ศึกประชัน “Network Presenter” 3 ค่ายมือถือใครปังที่สุด ใครได้ผลที่สุด

ช่วงนี้ 3 ค่ายมือถือ AIS, dtac และ True มีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง นอกจากเรื่องการประกาศเข้าหรือไม่เข้าร่วมประมูลคลื่นความถี่ใหม่ของ กสทช. หลายคนคิดว่า การประกาศเปิดตัว dtac TURBO และการขยายบริการ AIS NEXT G อาจเป็นประเด็นร้อนแรง

แต่สิ่งที่ร้อนแรงยิ่งกว่า กลับอยู่ที่การเลือกใช้ Brand Presenter หรืออาจเรียกว่า Network Presenter ของแต่ละค่ายมือถือ กลับน่าสนใจยิ่งกว่า

AIS รวดเร็ว ฉับไว ฉกขวัญใจแฟนคลับ

คนที่ขยับตัวไวที่สุดน่าจะเป็น AIS ที่ล่าสุดประกาศ “เป๊ก ผลิตโชค” ที่มี “นุช” ที่เป็นมากกว่าแฟนคลับเป็นพลังหนุนหลังอยู่เสมอ และมาผสานพลังกับ “แบมแบม” จาก GOT7 ที่มีเหล่าอากาเซ แฟนคลับพันธุ์แท้คอยติดตามอยู่ไม่ห่างเช่นกัน

การเลือกใช้พรีเซ็นเตอร์ 2 คนนี้ ทำให้ AIS มีกลุ่มคนที่เป็น Fan Loyalty มาอยู่ด้วย พร้อมที่จะใช้สินค้า และปกป้องแบรนด์​ (พร้อมกับปกป้องพรีเซ็นเตอร์ไปพร้อมกัน) สิ่งที่ AIS ได้เพิ่มเติมคือ กลุ่มลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่ อายุน้อยลง

นี่คือประโยชน์ที่ AIS ได้รับจากความรวดเร็ว และตัดสินใจอย่างถูกต้องในการเลือกใช้พรีเซ็นเตอร์

มองย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ AIS เป็นแบรนด์ที่ช่วงชิง ดารา ที่กำลังดังและมีฐานแฟนคลับติดตามจำนวนมาก มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ได้เสมอๆ ก่อนหน้านี้การคว้า “ออเจ้า” เบลล่า ราณี มาทำโฆษณาหนังสั้นล้อไปละครบุพเพสันนิวาส เรียกเสียงฮือฮาได้มาก

ก่อนนั้น AIS ก็เคยใช้งาน “หน้ากากทุเรียน” และ “หน้ากากจิงโจ้” (ซึ่งก็คือ เป๊ก ผลิตโชคนั่นแหละ) หลังจากกระแส The Mask Singer ซีซั่นแรกที่สร้างเรทติ้งสูงกระฉูดที่สุด รวมถึงในการนำเสนอเรื่องราวของ AIS NEXT G ที่ขนกองทัพดารามาเพียบ เช่น เจมส์จิ (ที่เป็นพรีเซ็นเตอร์กันอยู่แล้ว​), แต้ว ณฐพร,​ วี วีโอเล็ต, ดีเจพุฒ, เต้ย จริณพร เป็นต้น

พรีเซ็นเตอร์ อาจไม่มีผลกับคุณภาพสัญญาณ​ แต่เมื่อ AIS มั่นใจว่าคุณภาพสัญญาณดีอยู่แล้ว การมีพรีเซ็นเตอร์ที่ถูกต้อง ก็ช่วยเสริมภาพลักษณ์ บริการ และสร้างฐานลูกค้าได้เป็นอย่างดี

True ไม่ยอมน้อยหน้า จัด BNK48 – ตูน บอดี้สแลม

ด้าน True ที่ปัจจุบันขยับขึ้นมาเป็นเบอร์ 2 ของตลาดในด้านจำนวนผู้ใช้แล้ว เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาประกาศเปิดตัว อาทิวราห์​ คงมาลัย หรือ พี่ตูน บอดี้สแลม เป็นพรีเซ็นเตอร์ที่เลือกใช้ Truemove H ถ้าบอกว่า พี่ตูน คือ ซูเปอร์สตาร์ตัวจริง ที่วิ่งจากใต้ขึ้นเหนือระดมทุนช่วยโรงพยาบาลในโครงการ “ก้าว” เป็นขวัญใจคนไทยทั่วประเทศ ก็ไม่เกินเลย

อีกหนึ่งพรีเซ็นเตอร์ คือ BNK48 ที่แม้ว่าจะไม่ได้มีน้ำหนักในการโน้มน้าวจิตใจแฟนคลับให้มาใช้บริการตามได้ แต่อย่างน้อยการมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกอย่างต่อเนื่อง และการได้ฐานแฟนคลับกลุ่มใหม่ๆ ก็เป็นประโยชน์ที่ True ได้รับไปเต็มๆ

พรีเซ็นเตอร์แข็งแกร่ง สร้างแบรนด์แข็งแรง

ในแง่ความเคลื่อนไหวทางการตลาด True อาจจะไม่ได้มีออกมามากเท่ากับ AIS และ dtac แต่กิจกรรมที่ทำร่วมกับลูกค้า ผ่านทางพรีเซ็นเตอร์มีอย่างต่อเนื่อง ก่อนนี้ที่เรียกเสียงฮือฮา ถ้า AIS มี ออเจ้า True ก็มี พี่หมื่น โป๊ป ธนวรรธน์ และยังสร้าง Story ไปในหลากหลายบริการของ True ด้วย

รวมถึงการมีคู่พระนาง ณเดช-ญาญ่า ที่ทำหน้าที่มาอย่างเหนียวแน่น หลายปี ก็ได้ผลไปไม่น้อย (ดูโฆษณาอื่นที่มี ณเดช-ญาญ่า ยังแอบคิดว่า True หรือเปล่า?)

มองในเชิงกลยุทธ์ การมี ณเดช-ญาญ่า, พี่หมื่น โป๊ป ธนวรรธน์, BNK48 และ พี่ตูน บอดี้สแลม ทำให้เห็นภาพชัดเจนว่า True มีพรีเซ็นเตอร์ที่ครบถ้วนในทุกตลาด สร้างการรับรู้และสร้างการมีส่วนร่วมจากผู้ใช้ได้กว้างขวาง

dtac กับ นาย ณภัทร และ ซันนี่

dtac ที่เพิ่งเปิด dtac TURBO ที่มาพร้อมกับคลื่นความถี่ 2300MHz ใช้พรีเซ็นเตอร์หนุ่ม นาย ณภัทร เพื่อบอกว่า โครงข่ายใหม่ของ dtac ใหญ่กว่า แรงกว่า ลื่นกว่า เชื่อว่าต้องการต่อยอดจากแคมเปญเดิม คือ Go NoLimit ที่ นาย ณภัทร เป็นพรีเซ็นเตอร์อยู่แล้ว

ก่อนหน้านี้ dtac เลือกใช้ ซันนี่ เป็นพรีเซ็นเตอร์​ “ใจดี” บริการเสริมต่างๆ ของ dtac และสร้าง Story ระหว่างพรีเซ็นเตอร์ด้วยกันบนโลกโซเชียล เป้าหมายหลักคือ ต้องการสร้างการรับรู้ให้กับผู้ใช้บริการ dtac ได้เชื่อมั่นในคลื่นความถี่ใหม่ ที่จะทำให้บริการดีขึ้น และไม่ต้องห่วงกับสัญญาสัมปทานที่กำลังจะหมดลงในเดือน ก.ย. นี้

มาใช้ dtac กับอั้มมั้ยคะ?

เมื่อปีที่ผ่านมา dtac ใช้ อั้ม พัชราภา เป็นพรีเซ็นเตอร์คลื่น 1800MHz พร้อมกับวลีเด็ดที่สร้างความฮือฮามาก “มาใช้ dtac กับอั้มมั้ยคะ?” ซึ่งหลายคนจับตามองว่า dtac จะเดินกิจกรรมการตลาดกับอั้มอย่างไรต่อไป

แต่ด้วยข้อจำกัดทางงบประมาณ และนโยบายจากบริษัทแม่อย่างเทเลนอร์​ทำให้กิจกรรมการตลาดของ dtac หยุดหายไปในปีที่ผ่านมา และแคมเปญการตลาดกับอั้มก็จบลงไปพร้อมกัน ทั้งที่ ถ้ามีการเดินหน้าต่อน่าจะได้เห็นอะไรสนุกๆ กว่านี้

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา