เมื่อบัตร Sold Out ในไม่กี่นาที คือ Pain Point ที่นำมาสู่โอกาส! เจาะลึกวิธีคิด GMM SHOW ทำไมต้องขยายอาณาจักรสู่ นั่งเล่นกาญ

หากพูดถึงเทศกาลดนตรีที่บัตร หายาก และ ขายดี ที่สุดงานหนึ่งของประเทศไทย ชื่อของ นั่งเล่น มิวสิก เฟสติวัล (Nanglen Music Festival) จะต้องติดอยู่ในลิสต์ลำดับต้น ๆ อย่างแน่นอน

ภาพจำของงานเทศกาลดนตรีท่ามกลางหุบเขา อากาศหนาวช่วงปลายปี ที่รายล้อมไปด้วยกลุ่มคนวัยทำงานแต่งตัวเก๋ ๆ มานั่งปูเสื่อ พักผ่อน สังสรรค์ กลายเป็นหมุดหมายสำคัญที่คนนับหมื่นต้องไปเช็กอิน จนสร้างปรากฏการณ์ บัตร Sold Out อย่างรวดเร็วในไม่กี่นาที ติดต่อกันมาหลายปี

แต่ในมุมของคนทำธุรกิจ เมื่อ Demand (ความต้องการซื้อ) มีมากกว่า Supply (จำนวนบัตร) มหาศาล ทางออกทั่วไปอาจจะเป็นการขยายพื้นที่ เพิ่มจำนวนคน หรือเพิ่มรอบการแสดง แต่สำหรับ GMM SHOW ภายใต้การนำทีมของ IDEA FACT พวกเขากลับเลือกที่จะ ไม่เพิ่มคน แต่เลือกที่จะ สร้างเมืองใหม่ แทน

นี่คือที่มาของโปรเจกต์ใหม่ล่าสุด นั่งเล่นกาญ ที่จะปักหมุด ณ กาญจนบุรี ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2026

Brand Inside มีโอกาสพูดคุยกับ ศักดิ์สกุล แก้วมาตย์ Vice President-Showbiz Promoter แห่ง IDEA FACT ผู้ปลุกปั้นแบรนด์ นั่งเล่น มาเจาะลึกเบื้องหลังวิธีคิดทางธุรกิจ การมองหา Blue Ocean ในน่านน้ำใหม่ และกลยุทธ์การสร้าง Ecosystem ที่ทำให้ Music Festival ไม่ใช่แค่คอนเสิร์ต แต่คือฟันเฟืองขับเคลื่อนเศรษฐกิจเมืองรอง

ความสบาย คือ Core Product จึงรับคนเพิ่มไม่ได้

ความสำเร็จของ นั่งเล่น มิวสิก เฟสติวัล ที่เขาใหญ่ ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน แต่เกิดจากการเรียนรู้และปรับตัวมาตลอด 9 ครั้ง เริ่มตั้งแต่การต่อยอดคอนเสิร์ต Bodyslam นั่งเล่น มาสู่เทศกาลดนตรีครั้งแรกที่สวนผึ้ง ก่อนจะย้ายมาปักหลักที่เขาใหญ่ และค่อย ๆ สั่งสมฐานแฟนคลับจนเหนียวแน่น

ศักดิ์สกุล เล่าถึงเบื้องหลังตัวเลข Sold Out ในไม่กี่นาทีว่า แม้ความต้องการบัตรจะมีสูงมาก แต่ทางผู้จัดยืนยันที่จะ จำกัดจำนวนผู้ชมไว้ที่หลักหมื่นคน

“ไลฟ์สไตล์ มิวสิค เฟสติวัล ของผม ผมจะจำกัดจำนวนคน เพราะถ้าคนเยอะเกินไป เราจะดูแลลำบาก ทุกอย่างต้องเยอะขึ้น ทั้งร้านอาหาร ห้องน้ำ ที่จอดรถ พอคนเยอะมาก ๆ มันจะดูไม่ชิล ซึ่งผิดคอนเซปต์ของงานนั่งเล่น”

จุดแข็งของแบรนด์ นั่งเล่น ที่แตกต่างจากเทศกาลดนตรีอื่น ๆ คือ Facility หรือความสะดวกสบาย ทางทีมงานให้ความสำคัญกับเรื่องพื้นฐานที่หลายคนมองข้ามอย่างหนักหน่วง เช่น การคำนวณห้องน้ำต่อหัว การเตรียมที่จอดรถที่รองรับได้กว่า 10,000 คัน และความสะดวกในการเดินเข้างาน

เมื่อ ความสบาย คือสินค้าหลักที่ขายควบคู่กับดนตรี การอัดคนเข้าไปจึงไม่ใช่คำตอบ โจทย์จึงเปลี่ยนเป็น ถ้าเพิ่มคนในงานเดิมไม่ได้ ก็ต้องสร้างงานใหม่ในพื้นที่ใหม่

ทำไมหวยถึงออกที่ กาญจนบุรี

เมื่อโจทย์คือการขยายพื้นที่ ทาง GMM SHOW จึงกางแผนที่ประเทศไทยดูและพบว่า ในภาคเหนือมีคอนเสิร์ต เชียงใหญ่เฟส ภาคอีสานมี เฉียงเหนือเฟส และ บิ๊กเมาน์เท่น ภาคใต้มี พุ่งใต้เฟส ภาคตะวันออกมี ร็อคออนเดอะบีช แต่ ภาคตะวันตก ยังเป็นพื้นที่ว่างที่ยังไม่มีเฟสติวัลระดับแม่เหล็กไปปักหมุด

และ กาญจนบุรี คือคำตอบที่ใช่ที่สุด ด้วย Data และ Insight สำคัญ 3 ประการ

  1. Traffic มหาศาล: ข้อมูลที่น่าสนใจคือ กาญจนบุรีเป็นจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าพื้นที่กว่า 10 ล้านคนต่อปี มากเป็นอันดับ 3 ของประเทศ รองจากกรุงเทพฯ และชลบุรี เราจึงเห็นโอกาสในการจัดงาน “นั่งเล่น” ที่จังหวัดนี้
  2. กาญจนบุรีโฉมใหม่: ภาพจำของกาญจนบุรีที่เป็นเมืองประวัติศาสตร์หรือล่องแพแบบเดิม ๆ ได้เปลี่ยนไปแล้ว กาญจนบุรีในวันนี้เต็มไปด้วย รีสอร์ตสวย ๆ ดีไซน์ทันสมัย คาเฟ่ชิค ๆ และร้านอาหารเก๋ ๆ จำนวนมาก ซึ่งตรงกับจริตและไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายงานนั่งเล่น (กลุ่มคนทำงาน) ที่ชอบถ่ายรูปและเปลี่ยนบรรยากาศพักผ่อน
  3. ปัจจัยบวกด้านโครงสร้างพื้นฐาน: การมาของ มอเตอร์เวย์ M81 (บางใหญ่ – กาญจนบุรี) คือจุดเปลี่ยนสำคัญ จากเดิมที่การเดินทางไปกาญจนบุรีอาจใช้เวลานาน พอมีมอเตอร์เวย์ การเดินทางจากกรุงเทพฯ จะเหลือเพียงไม่เกิน 1 ชั่วโมง และจากทางลงมอเตอร์เวย์มาถึงหน้างานใช้เวลาเพียง 30 นาที ซึ่งถือว่าสะดวกกว่าการเดินทางไปเขาใหญ่ในช่วงเทศกาลเสียอีก

“เราไปเซอร์เวย์แล้วรู้สึกชอบเมืองกาญจน์ 1. โลเคชั่นกว้างใหญ่ จัดงานได้ 2. แม้ไม่ติดเขาจัง ๆ แต่มีภูเขาล้อมรอบ 3. ที่พักเยอะและสวยมาก เหมาะให้คนไปพักผ่อนต่อได้จริง ๆ ไม่ใช่แค่มาดูคอนเสิร์ตแล้วกลับ”

ดีไซน์งานแบบ พี่น้อง ผ่าน DNA เดียวกัน แต่คนละรสชาติ

ความท้าทายของการขยายแบรนด์คือทำอย่างไรให้คนรู้สึกคุ้นเคย แต่ไม่รู้สึกซ้ำซาก โจทย์ของ นั่งเล่นกาญ จึงถูกออกแบบมาภายใต้แนวคิด เปลี่ยนที่นั่งเล่น

ศักดิ์สกุล ขยายความว่า ทั้งสองงาน (เขาใหญ่ และ กาญจนบุรี) จะยังคงแชร์ DNA เรื่อง ความสบาย และ ความปลอดภัย เหมือนเดิม แต่จะนำเสนอประสบการณ์ผ่าน Visual & Atmosphere ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

  • นั่งเล่นเขาใหญ่: เน้นความสวยงามของกลางวัน (Daytime) ดอกไม้ ธรรมชาติ และความสดใส
  • นั่งเล่นกาญ: เน้นเสน่ห์ของยามค่ำคืน (Nighttime) การเล่นกับ Lighting Design แสงสี และบรรยากาศสุดโรแมนติกรับวันวาเลนไทน์

“เราไม่อยากให้แฟนคลับต้องเลือกว่าจะไปที่ไหน แต่อยากให้ไปทั้งสองที่ เพราะบรรยากาศมันต่างกัน เขาใหญ่จะสวยกลางวัน ดอกไม้บานสะพรั่ง แต่ที่กาญจน์ เราอยากให้เป็น Night Life ที่มี Lighting สวย ๆ ถ่ายรูปกลางคืนได้ระยิบระยับ”

นอกจากนี้ การเลือกจัดงานในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2569สวนไทรโยคแลนด์ ยังเป็นการวางกลยุทธ์ด้าน Timeline ที่เหมาะสม เพราะเป็นช่วงที่อากาศยังดี ไม่ร้อนจนเกินไป และเป็นช่วงหลังปีใหม่ที่คนเริ่มโหยหาที่เที่ยวอีกครั้ง

นั่งเล่น Culture ชุมชนคุณภาพที่ดูแลกันเอง

สิ่งหนึ่งที่เป็น Asset ล้ำค่าที่สุดของแบรนด์นั่งเล่น และเป็นสิ่งที่ GMM SHOW ภูมิใจ คือ คุณภาพของผู้ชม

จากการเก็บข้อมูลตลอด 9 ปีที่ผ่านมา พบว่ากลุ่มลูกค้าเป็นคนทำงานที่มากันเป็นกลุ่มเพื่อน และได้สร้างวัฒนธรรมเฉพาะตัวที่เรียกว่า นั่งเล่น Culture ขึ้นมา

  • Zero Violence: เป็นงานที่ไม่เคยมีการทะเลาะวิวาท
  • Self-Policing: ผู้ชมช่วยเป็นหูเป็นตาดูแลความเรียบร้อย เช่น หากพบคนสูบบุหรี่ในพื้นที่ห้ามสูบ ลูกค้าจะไม่เข้าไปปะทะเอง แต่จะ Inbox แจ้งเพจทันทีเพื่อให้เจ้าหน้าที่ไปจัดการ
  • Friendly Vibe: มีรีวิวจำนวนมากระบุว่า แม้มาคนเดียวก็ได้เพื่อนกลับไป เพราะบรรยากาศมีความเป็นมิตรสูง

“คนนั่งเล่นเขาหวงแหนเฟสติวัลของเขา เขามองว่านี่คือพื้นที่ของเขา ถ้ามีอะไรผิดแปลกไป เขาจะรีบแจ้งเราทันที ซึ่งมันช่วยให้เราทำงานง่ายขึ้น และรักษามาตรฐานความปลอดภัยไว้ได้”

Festival Economy อีเวนต์สร้างเงินหมุนเวียน 3,500 ล้านบาท

ในมิติของเศรษฐกิจ เทศกาลดนตรีคือหนึ่งในเครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นที่มีประสิทธิภาพที่สุด

ศักดิ์สกุล เผยว่า หน้าที่ของ GMM SHOW คือการ ถล่มคน หรือพาคนนับหมื่นคนเข้าไปในพื้นที่ เพื่อสร้าง Ecosystem ให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นได้คว้าโอกาส

ข้อมูลตัวเลขล่าสุดจากฝ่ายการตลาดตอกย้ำถึงอิมแพ็คนี้อย่างชัดเจน โดยระบุว่า ในปี 2025 เพียงปีเดียว การจัด Music Festival ในต่างจังหวัดของ GMM SHOW รวม 9 งาน (ซึ่งยังไม่นับรวมงานใหญ่อย่าง Big Mountain ครั้งที่ 15 และ นั่งเล่น ครั้งที่ 9) สามารถสร้างเงินสะพัดหมุนเวียนให้กับจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศได้สูงถึง 3,500 ล้านบาท

เงินจำนวนมหาศาลนี้กระจายไปยัง:

  • โรงแรมและที่พัก: ที่มักจะถูกจองเต็มล่วงหน้าข้ามเดือนและสามารถขยับราคาได้ตาม Demand
  • ร้านอาหารและคาเฟ่: ที่จะได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวจำนวนมากภายในสุดสัปดาห์เดียว
  • การจ้างงานท้องถิ่น: การใช้วัสดุอุปกรณ์ หรือจ้างแรงงานในพื้นที่

“เราเคยเห็นโมเดลนี้สำเร็จมาแล้วที่ชะอำ (นั่งเล) ที่โรงแรมยิ้มกันทั้งเมือง หรือที่เขาใหญ่ที่มีโซน OTOP เข้ามาขายของ สำหรับกาญจนบุรี การมีงาน นั่งเล่นกาญ จะช่วยเติมเต็มปฏิทินการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในช่วงต้นปี ซึ่งจะช่วยดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูงให้เข้ามาจับจ่ายใช้สอย”

ก้าวต่อไปของ IDEA FACT ในฐานะผู้นำ Lifestyle Music Festival

การเปิดตัว นั่งเล่นกาญ ไม่ใช่แค่การเพิ่มงานใหม่ แต่คือการตอกย้ำ Position ของ IDEA FACT ในฐานะผู้นำตลาด Lifestyle Music Festival ของเมืองไทย

วิสัยทัศน์ของ ศักดิ์สกุล มองว่า ตลาด Music Festival ในไทยยังเติบโตได้อีก แต่กุญแจสำคัญคือ คุณภาพ และ ความยั่งยืน

“ผมไม่ได้อยากปิดกั้น อยากให้ทุกจังหวัดมี Music Festival แต่มีแล้วต้องดี เพราะถ้าจัดงานออกมาดี คนประทับใจ เขาจะบอกต่อ และเศรษฐกิจรอบข้างมันจะโตตามไปด้วย แต่ถ้าจัดไม่ดี คนเข็ดขยาด สุดท้ายงานก็เจ๊ง และจังหวัดนั้นก็จะเสียโอกาสไปเลย”

ดังนั้น แผนในอนาคตของ IDEA FACT คือการรักษามาตรฐานนี้ไว้ และขยายโมเดลนี้ไปยังพื้นที่อื่น ๆ ที่มีศักยภาพ โดยเน้นการสร้าง Ecosystem ที่แข็งแรงร่วมกับชุมชน เพื่อให้งานเทศกาลดนตรีเป็นสินทรัพย์ของจังหวัดนั้นๆ อย่างแท้จริง

14 กุมภาพันธ์ 2569 นี้ จึงไม่ใช่แค่วันวาเลนไทน์ธรรมดา แต่จะเป็นวันเริ่มต้นบทใหม่ของกาญจนบุรี กับงาน นั่งเล่นกาญ ที่ GMM SHOW การันตีว่า จะเปลี่ยนมุมมองที่คุณมีต่อเมืองกาญจน์ และเปลี่ยนประสบการณ์การนั่งเล่นของคุณไปตลอดกาล

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ครั้งใหม่นี้ไปด้วยกัน 9-11 มกราคม 2569 นี้ ซื้อบัตรพร้อมกันที่ www.TICKETIER.com และ TICKETIER Application (บัตรราคา : 2,000 บาท) แล้วมาเจอกันที่ Chang Cold Brew Cool Club Presents นั่งเล่นกาญ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2569 ณ สวนไทรโยคแลนด์ จ. กาญจนบุรี 

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ FB: Nanglen Music Festival 

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา