เศรษฐกิจไทยในปีนี้มีความคาดหวังอย่างสูงอย่างยิ่ง โดยทางสภาพัฒน์ให้กรอบการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจไทยที่ 3.6-4.6% แต่อาจต้องมาคิดถึงเรื่องความเสี่ยงของเศรษฐกิจไทยกันใหม่อีกรอบจากเรื่องของนโยบายสงครามการค้า
ดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย บอกว่า สงครามการค้าและเรื่องของภูมิศาสตร์การเมืองโลก (Geopolitics) เป็นความเสี่ยงสำคัญของเศรษฐกิจไทย ซึ่งประเทศไทยอาศัยการส่งออกไปต่างประเทศสูงถึง 70% ของ GDP
ถ้าสงครามการค้าเกิดเศรษฐกิจไทยอาจเจอช่วงยากลำบาก
เขากล่าวว่าเรื่องของการเมืองในเรื่องของการเจรจาต่อรองอย่างเช่น กำแพงภาษี เป็นประเด็นความเสี่ยงสำคัญและอาจลุกลามไปเป็นถึงเรื่องของสงครามการค้าได้ แต่ประเทศไทยยังโชคดีคือ เรื่องของการส่งออกที่เติบโต การอุปโภคบริโภคภายในประเทศไทยก็กำลังแข็งแกร่งตามมาเช่นกัน
ประเด็นสำคัญของเรื่องสงครามการค้าคือเรื่องของการที่ ปธน. ทรัมป์ ได้ลงนามอนุมัติการตั้งกำแพงภาษีเหล็กและอลูมิเนียม โดยยกเว้นให้กับบางประเทศเช่นเม็กซิโก แคนาดา ฯลฯ จึงทำให้บางประเทศไม่พอใจสหรัฐอเมริกา เช่น ทาง EU เตรียมอาจขึ้นภาษีกับกางเกนยีนส์ลีวาย เป็นต้น
เศรษฐกิจไทยกำลังฟื้น
เขาได้กล่าวเสริมอีกว่าตอนนี้เศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นและรวมไปถึงเรื่องของอัตราเงินเฟ้อ โดยทางธนาคารแห่งประเทศไทยกำลังจับตามองเรื่องของความแข็งแกร่งในเรื่องของความต้องการในประเทศ เช่น เรื่องของการอุปโภคบริโภค ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามเป้าแล้วทางธนาคารแห่งประเทศไทยก็จะเตรียมขึ้นอัตราดอกเบี้ย ปัจจุบันประเทศไทยมีอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 1.5%
ปัญหาคือเงินไหลเข้า ทำให้บาทแข็ง
เรื่องสำคัญอีกเรื่องคือเรื่องของค่าเงินบาท โดยเขาได้กล่าวเสริมถึงเรื่องของเงินทุนที่ไหลเข้า ซึ่งตัวเขาเองเป็นห่วงมากกว่าเรื่องของเงินทุนไหลออก ซึ่งล่าสุดเงินบาทไทยแข็งกว่าดอลลาร์สหรัฐถึง 12% ซึ่งเม็ดเงินไหลเข้ามาทำให้ค่าเงินบาทของไทยแข็งค่าขึ้น ถึงแม้ว่าทางธนาคารแห่งประเทศไทยจะผ่อนคลายในเรื่องของการนำเม็ดเงินออกไปลงทุนในต่างประเทศแล้วก็ตาม
ที่มา – Bloomberg
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา