คนเสี่ยงตกงานกว่าครึ่งโลก WEF เตือน เร่งปรับตัว ปรับวิธีคิดและการทำงานเพื่อความอยู่รอด

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เริ่มผ่านพ้นช่วงเวลาที่เรียกได้ว่าเป็นวิกฤตไปแล้ว ด้วยจำนวนผู้ป่วยในหลายประเทศที่ลดลงเรื่อยๆ แน่นอนว่าภาครัฐบาลและเอกชน ต้องเฝ้ารอจังหวะเวลาที่เหมาะสมที่จะผ่อนปรนมาตรการล็อคดาวน์ เพื่อให้คนได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ รวมถึงเพื่อเป็นการฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจที่กระทบกับการจ้างงานคนจำนวนมากอีกด้วย

ภาพจาก Shutterstock

จากสถิติของ World Economic Forum พบว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ประชากรครึ่งหนึ่งของโลกตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะตกงาน ดังนั้น โลกของการทำงานในอนาคต (Future of Work) จึงเป็นเรื่องสำคัญ หลังจากที่ถูกพูดถึงมานานหลายปีว่าเทคโนโลยี และปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจจะ Disrupt วิธีการทำงานแบบเดิมๆ

ปรับการทำงานรับมือโลกหลังโควิด-19

พนักงานในโรงงานที่มีความเสี่ยงจะถูกเทคโนโลยีเข้ามาแทนที่ โดยการใช้งานระบบอัตโนมัติในกระบวนการผลิตมากยิ่งขึ้น ซึ่งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยิ่งเร่งให้เกิดความเปลี่ยนแปลงเร็วขึ้น ดังนั้นตลาดแรงงานควรใช้ช่วงเวลานี้ในการปรับตัวให้โลกของการทำงานกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้อย่างรวดเร็ว ดังนี้

การเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ เป็นสิ่งสำคัญ ภาพจาก pixabay.com

ให้ความสนใจพัฒนาทักษะเดิม และหาทักษะใหม่ๆ

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาภาครัฐ และเอกชนหลายๆ บริษัทเริ่มให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะเดิมที่มีอยู่ (Upskill) และเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ (Reskill) เพื่อเตรียมความพร้อมกับยุค Disruption ซึ่งนับว่าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญเพราะการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยิ่งเป็นการเร่งให้เกิดการ Disruption จากการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการทำงานบางอย่างมากขึ้น

ทางรัฐบาล และหน่วยงานเอกชนต้องทำงานในเชิงรุก เพื่อกระตุ้นให้แรงงานรู้จักเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ที่มีความจำเป็นกับการทำงานในโลกหลังโควิด-19 โดยเฉพาะทักษะดิจิทัล เพื่อปรับตัวให้อยู่รอดในระบบเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป

ธุรกิจแบบ E-commerce เป็นหนึ่งในธุรกิจที่กำลังเติบโต ภาพจาก pixabay.com

ให้ความสำคัญกับงานในยุคใหม่

ที่ผ่านมา World Economic Forum ได้ให้ความสำคัญกับงานในอนาคต (Job of Tomorrow) ซึ่งจะมีความสำคัญในอนาคตมากขึ้น โดยเฉพาะงานในเศรษฐกิจใส่ใจ (Care Economy) ที่เน้นเกี่ยวกับการดูแลร่างกาย อารมณ์ และความต้องการของคน เศรษฐกิจให้ความสนใจกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (Green Economy) รวมถึงงานที่มีความเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีและ การจัดการ และธุรกิจ E-commerce ที่มีแนวโน้มเติบโตในอนาคต

แต่อย่างไรก็ตามการระบาดของโรคโควิด-19 จะทำให้เราต้องหันไปให้ความสนใจคนที่ทำงานในโรงพยาบาล ร้านซุปเปอร์มาเก็ต และโรงเรียน ซึ่งนับว่ามีความสำคัญในช่วงเวลาเช่นนี้

รัฐบาลต้องช่วยเหลือคนที่กำลังตกงาน ภาพจาก Shutterstock

ช่วยเหลือคนที่ตกงาน

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้คนทั่วโลกต้องตกงาน ดังนั้นการช่วยเหลือคนที่กำลังตกงานเป็นสิ่งสำคัญทั้งของภาครัฐและภาคเอกชน ตอนนี้หลายๆ บริษัทเริ่มช่วยเหลือพนักงานที่ตกงาน ด้วยการเปลี่ยนหน้าที่การทำงาน จากเดิมที่อาจทำงานที่มีความต้องการต่ำ ไปสู่การทำงานในตำแหน่งใหม่ที่มีความต้องการสูงกว่า โดยเฉพาะในธุรกิจการขนส่ง

ส่วนรัฐบาลควรมีการช่วยเหลือแรงงานที่กำลังตกงานด้วยการเปิดเผยข้อมูลตลาดแรงงาน เปิดตลาดแรงงานเป็นตัวกลางช่วยหางานใหม่ ซึ่งจะช่วยลดอัตรการว่างงานได้

งานดูแลเด็กแม้จะมีรายได้น้อย แต่ก็มีความสำคัญ ภาพจาก pixabay.com

คิดใหม่ว่างานอะไรสำคัญ

ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเริ่มมีการตระหนักมากขึ้นว่างานที่ได้รับค่าตอบแทนน้อย ก็เป็นงานที่มีความสำคัญเช่นเดียวกันโดยเฉพาะงานที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเด็ก ที่มักได้รับค่าแรงต่ำ

World Economic Forum แสดงความเห็นว่าควรใช้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นี้ เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงใหม่ ว่างานบางชนิดก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน เช่นเดียวกับช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่มีการเปลี่ยนวิธีคิดเกี่ยวกับการทำงานใหม่ จนเกิดการพัฒนากฎหมาย และมาตรฐานที่เกี่ยวกับแรงงาน

ต้องมีความร่วมมือระหว่างลูกจ้าง นายจ้าง และภาครัฐ เพื่อช่วยกันฟื้นฟูหลังวิกฤตโควิด-19 ภาพจาก pixabay.com

สร้างความร่วมมือระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง

การสร้างความร่วมมือระหว่างนายจ้าง ลูกจ้าง และภาครัฐบาล ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศนับว่ามีความสำคัญซึ่งจะช่วยฟื้นฟูสภาพการทำงานหลักวิกฤตโควิด-19 ได้ โดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนความรู้ ข้อควรปฎิบัติในการทำงานระหว่างกัน เพื่อสร้างทักษะการทำงานที่สามารถอยู่รอดได้หลังวิกฤตโควิด-19

ที่มา – Weforum

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา