วงการไอทีไทยตอนนี้ Startup กำลังหอมหวานและเบ่งบานเต็มที่ ในอีกด้านหนึ่งคือ บริษัทซอฟต์แวร์ไทยรุ่นเก่า เวลานี้ก็กำลัง Transform ตัวเองกันอย่างหนักเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอด ซึ่งต้องยอมรับว่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา บริษัทซอฟต์แวร์ไทยจำนวนมากล้มหายตายจากไปเยอะ ดังนั้นรายที่ยังรอดอยู่ได้มีพนักงานมากกว่า 30 คน มียอดบิลลิ่งต่อ 50-60 ล้านบาท ถือว่าได้รับการพิสูจน์แล้วว่า แข็งแกร่งจริงๆ สามารถแข่งขันกับระดับโลก
ยิ่งในสถานการณ์ตลาดโลกยุคนี้ที่เกิดการ Disrupt กันตลอดเวลา เรียกว่า โลกยุคใหม่กำลังบีบคั้นกระแทกกระทั้นโลกยุคเก่าอย่างต่อเนื่อง บริษัทซอฟต์แวร์ยุคเก่าที่แข็งแกร่งเหล่านี้ กำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายครั้งสำคัญ และเป็นสัญญาณหนักๆ ว่าถ้าไม่เร่งปรับเพื่อก้าวต่อไปข้างหน้า ก็จะถูกกลืนหายไปอย่างแน่นอน
มองประวัติศาสตร์ซอฟต์แวร์ไทยผ่าน Netka
ชื่อของ Netka System หรือ Netka อาจจะไม่เป็นที่รู้จักในตลาดบ้านเราเท่าไร ถ้าไม่ใช่คนในวงการไอทีเมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว รับรองว่าแทบจะไม่รู้จัก โดยธุรกิจของ Netka คือ การสร้างซอฟต์แวร์สำหรับบริหารจัดการระบบ, ฮาร์ดแวร์ และเน็ตเวิร์ก เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ถ้าจะกล่าวให้เห็นภาพมากขึ้น Netka คือ Software Total Solutions คู่แข่งกับ IBM และ HP
ภาพที่เกิดขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมาคือ ทั่วโลกมีบริษัทซอฟต์แวร์ลักษณะนี้เป็นจำนวนมาก แต่นอกจากล้มหายไปแล้ว ก็ถูกบริษัทขนาดใหญ่ซื้อกิจการ ควบรวมเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของ Solutions แต่ Netka เป็นซอฟต์แวร์ของคนไทยแท้ที่ยังอยู่รอดมาได้ และสามารถบริหารสาธารณูปโภคไอทีได้ทุกอย่าง จนคู่แข่งเหลือเพียงบริษัทไอทียักษ์ใหญ่ของโลกเท่านั้น แต่ต้องยอมรับว่าการแข่งขันในไทย แพ้มากกว่าชนะ เพราะค่านิยมของคนไทยที่นิยมของนอกมากกว่า และไม่เชื่อฝีมือคนไทยด้วยกันเอง แม้แต่หน่วยงานของรัฐ หลายครั้งก็ยังกำหนดคุณสมบัติกีดกันซอฟต์แวร์ไทยด้วยกันเอง
ดังนั้น Netka จึงไม่ได้มองแค่ตลาดไทย แต่กลับไปลุยตลาดอยู่ต่างประเทศ เก็บลูกค้าสำคัญๆ ขยายงานออกไปได้อย่างจริงจัง ไม่น่าเชื่อว่าสนามบินขนาดใหญ่ในหลายประเทศ ใช้ซอฟต์แวร์ของ Netka ในการบริหารจัดการทั้งระบบด้วย
การถาโถมของเทคโนโลยีใหม่ ทำลายวัฒนธรรมซอฟต์แวร์แบบเถ้าแก่ของไทย
อย่างไรก็ตาม การมาถึงของเทคโนโลยี Cloud Computing และกลายเป็นกระแสหลักของโลก มีผลต่อธุรกิจซอฟต์แวร์ของ Netka โดยตรง จากเดิม Netka คือซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อขายโดยเฉพาะ แต่คลาวด์คือการเปลี่ยนธุรกิจจากซื้อเป็นเช่าใช้ทุกอย่าง เกิด IaaS หรือ Infrastructure as a Service, PaaS หรือ Platform as a Service และ SaaS หรือ Software as a Service จึงถึงเวลาที่ Netka ต้องปรับตัวเช่นกัน
Netka มองการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นโอกาสที่จะได้ลูกค้าใหม่อย่าง Data Center และพัฒนาซอฟต์แวร์ให้ทำงานกับระบบ Cloud เพราะองค์กรขนาดใหญ่จริงๆ ยังไม่ไว้ใจที่จะใช้ Public Cloud แต่เลือกใช้ Private หรือ Hybrid Cloud มากกว่า
เท่ากับว่า องค์กรเหล่านั้นต้องการ การบริหารจัดการระบบที่อยู่ทั้งในองค์กร และอยู่ใน Cloud ร่วมกันแบบมีประสิทธิภาพไร้รอยต่อ (คือให้รู้สึกเหมือนว่า มันเป็นระบบอยู่ในที่เดียวกัน) ซึ่ง Netka รู้ดีว่า การจะพัฒนาซอฟต์แวร์มาบริหารจัดการ Cloud เองนั้น เป็นเรื่องใหญ่เกินไป และไม่ใช่การตอบโจทย์ของซอฟต์แวร์ในยุคนี้
และนี่คือ การปฏิวัติตัวเองจากธุรกิจซอฟต์แวร์ยุคเก่า การจะรวมทุกอย่างไว้กับตัวเองกำลังจะกลายเป็นปัญหาใหญ่
เมื่อธุรกิจทั่วโลกเลือก Cloud ต้องไปไกลกว่า Cloud ให้ได้
ทางออกของซอฟต์แวร์ยุคเก่าคือ ต้องปรับตัวเองไปอยู่บน Cloud ให้เช่าใช้ หรือเลือกขายกิจการให้บริษัทต่างชาติ แต่ Netka เลือกจับมือกับพันธมิตร Infinities Soft ที่เก่งซอฟต์แวร์บริหารจัดการ Cloud การมาของพันธมิตรรายนี้ เกิดจากผู้ใหญ่ในรัฐบาลไทยไปเจอบริษัทในต่างประเทศแล้วเกิดติดใจ เชื้อชวนให้เข้ามาช่วยเหลือประเทศไทย แต่เป็นในมุมที่จะให้มาแข่งขันกับบริษัทซอฟต์แวร์ไทยที่มีอยู่บางราย
การจับมือกับบริษัทซอฟต์แวร์คลาวด์ระดับโลกเช่นนี้ในทางธุรกิจนั้นง่ายมาก เพราะส่งผลดีต่อทั้งคู่ เนื่องจากการขายซอฟต์แวร์ end to end solution กำลังเป็นที่ต้องการของลูกค้า
ถามว่าต้องการอย่างไร ขอยกตัวอย่าง SCG เป็นองค์กรใหญ่ มีระบบไอทีของตัวเอง และต้องการระบบบริหารระบบไอทีของ Netka เป็นพื้น และใช้ซอฟต์แวร์ของ Infinities Soft บริหารระบบ Cloud ทำให้ทั้ง 2 บริษัทสามารถขายงานได้พร้อมกัน และในตลาดตอนนี้ คนที่ทำแบบนี้ได้ทั่วโลกมีไม่กี่ราย
สิ่งที่ยากคือ Netka และ infinities Soft ต้องทำให้ซอฟต์แวร์ของทั้งคู่ทำงานร่วมกันได้แบบไร้รอยต่อ
ประสบการณ์ครั้งนี้สอนให้ Netka รู้ว่า การหวงตัวเองไว้สร้างอาณาจักรเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ดังนั้นต้องหาคนเก่งมาต่อเติมสินค้าของตัวเองเพื่อขยายฐานออกไป และการเลือกเส้นทางต้องไปให้เร็วอย่าลังเล ไม่งั้นมีตกขบวน
สรุปบทเรียนซอฟต์แวร์ไทย โกอินเตอร์แบบมียุทธศาสตร์
การจับคู่ Netka และ Infinities Soft ไม่จบเพียงเท่านั้น เพราะได้จับมือกับ Touch Technology ที่เก่งด้านบริหารระบบ Wi-Fi เข้ามาด้วยอีกหนึ่ง เปิดซอฟต์แวร์กัน แล้วมาเชื่อมต่อกันทีเดียวให้ครบ จะได้ไม่เสียเวลา
งานนี้ตรงกับนโยบายของ สมาคมผู้ส่งออกซอฟต์แวร์ไทย หรือ TSEP มีสมาชิกเป็นซอฟต์แวร์ไทยหลายตัวที่ไปลุยตลาดโลกมาหมด รู้ว่าผลงานซอฟต์แวร์ของคนไทยไม่ได้เป็นรอง ถ้าสามารถจับมือร่วมกันเป็น Solutions จะมีส่วนช่วยด้านธุรกิจและการทำตลาดได้มหาศาล
ปัจจุบันเน็ตก้ากำลังก้าวข้ามการเป็นซอฟต์แวร์โลกเก่า การขับเคลื่อนผ่านนโยบายสร้างพันธมิตร การออกลุยต่างประเทศคว้างานบริหารเน็ตเวิร์คให้สนามบินหลายแห่งทั่วโลกในขณะนี้ กำลังทำให้ซอฟต์แวร์โลกเก่าตัวนี้เนื้อหอม ไม่จำเป็นต้องเป็น Startup ที่รอ VC เพื่อทำการ Exit
แต่ต้องเลือกก้าวข้ามความเป็นเถ้าแก่คนเดียว มาเป็นบริษัทข้ามชาติที่มีพันธมิตรทุกแนวรองรับอยู่ทุกตลาดก็เป็นแนวทางการสร้างความยั่งยืนให้วงการซอฟต์แวร์ไทยได้ และ Netka กำลังทำให้ซอฟต์แวร์ของไทยได้ดูเป็นตัวอย่าง
Credit Images: Netka, Touch, Infinities Soft
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา