ตอนนี้รถยนต์ไฟฟ้า 100% กลายเป็นยานพาหนะกระแสหลักไปเรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะเมื่อหลายแบรนด์สามารถทำระดับราคาลงมาต่ำกว่าล้านบาทได้ เท่ากับผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น สามารถเปรียบเทียบได้ทันทีว่า ด้วยงบประมาณ 8-9 แสนบาท สามารถเลือกรุ่นไหน แบรนด์ไหนได้บ้าง
ปัจจัยภายนอกอื่นๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับการใช้งานรถไฟฟ้าก็ดูจะสอบผ่านสำหรับคนไทย อีกทั้งวิวัฒนาการของรถไฟฟ้าไม่ว่าจะเป็นแบตเตอร์รี่ มอเตอร์ ระยะเวลาที่ใช้ในการชาร์จก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ปิดท้ายด้วยบริการหลังการขาย ซึ่งทั้งหมดได้สร้างความสบายใจให้ผู้บริโภคได้มากพอสมควร โดยถ้ามองไปในตลาด EV วันนี้ มีแบรนด์ที่น่าสนใจหลากหลายแบรนด์เป็นตัวเลือกให้กับผู้บริโภค การเปิดตัว EV รุ่นใหม่ ๆ รวมถึงการออกแคมเปญส่งเสริมเสริมการขาย ล้วนเป็นตัวกระตุ้นตลาด EV ที่เห็นผลทั้งสิ้น ไม่เว้นแม้กระทั่งแบรนด์ที่ทำตลาดในเมืองไทยมายาวนานถึง 10 ปี อย่าง MG ที่ยังคงสร้างกระแสในตลาด EV อย่างไม่ขาดสาย
ล่าสุด MG ออกแคมเปญ เติมพลังงานสะอาดให้คุณ ชาร์จเท่าไหร่ เอ็มจี คืนให้เท่านั้น สำหรับลูกค้ารถไฟฟ้า MG ทุกรุ่น ใช้บริการชาร์จรถที่ MG SUPER CHARGE ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ก.ค. 2566 ตลอด 24 ชม. ยอดชาร์จไฟเท่าไหร่ เอ็มจีให้ CASH BACK คืน 100% โดยจะคืนผ่านทาง MG WALLET ซึ่งอยู่ใน MG Thailand แอพพลิเคชัน ภายใน 7 วันทำการ นับจากวันที่ใช้บริการสถานี MG SUPER CHARGE ปัจจุบันเปิดให้บริการแล้ว 135 สถานี ทั่วประเทศ
ถือเป็นการทำแคมเปญที่น่าสนใจไม่น้อย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของ เครือข่าย และสถานีชาร์จของ MG ได้อย่างชัดเจน และเป็นจุดแข็งของ MG ที่ยังไม่มีแบรนด์ไหนโค่นล้มได้ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้ลูกค้ามีประสบการณ์ในการใช้บริการที่ “ตู้แดง” มากขึ้น ในขณะที่ลูกค้าได้รับประโยชน์จากแคมเปญนี้แบบ 100% สร้างความเชื่อมั่นให้กับ MG ได้เป็นอย่างดี
และหากมองในแง่ของผลิตภัณฑ์ของ MG ด้วยความหลากหลายของรุ่นรถที่ทำตลาด EV ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น MG ZS EV, MG EP, MG ES, MG4 ELECTRIC และ MG MAXUS 9 ซึ่งแต่ละโมเดลจะตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกันไป จึงไม่ใช่เรื่องแปลกใจที่ MG มักจะถูกดึงเป็นคู่เทียบเมื่อมีรถ EV รุ่นใหม่เปิดตัวอยู่เสมอ ล่าสุดที่มีการประกาศราคารถ EV รุ่นใหม่เจ้าปลาโลมา โมเดล MG4 ELECTRIC ได้ถูกหยิบยกกลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง แต่ด้วยคุณสมบัติในการเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่ออกแบบและพัฒนาให้มีระบบขับเคลื่อนล้อหลัง (DYNAMIC REAR WHEEL DRIVE) ฉีกแนวด้านสมรรถนะการขับขี่ที่สนุกสนาน เร้าใจ (FUN TO DRIVE)และกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ EV รุ่นนี้
บอกก่อนเลยว่า NEW MG4 ELECTRIC มี 2 รุ่นย่อย ราคาหลังหักส่วนลดจากมาตรการส่งเสริมจากภาครัฐ คือ รุ่น D ราคา 869,000 บาท และ รุ่น X ราคา 969,000 บาท
รุ่นท็อปราคายังไม่ถึงล้าน
ความ “สนุกและเร้าใจ” ส่วนหนึ่งมาจากขุมพลังของมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 170 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร มาพร้อมกับเทคโนโลยี RUBIK’s CUBE BATTERY ขนาดความจุ 51 kWh จัดเรียงเซลล์แบบแนวนอนและระบายความร้อนด้วยระบบ Liquid Cooling system สามารถวิ่งในระยะทางไกลสูงถึง 425 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) การขับขี่เดินทางไปต่างจังหวัดจึงไม่ใช่ปัญหาของ MG4
MG4 ถูกวางให้เป็นรถ EV สำหรับคนที่หลงใหลการขับขี่
การกระจายน้ำหนักของ NEW MG 4 ELECTRIC เป็นแบบสมมาตรที่ 50:50 ตัวถังมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ (LOW CENTRE OF GRAVITY) สอดคล้องกับช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัทและด้านหลังอิสระแบบ 5-Link Suspension ทั้ง 2 รุ่นย่อย ทำให้ลดแรงสั่นสะเทือนจากพื้นผิวถนนได้ดีเยี่ยม และช่วยให้ประสิทธิภาพในการเกาะถนนดียิ่งขึ้นด้วย จากการทดสอบสมรรถนะในสนามปิด สื่อสายยานยนต์เมืองไทยต่างให้การยอมรับในการตอบสนองของรถรุ่นนี้
ไม่แปลกใจที่ NEW MG 4 ELECTRIC จะมีบุคลิกที่ดูคล่องแคล่ว ขับสนุก ยิ่งขับในเมือง การควบคุมรถเลี้ยวไม่มีปัญหา รัศมีวงเลี้ยว 5.3 เมตร และมี Overhang ด้านหน้าและหลังของรถที่สั้น และสามารถปรับโหมดการขับขี่ได้ตามสไตล์การขับที่แตกต่างกัน 5 โหมด ได้แก่ SNOW, ECO, NORMAL, SPORT และ CUSTOM ที่สามารถตั้งค่าได้ทั้งน้ำหนักพวงมาลัย + อัตราเร่ง + แรงที่ใช้ในการเหยียบเบรก ชอบแบบไหนเลือกได้เต็มที่ นั่นแปลว่า MG4 สามารถเป็นรถไฟฟ้าคันเดียวของบ้าน สำหรับทุกคนในครอบครัวได้
นวัตกรรมยานยนต์ใหม่ ๆ มีมาให้สัมผัสอยู่เสมอ
อีกหนึ่งความเหนือของ NEW MG4 ELECTRIC ที่มาช่วยปลดล็อกความกังวลคนไทยในเรื่องความอันตรายจากการใช้งานรถไฟฟ้า คือ แพลตฟอร์มใหม่อย่าง NEBULA PURE ELECTRIC พัฒนาขึ้นเพื่อยนตรกรรมไฟฟ้าโดยเฉพาะ สามารถปรับใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าได้หลายเซกเมนต์ รองรับแบตเตอรี่ได้หลากหลายความจุ และที่สำคัญแบตเตอรี่ถูกติดตั้งเป็นชิ้นเดียวกับโครงสร้างตัวรถจึงได้รับการปกป้องมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้การบริหารพื้นที่ภายในห้องโดยสารทำได้ดีขึ้นด้วย
นวัตกรรมแบตเตอรี่ CELL TO PACK จัดเรียงเซลล์แบบแนวนอนมีความบาง 110 มิลลิเมตรช่วยลดขนาดและระบายความร้อนได้เป็นอย่างดี มอเตอร์มีการพัฒนาให้มีขนาดเล็กลงแต่ให้สมรรถนะสูงถึง 16,500 รอบต่อนาที ในอนาคตมีโอกาสที่แบตเตอรี่จะมีขนาดเล็กลงแต่ประสิทธิภาพ และระยะทางสามารถวิ่งได้ไกลขึ้น
ส่วนฟังก์ชันอำนวยความสะดวกต่างๆ ใส่มาให้เพียงพอต่อการใช้งาน รองรับการชาร์จไฟกระแสตรง DC สูงสุด 88kW และการชาร์จแบบเร็ว หรือ Quick charge จาก 10% – 80% ในเวลาเพียง 35 นาที ถ้าเทียบกับรถไฟฟ้าในกลุ่มเดียวกันถือว่าชาร์จได้เร็ว อีกทั้งยังสามารถเป็นแหล่งจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายนอกรถด้วยระบบ V2L
ในวันที่ตลาด EV แข่งขันดุเดือด จะเป็นช่วงที่ลูกค้ามีโอกาสเลือกมากที่สุด
MG4 ในวันที่ตลาด EV ดุเดือด ทุกแบรนด์มุ่งหวังเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด กลยุทธ์แคมเปญจัดถูกงัดมาใช้ แม้ว่า MG4 จะเปิดตัวมาได้ซักระยะหนึ่งแล้ว แต่เดือนนี้กลับมีกระแสในออนไลน์มากขึ้น จากการออกแคมเปญพิเศษสำหรับลูกค้า 1,000 คนแรก ที่จองตั้งแต่วันนี้ – 31 กรกฎาคม 2566
- ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง นาน 3 ปี
- ฟรี! ค่าบำรุงรักษาตามระยะ 5 ปี หรือ 100,000 กม.
- พิเศษ! เงื่อนไขการรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 180,000 กม. แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน
- ฟรี! บริการรถช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง
- รับดอกเบี้ยพิเศษ 1.79% นาน 48 เดือน
- ฟรี! MG HOME CHARGER จำนวน 1 ชุด
- ฟรี! ค่าติดตั้ง MG HOME CHARGER
- ฟรี ชุดพรมปูพื้น
ทั้งหมดเพื่อคลายความกังวล และเพิ่มความสบายให้กับว่าที่เจ้าของ NEW MG4 ELECTRIC ทั้งเรื่องการประกัน การบำรุงรักษา การรับประกันแบตเตอร์รี่ ดอกเบี้ยพิเศษ และที่สำคัญ MG HOME CHARGER ฟรีด้วย รวมมูลค่ากว่า 140,000 บาท ถือว่าเป็นแบรนด์ที่ทำตลาด EV แบบไม่กั๊กของ และให้การส่งเสริม สนับสนุนสังคมไร้มลพิษอย่างแท้จริง
ใครที่สนใจอยากทดลองขับ NEW MG4 ELECTRIC ไปลองได้เลยที่โชว์รูม และสามารถจองผ่านช่องทางออนไลน์ที่ https://onlinebooking.mgcars.com/ หรือทางแอพพลิเคชั่น MG Thailand ได้เลย
* เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
* บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนด หรือเงื่อนไขต่าง ๆ โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
* สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ MG CALL CENTRE โทร. 1267
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา