NBA ขายสิทธิ์ยิงสด 11 ปี มูลค่า 77,000 ล้านเหรียญ ให้ Walt Disney, NBCUniversal และ Amazon.com

NBA ประกาศผู้ชนะสิทธิ์ในการแพร่ภาพการแข่งขันในสหรัฐอเมริกา และทั่วโลก ให้กับ ESPN , NBCUniversal และ Amazon.com ดีลดังกล่าวคิดเป็นมูลค่า 77,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2.78 ล้านล้านบาท กินระยะเวลา 11 ปี มีบริษัทที่หลุดไปคือ TNT Sports ที่มีแพร่ภาพ NBA มานาน 40 ปี และมีรายสำคัญจากการแข่งขันนี้

Basketball
ภาพจาก Pixabay

NBA ประกาศดีลยักษ์มูลค่า 77,000 ล้านเหรียญ

สำนักข่าว Reuters รายงานว่า ลิขสิทธิ์การแพร่ภาพของ NBA นับตั้งแต่ฤดูกาล 2025-26 ไปอีก 11 ปี ได้ถูกประกาศออกมาแล้ว โดยมี ESPN บริษัทในเครือ Walt Disney, NBCUniversal บริษัทในเครือ Comcast และ Amazon.com เป็นผู้คว้าสิทธิ์ดังกล่าว รวมเป็นมูลค่า 77,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2.78 ล้านล้านบาท

การประกาศครั้งนี้มีข่าวหลุดว่า NBA ปฏิเสธข้อเสนอในช่วงสุดท้ายจาก TNT Sports บริษัทในเครือ Warner Bros Discovery ถือเป็นการสิ้นสุดความสัมพันธ์กว่า 40 ปี โดยฤดูกาล 2024-25 จะเป็นฤดูกาลสุดท้ายที่ TNT Sports จะแพร่ภาพกีฬาดังกล่าว

Adam Silver ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NBA แจ้งว่า ข้อตกลงล่าสุดกับ Disnet, NBCUniversal และ Amazon จะช่วยเพิ่มการเข้าถึงของการแข่งขัน NBA ให้กับผู้ชมในสหรัฐอเมริกา และทั่วโลก ผ่านหลายรับชมได้หลากหลายแพลตฟอร์ม และช่วยให้ลีกปรับเปลี่ยนให้รับกับพฤติกรรมของผู้ชมในทศวรรษหลังจากนี้

โอลิมปิกปารีสปี 2024: คนไม่นิยมดูทีวี รายได้ขายลิขสิทธิ์อาจหดหาย คนย้ายไปดูออนไลน์กันหมดแล้ว

TNT Sports เตรียมฟ้องร้องแน่นอน

จากข่าวดังกล่าว TNT Sports ได้แจ้งในแถลงการณ์ว่า มีการตีความผิดในข้อเสนอด้านลิขสิทธิ์ที่เราต้องการตั้งแต่ฤดูกาล 2025-26 เป็นต้นไป และจะมีการดำเนินงานเพื่อแก้ไขเรื่องนี้แน่นอน เพราะหากดูความสำคัญของ NBA กับ Warner Bros Discovery จะพบว่า การแข่งขันนี้ทำรายได้สำคัญตลอด 40 ปี ผ่านค่าโฆษณาจำนวนมาก

David Zaslav ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Warner Bros. Discovery ยังหวังว่า บริษัทจะสามารถทำข้อตกลงกับ NBA และสามารถเผยแพร่การแข่งขันนี้บน Max และ TNT ได้ ส่วน Tom Forte นักวิเคราะห์อาวุโสกลุ่มลูกค้าอินเทอร์เน็ต Maxim Group แจ้งว่า ลีกกีฬาชั้นนำให้ความสำคัญกับบริษัทที่จ่ายสูงสุดทั้งในปัจจุบัน และอนาคต

ด้าน Ross Benes นักวิเคราะห์ด้านสื่อโทรทัศน์ และสตรีมมิง ของ Emarketer มองว่า การฟ้องร้องอาจเกิดขึ้นหลังจากนี้ แต่ค่อนข้างมีความเสี่ยง เพราะถึง Warner Bros. Discovery ชนะ และได้สิทธิ์ NBA กลับมา แต่คงทำ NBA โกรธเคือง และทำงานด้วยกันได้ลำบาก รวมถึงลีกกีฬาอื่น ๆ อาจกังวลต่อการทำธุรกิจร่วมกับ TNT ด้วย

Amazon.com ถือสิทธิ์กีฬาชั้นนำในสหรัฐฯ

ข่าวดังกล่าวยังทำให้ NBA กลายเป็นอีกกีฬายักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกาที่ให้ลิขสิทธิ์กับ Amazon.com โดยก่อนหน้านี้มี NFL และ NASCAR ที่ให้สิทธิ์ตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป ซึ่ง Mike Hopkins หัวหน้าธุรกิจ Prime Video และ Amazon MGM Studios แจ้งว่า เครือข่ายสตรีมมิงของบริษัทใหญ่กว่าเครือข่ายเคเบิลในสหรัฐอเมริกาแล้ว

“ตัวเลขดังกล่าวทำให้การเข้าถึงนั้นทำได้มากขึ้น นอกจากนี้ตัวฐานผู้ชมการแข่งขัน Thursday Night Football ยังมีอายุต่ำลงเช่นกัน” Mike กล่าว โดยทาง Amazon ได้สิทธิ์แพร่ภาพ 66 นัด ของฤดูกาลปกติบน Prime Video รวมถึงอย่างน้อยหนึ่งเกมในวัน Black Friday รวมถึงได้สิทธิ์แพร่ภาพรอบชิงแชมป์สายอีก 5 ฤดูกาล

ทั้งนี้ WNBA หรือ NBA ลีกผู้หญิง ได้ประกาศเช่นกันว่า ทางลีกได้ต่อสัญญากับ Disney และ Amazon รวมถึงทำสัญญาใหม่กับ NBAUniversal โดยสัญญาทั้งหมดนี้จะทำให้มีการแพร่ภาพการแข่งขันมากกว่า 125 นัด ทั้งฤดูกาลปกติ และเพลย์ออฟ

เจาะรายละเอียดของลิขสิทธิ์ NBA ใหม่

สำหรับรายละเอียดของข้อตกลงใหม่ ESPN จะได้สิทธิ์ในการแพร่ภาพ 80 นัด ของฤดูกาลปกติ รวมถึงการแข่งขันอีก 20 เกม บน ABC Network อีกธุรกิจในเครือ Walt Disney โดย ABC จะยังเป็นช่องทางเดียวที่จะแพร่ภาพ NBA Finals หรือการแข่งขันนัดชิง ซึ่งเป็นมาตั้งแต่ปี 2003

ส่วน NBCUniversal จะได้สิทธิ์แพร่ภาพ 100 นัด ในฤดูกาลปกติ โดยมากกว่าครึ่งหนึ่งจะแพร่ภาพบน NBC ส่วนบริการในเครืออย่าง Peacock จะได้สิทธิ์สตรีมมิงบนแพลตฟอร์มทุกคืนวันจันทร์ โดยจะเป็นการแข่งขันของคู่เดิม เพราะ NBA มีการพบเจอกับทีมเดิมหลายนัด

NBC จะแพร่ภาพทางโทรทัศน์ 1 ใน 2 การแข่งขัน Conference Finals หรือรอบชิงแชมป์สาย ในสัดส่วน 6 จาก 11 ปี ผ่านการสลับกับ Amazon.com ส่วนแอปพลิเคชัน NBA ยังเป็นช่องทางในการเข้าถึงการถ่ายทอดสดได้เหมือนกับที่ผู้ชมในสหรัฐอเมริการับชมผ่านเครือข่าย Walt Disney, NBCUniversal และ Amazon.com

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา