เพื่อชีวิตที่ดีกว่า! Nestle นำผล DNA มนุษย์มาผลิตอาหารเฉพาะบุคคล หวังช่วยแก้ปัญหาสุขภาพ

อย่างที่รู้กันว่าหลายประเทศกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ประกอบกับหนุ่มสาวยุคปัจจุบันก็ใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น จึงเป็นที่มาของกลยุทธ์ใหม่ Nestle ที่เตรียมพัฒนาอาหารเฉพาะบุคคล ผ่านการนำผล DNA มาวิเคราะห์

เริ่มต้นในประเทศญี่ปุ่น ก่อนกระจายไปทั่วโลก

สำหรับการนำผล DNA มาวิเคราะห์เพื่อสร้างเมนูอาหารเฉพาะบุคลลนั้น Nestle จะเริ่มในประเทศญี่ปุ่นก่อน โดยตอนนี้มีผู้สนใจกว่า 1 แสนคนให้ความสนใจ และทาง Nestle ก็ส่งอุปกรณ์ให้พวกเขาเก็บตัวอย่าง DNA ถึงที่บ้าน รวมถึงกระตุ้นให้พวกเขาใช้งาน Application เฉพาะเพื่อส่งรูปภาพอาหารที่รับประทานในแต่ละวัน

ขณะเดียวกัน Nestle มีการแนะนำเมนูอาหาร และส่งวัตถุดิบให้พวกเขารับประทาน หรือนำไปปรุงเป็นอาหารเองอีกด้วย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือชา แต่การเดินหน้าโครงการดังกล่าวเหมือนจะไม่ใช่ครั้งแรกที่ Nestle พยายามวางตัวเป็นบริษัทอาหาร และบริษัทยารักษาโรค

เพราะตั้งแต่เดือนธ.ค. 2559 ในยุคที่ Peter Brabeck-Letmathe ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ก็มีการวางวิสัยทัศน์ของบริษัทว่าต้องการเดินหน้าสร้างเมนูอาหารเฉพาะบุคคล เพราะถือเป็นเรื่องอนาคตที่ต้องไป และหากอาหารเหล่านั้นสามารถรักษาโรคต่างๆ ได้ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่

คิดใหม่ทำใหม่เพื่ออนาคตของวงการ

แม้ว่าประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนนี้จะออกจากตำแหน่งไปแล้ว แต่ Nestle ก็ยังเดินหน้าวิสัยทัศน์ดังกล่าวอยู่ เนื่องจากทิศทางผู้บริโภคในปัจจุบัน โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา และยุโรป ที่ค่อนข้างหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่อยู่ในบรรจุภัณฑ์ เพราะค่อนข้างกังวลเรื่องสารบนเบื้อน และเป็นห่วงเรื่องโภชนาการที่ไม่ถูกต้อง

โดย Nestle เองเริ่มรับรู้ว่ายอดขายอาหารแช่แข็งในสหรัฐฯ เริ่มลดลง เช่นเดียวกับแบรนด์อาหารสำเร็จรูปอื่นๆ เช่น General Mills และ Kellogg’s ที่มียอดขายอาหารเช้าลดลง รวมถึง Coca-Cola และ Pepsico ที่เริ่มรู้สึกว่ายอดขายน้ำอัดลมไม่ได้ดีเหมือนเมื่อก่อน

จึงไม่แปลกที่หลากหลายบริษัทเริ่มคิดใหม่ทำใหม่เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ดึงดูดให้ผู้บริโภคกลับมาซื้อสินค้าของตัวเองอีกครั้ง โดย Nestle เริ่มมีการปรับวัตถุดิบในอาหารสำเร็จรูปต่างๆ และเพิ่งขายกิจการลูกอมในสหรัฐไปเมื่อต้นปีนี้ แถมล่าสุดยังเพิ่งเซ็นสัญญากับ Starbucks เพื่อรับสิทธิ์ในการจำหน่ายชา และกาแฟให้อีกด้วย

สรุป

จริงๆ แล้วไม่ใช่แค่ปรับสูตรอาหาร แต่ Nestle ยังเข้าซื้อกิจการเกี่ยวกับการแพทย์เพื่อช่วยวิจัยให้อาหารใหม่ๆ นั้นถูกหลักโภชนาการ และช่วยให้มนุษย์มีอายุยืนยาวมากขึ้นด้วย ดังนั้นคงต้องรอว่าการนำผล DNA มาวิจัยเพื่อสร้างอาหารตัวใหม่ในแต่ละบุคคลจะสำเร็จแค่ไหน และตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้จริงหรือไม่

อ้างอิง // Quartz, ภาพ Nestle

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา