปข้างหน้า ส่วน Air Pocket ก็มีส่วนสำคัญในการส่งแรงออกไปได้เช่นกัน”

แต่กว่าจะมาถึง Super Shoes นักวิ่งในอดีตต่างนิยมรองเท้าวิ่งที่มีความเรียบง่าย หรือให้ความรู้สึกเหมือนวิ่งเท้าเปล่า จนกระทั่งปี 2014 ยอดขายรองเท้าประเภทนี้ลดลงอย่างหนัก ประกอบกับการเริ่มมาถึงของการวิจัย และพัฒนา Super Shoes ของ Nike

Alphafly3
โครงสร้างของรองเท้า Alphafly3

ย้อนไปที่โครงการ Moonshot ของ Nike

2014 คือปีที่ Nike เริ่มต้นโครงการ Moonshot ที่มีเป้าหมายช่วยให้มนุษย์วิ่งมาราธอนได้ต่ำกว่า 2 ชม. ซึ่งการจะทำเช่นนั้นได้นักกีฬาต้องวิ่งได้เร็วกว่าสถิติโลกในขณะนั้น 3% ซึ่ง Nike ต้องการออกแบบรองเท้าวิ่งที่ช่วยให้นักวิ่งทำเวลาได้ต่ำกว่า 2 ชม. หรือมากกว่านั้น

การใส่แผ่นคาร์บอนไฟเบอร์เข้าไปคือหนึ่งในการทดลองพัฒนารองเท้าดังกล่าว เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น และส่งแรงกลับไปให้นักวิ่ง ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวช่วยลดพลังงานเฉลี่ยในการวิ่งลง 4% และเป็นที่มาของการเปิดตัว Zoom Vaporfly 4% ที่จำหน่ายเป็นการทั่วไป พร้อมกับถูกสวมใส่โดยนักวิ่งมาราธอนชั้นนำของโลกในปี 2017

Eliud Kipchoge นักวิ่งชายชาวเคนยา ที่สวมใส่รองเท้าคู่ดังกล่าว ชนะเบอร์ลินมาราธอนปี 2018 ในเวลา 2:01:39 ลดลงไปหนึ่งนาที 22 วินาทีจากสถิติเดิม ส่วนนักวิ่งหญิง Brigid Kosgei ชนะชิคาโกมาราธอนปี 2019 ในเวลา 2:14:04 สวม ทำลายสถิติเดิม 1 นาที 21 วินาที ที่ไม่เคยมีใครทำลายมา 16 ปี

nike

โกงเกินจน World Athletics ต้องออกกฎควบคุม

Super Shoes ช่วยทำให้นักวิ่งมาราธอนทำความเร็วได้มากขึ้นจริง และจุดนี้เอง World Athletics หน่วยงานกำกับดูแลกรีฑาโลก เริ่มออกกฎระเบียบเกี่ยวกับรองเท้าดังกล่าวในปี 2020 เช่น กำหนดความหนาพื้นรองเท้า และรองเท้าที่ถูกใช้ในการแข่งขันรายการใหญ่ เช่น โอลิมปิก ต้องมีการจำหน่ายเป็นการทั่วไป 1 เดือน ก่อนถูกใช้แข่ง

เช่นเดียวกับกีฬาอื่น ๆ ที่มีการออกกฎระเบียบเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์กีฬาที่สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน และทำลายสถิติต่าง ๆ ได้ เช่น กีฬาว่ายน้ำ ที่ไม่ให้นักกีฬาที่แข่งขันในรายการใหญ่สวมใส่ชุดว่ายน้ำแบบเต็มตัวที่ช่วยลดแรงต้าน และเพิ่มความเร็วในการว่ายได้

ตั้งแต่นั้น แบรนด์อุปกรณ์กีฬาอื่น ๆ เริ่มผลิต Super Shoes ของตัวเองออกมา ผ่านการออกแบบให้พื้นมีความหนา พร้อมใส่แผ่นคาร์บอนไฟเบอร์เข้าไปเพื่อช่วยซับ และส่งแรงให้กับนักวิ่งที่ต้องการทำเวลาในการวิ่งมาราธอนได้ดีกว่าเดิม ไล่ตั้งแต่ Adidas, Asics และ Puma

Adidas
adidas Adizero Adios Pro Evo 1

Adidas กับ Super Shoes ใส่ครั้งเดียว

เริ่มที่ Adidas ก่อน เพราะหลังจากเปิดตัว Adizero Adios Pro Evo 1s รุ่นแรก เพียงไม่นาน Tigist Assefa นักวิ่งหญิงชาวเอธิโอเปียสวมมันเพื่อชนะเบอร์ลินมาราธอนด้วยเวลาทำลายสถิติโลก โดยรองเท้าคู่นี้มีราคาสูงถึง 500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 17,700 บาท และถูกออกแบบให้สวมใส่เพื่อวิ่งมาราธอน 1 ครั้ง เท่านั้น

“Pro Evos ไม่ได้กลายเป็นของที่ใช้ไม่ได้หลังจากวิ่งหนึ่งครั้ง แต่สำหรับมืออาชีพที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด การเสื่อมสภาพใด ๆ อาจมีผลกระทบ และสิ่งที่เราต้องการเน้นคือเราไม่ได้สร้างรองเท้าเพื่อให้ใช้งานได้นาน 1,000 ไมล์” Patrick Nava รองประธานฝ่ายการจัดการผลิตภัณฑ์วิ่งในตลาดโลกของ Adidas กล่าว

“เรายังเข้าใจว่าราคา 500 ดอลลาร์ เป็นราคาที่สูงมาก แต่สำหรับนักปั่นจักรยานมืออาชีพ จักรยานพวกเขาสามารถมีราคาสูงถึง 20,000 ดอลลาร์ ซึ่งอาจมีราคามากกว่ารถยนต์” Patrick Nava เสริม โดยเหตุที่รองเท้า Adidas ราคาสูงเพราะไม่ได้ผลิตในสเกลใหญ่ แต่เป็นการจัดเรียงแท่งคาร์บอนไฟเบอร์ตามการจัดเรียงของกระดูกเท้า

Adidas
โครงสร้างของ adidas Adizero Adios Pro Evo 1

3 สิ่งที่ Super Shoes ต้องมี

Patrick Nava มองว่า Supers Shoes ต้องประกอบด้วย 3 คุณสมบัติคือ

  • พื้นรองเท้าโฟมควรดูดซับแรงลงจากเท้าพร้อมกับการกระดอนเพียงพอที่จะคืนพลังงานให้กับนักวิ่ง
  • คาร์บอนไฟเบอร์ทำหน้าที่เหมือนหนังสติ๊กซึ่งช่วยขับเคลื่อนนักกีฬาข้างหน้า
  • เบาที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะน้ำหนักทำให้เกิดความเหนื่อยล้ามากขึ้น (ทุก 100 กรัม จะกินพลังงานวิ่ง 1%)

สำหรับรองเท้าวิ่งที่ขายดีที่สุดของ Adidas ในขณะนี้คือ Adizero Prime X ราคา 250 ดอลลาร์ (ราว 8,800 บาท) และราคาไทย 9,400 บาท มีส้นสูง 50 มม. เหมาะสำหรับใส่ฝึกซ้อม เพราะด้วยส้นที่สูงขนาดนี้ทำให้ไม่สามารถสวมใส่ในการแข่งขันทางการได้

ส่วนในประเทศไทยมีรองเท้าที่มีส้นสูง และติดตั้งคาร์บอนไฟเบอร์หลายรุ่น เช่น Asics Metaspeed Sky+ ราคา 8,500 บาท และ New Balance FuelCell SuperComp Elite v4 ราคา 8,900 บาท เป็นต้น ซึ่งราคาค่อนข้างสูงกว่ารองเท้าวิ่งรุ่นปกติพอสมควร

ทั้งนี้การแข่งขันวิ่งมาราธอนในกีฬาโอลิมปิก 2024 ที่กรุงปารีสจะเริ่มขึ้นในวันที่ 10 ส.ค. ตามเวลาฝรั่งเศส และต้องติดตามว่าจะมีการทำลายสถิติของการแข่งขันนี้ด้วย Super Shoes แบรนด์ไหนอีกหรือไม่ แต่ที่แน่ ๆ รองเท้าคู่ไหนเข้าเส้นชัยก่อนย่อมกลายเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคต้องการมากขึ้นแน่นอน

อ้างอิง // Financial Times ภาพจาก Nike และ Adidas

อ่านเพิ่มเติม

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา