ตลาดกาแฟระอุขึ้นทุกขณะ ส่วนหนึ่งเป็นทั้งคนไทยนิยมดื่มกาแฟมากขึ้น และกระแสการชงกาแฟดื่มเองแบบช่วงที่ผ่านมาลดบทบาทลง เปลี่ยนมาเข้าร้านกาแฟแทน ทำให้ เนสกาแฟ ต้องปรับกลยุทธ์ใหม่ หันมาเปิดร้านกาแฟในลักษณะ Corner ให้หนุ่มสาวออฟฟิศแวะซื้อ และล่าสุดก็รุกตลาดหนักขึ้นกับ เนสกาแฟ ดอลเช่ กุสโต้ (NESCAFÉ Dolce Gusto) เครื่องชงกาแฟแคปซูล เพื่อผลักดันให้คนไทยชงกาแฟสดคั่วบดกันเองมากขึ้น
ปรับราคาแคปซูลลง 25% กาแฟสดราคาเริ่มต้นแก้วละ 16 บาท
แวลดดิสลาฟ อังดรีฟ ผู้อำนวยการบริหารธุรกิจผลิตภัณฑ์กาแฟและครีมเทียม บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด บอกว่า เนสกาแฟ เริ่มทำตลาดเครื่องชงกาแฟแคปซูล เพื่อให้นักดื่มกาแฟได้สนุกกับการชงกาแฟสดได้ง่ายๆ สะดวกทั้งในบ้านและที่ทำงาน แต่ต้องยอมรับว่าตั้งแต่เริ่มทำตลาดปี 56 มีการใช้งานในครัวเรือนประมาณ 3% ของกลุ่มเป้าหมาย
เนสกาแฟ จึงปรับกลยุทธ์ใหม่ มีการดีไซน์เครื่องให้ดูสวยงามทันสมัย และปรับราคาแคปซูล เนสกาแฟ ดอลเช่ กุสโต้ ลดลง 25% ตั้งแต่เดือนกันยายน 2561 นี้เป็นต้นไป ซึ่งหมายถึงผู้บริโภคสามารถเพลิดเพลินกับกาแฟสดคุณภาพเยี่ยมได้ในราคาเริ่มต้นแก้วละ 16 บาท และปรับเป้าเพิ่มยอดขายให้ได้ 20% (จากปัจจุบันอยู่ที่ 3%)
นอกจากนี้ ยังกระตุ้นตลาดด้วยแพ็คเกจรายเดือน พร้อมส่วนลด 10% ส่งถึงบ้านหรือที่ทำงาน ราคาเร่ิมต้น 672 บาทต่อเดือน โดยปัจจุบันมีสมาชิกวก่า 4,000 รายในไทย
เน้น 3 จุดเด่น กับ 13 เมนูหลากหลาย
เนสกาแฟ ดอลเช่ กุสโต้ เน้นจุดเด่น 3 ส่วน คือ สะดวกสบาย เมนูหลากหลาย และความสดใหม่ของกาแฟส ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์กาแฟสดคั่วบดและเครื่องดื่มต่างๆ จำหน่ายในประเทศไทยทั้งหมด 13 เมนู ประกอบด้วย เอสเพรสโซ่ คาปูชิโน่ อเมริกาโน่ รวมทั้งช็อคโกแลต และชา เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เพิ่งมีการเปิดตัวเครื่องชงกาแฟรุ่นใหม่ อินฟินิสซิม่า (Infinissima) ซึ่งมีดีไซน์รูปทรงที่ได้แรงบันดาลใจจากสัญลักษณ์อินฟินิตี้ และเปิดตัวเครื่องดื่มกาแฟเมนูใหม่ คอร์ทาโด้ เอสเพรสโซ่ แม็คคิอาโต้ (Cortado – Espresso Macchiato) ซึ่งเป็นกาแฟที่รังสรรค์จากเอสเพรสโซ่ช็อตเข้มตัดรสด้วยนมเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความลงตัวที่นุ่มนวล
ในช่วงต้นปี 2561 ที่ผ่านมา เนสกาแฟ ดอลเช่ กุสโต้ ได้มีการปรับสูตรเครื่องดื่มกาแฟสด ให้โดนใจผู้บริโภคมากขึ้นเช่น เมนูอเมริกาโน่ และเอสเพรสโซ่อินเทนโซ่ เพื่อให้สอดคล้องกับรสนิยมของผู้บริโภคไทยซึ่งชื่นชอบกาแฟที่มีรสชาติเข้มข้น โดยกาแฟอเมริกาโน่ และเอสเพรสโซ่อินเทนโซ่ สูตรใหม่ ซึ่งมีความลงตัวยิ่งขึ้นทั้งในด้านความหอมและรสชาติ
ในญี่ปุ่น เนสกาแฟ ดอลเช่ กุสโต้ มีส่วนแบ่งตลาด 77% เนื่องจากคนญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับคุณภาพและสไตล์ และชอบการใช้งานเครื่องที่สะดวก
สรุป
เนสกาแฟ เคยครองความเป็นอันดับ 1 อย่างชัดเจนกับกาแฟชง และกาแฟชงสำเร็จ แต่พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนมาดื่มกาแฟนอกบ้านแทน กำลังสร้างผลกระทบให้กับเนสกาแฟอย่างต่อเนื่อง การปรับกลยุทธ์ทั้งเปิดร้านกาแฟ ปรับสูตรกาแฟ ขยายตลาดกาแฟสด และเครื่องชงกาแฟ เป็นสิ่งที่เนสกาแฟ ต้องเร่งทำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่วนผลจะออกมาน่าพอใจหรือไม่ ต้องติดตาม
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา