พลังพรีเซ็นเตอร์ของ “ณเดชน์ คูกิมิยะ” ยังมีพลัง สามารถกระตุ้นยาดขายให้น้ำดื่มสิงห์เติบโตสูงสุดในรอบ 5 ปี ควบคู่การทำสิงห์ รีวอร์ด เป็น Loyalty Program ช่วยสร้างเอ็นเกจเมนต์กับผู้บริโภค
พลังณเดชน์ยังได้ผล ช่วยสื่อสารกับผู้บริโภค
ในช่วง 2-3 ปีมานี้ได้เห็นการขยับตัวของ “น้ำดื่มสิงห์” ค่อนข้างเยอะ เพราะตลาดน้ำดื่มมีการแข่งขันสูง มีการแข่งขันด้วยราคา และโปรโมชั่น ทำให้น้ำดื่มสิงห์เองก็ไม่สามารถรักษาตำแหน่งเบอร์หนึ่งได้ตลอด โดนคู่แข่งอย่างคริสตัลไล่บี้มาตลอดทาง
ก่อนหน้านี้น้ำดื่มสิงห์ได้ออกแคมเปญใหญ่ๆ มากมาย มีการใช้กลุ่ม Influencer และพรีเซ็นเตอร์อย่าง “เจ้านาย–จิณเจษฎ์ วรรธนะสิน” และ “เจ้าขุน–จักรภัทร วรรธนะสิน” โดยมีโจทย์ใหญ่คือสร้างสีสันให้ตลาด สร้างความทันสมัยให้แบรนด์ และต้องการสื่อสารกับกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น แต่ก็ไม่ได้สร้างการเติบโตแบบหวือหวาให้แก่น้ำดื่มสิงห์มากเท่าที่ควร
ทั้งนี้เมื่อต้นปีที่ผ่านมาน้ำดื่มสิงห์ได้เล่นใหญ่ ออกแคมเปญ “ดื่ม.. สิ่งที่ใช่ให้ตัวเอง” พร้อมดึง “ณเดชน์ คูกิมิยะ” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ต้องการโปรโมทเรื่องคุณภาพของน้ำดื่ม และมาตรฐานการผลิต ด้วยระบบ Smart Micro Filter
ดูเหมือนว่าน้ำดื่มสิงห์จะเริ่มจับทางถูก เพราะหลังจากที่ได้ใช้ณเดชน์เป็นพรีเซ็นเตอร์ตั้งแต่เดือนมีนาคม ทำให้ช่วงเดือนเมษายน–พฤษภาคม มีการเติบโต 30% เป็นการเติบโตสูงสุดในรอบ 5 ปี ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นของการขายน้ำดื่มด้วย
ธิติพร ธรรมาภิมุขกุล ผู้อำนวยการกลุ่มการตลาด ธุรกิจนอนแอลกอฮลล์ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด เล่าว่า
“ที่ตัดสินใจเลือกใช้ณเดชน์เป็นพรีเซ็นเตอร์เพื่อบอกว่าน้ำดื่มแต่ละยี่ห้อไม่เหมือนกัน ต้องการสร้างการรับรู้ถึงระบบ Smart Micro Filter ของแบรนด์ ผลปรากฎว่าทำให้น้ำดื่มสิงห์มีการเติบโต 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ไม่เคยเติบโตสูงขนาดนี้ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา เป็นเพราะข้อความที่สื่อไปผู้บริโภคไม่เคยรู้มาก่อน แต่มีคนมาเล่าเรื่องที่ดี การใช้ณเดชน์มาเล่าเรื่องจึงมีผล”
นอกจากนี้น้ำดื่มสิงห์ยังได้มีดีไซน์ฉลากด้วยคาแร็คเตอร์ My Little Pony สำหรับขนาด 330 มล. เพื่อจับกลุ่มเด็กอายุตั้งแต่ 4-12 ปี โดยเริ่มใช้ครั้งแรกเมื่อปี 2018 แล้วในปีนี้ได้มีการดีไซน์ใหม่เพิ่มอีก
มีส่วนช่วยทำให้ไซส์ขนาด 330 มล. เติบโต 48% เปิดช่องทางการขายในโรงเรียนได้อีก 180 แห่ง และได้จำนวนร้านค้าใหม่เพิ่มขึ้นมากกว่า 8,000 ร้านภายใน 6 เดือน ซึ่งการใช้คาแร็คเตอร์ My Little Pony ทำให้เด็กๆ ชื่นชอบ
สิงห์ รีวอร์ด ช่วยสร้าง Loyalty ให้กับน้ำดื่ม
ถ้าบอกว่าณเดชน์เป็นพระเอกที่มาช่วยสร้างการเติบโตให้น้ำดื่มสิงห์แล้ว ตำแหน่งนางเอกคงต้องยกใหม่ “สิงห์ รีวอร์ด” เป็น Loyalty Program ในการสะสมพอยต์ใต้ฝาน้ำดื่มสิงห์ เพื่อนำไปแลกของรางวัล หรือชิงโชคต่างๆ ผ่านช่องทาง Official Account ในไลน์
โดยปกติแล้วตลาดน้ำดื่มเป็นตลาดที่ผู้บริโภคไม่มี Brand Loyalty มากนัก ถูกกระตุ้นด้วยโปรโมชั่น ณ จุดขายเสียมากกว่า ใครมีราคาถูกก็ดึงดูดใจในการหยิบออกจากตู้แช่มากกว่า
ทำให้น้ำดื่มสิงห์ดีไซน์โปรแกรมสิงห์ รีวอร์ดเพื่อมาอุดช่องว่างเหล่านั้น สร้าง Loyalty กับลูกค้าให้อยู่กันนานๆ
สิงห์ รีวอร์ดได้อยู่มา 1 ปีกว่าแล้ว มีฐานผู้ใช้ 8 ล้านราย มีการส่งรหัส 10 ล้านฝา/เดือน มียอดแอคทีฟยูสเซอร์ 100,000 คน/วัน
“การทำสิงห์ รีวอร์ดทำให้เห็นความแตกต่างจากการทำโปรโมชั่นในอดีต แต่ก่อนจะมีการทำโปรโมชั่นช่วงสั้นๆ 2-3 เดือน มีการชิงโชคแจกรางวัล ทุ่มเงินส่วนใหญ่ไปกับการทำแคมเปญช่วงหน้าร้อน แต่หลังจากทำสิงห์ รีวอร์ดทำให้มีฐานลูกค้ามากขึ้น ตอนนี้มี 8 ล้านคน เราได้ใช้ช่องทางนี้ในการสื่อสารกับผู้บริโภคได้ ไม่ต้องเสียเงินในการสื่อสารมากเหมือนแต่ก่อน เอาเงินลงทุนมาเป็นของรางวัลให้ผู้บริโภคให้มีแบรนด์ลอยัลตี้มากขึ้น”
ยังคงครองเบอร์หนึ่งในตลาดด้วยส่วนแบ่งตลาด 22.1%
หลังจากที่สร้างการเติบโตสูงสุดในรอบหลายปี น้ำดื่มสิงห์ก็กลับมาครองเบอร์หนึ่งในตลาดน้ำดื่มได้แบบทิ้งห่างคู่แข่ง ปัจจุบันมีส่วนแบ่งตลาด 22.1% คริสตัล 18.1% เนสเล่ 16% และเฮาส์แบรนด์อื่น 9.7%
ในปีนี้น้ำดื่มสิงห์ตั้งเป้าครองส่วนแบ่งตลาด 23-24% และปีหน้าเพิ่มขึ้นเป็น 25% มีการยกระดับความเข้มข้นของการตลาดอย่างแน่นอน
ธิติพรประเมินว่าตลาดน้ำดื่มในปีนี้โตมากกว่า 10% มีมูลค่า 45,000 ล้านบาทมีหลายปัจจัยประกอบทั้งแนวโน้มของการดูแลสุขภาพของผู้บริโภค การมีความรู้เรื่องการเลือกผลิตภัณฑ์ได้มาตรฐาน และผู้ผลิตรายย่อยหันมาผลิตและขายในท้องถิ่นมากขึ้น
สรุป
ตลาดน้ำดื่มหลายคนมองว่าแบรนด์ไหนก็เหมือนกันทำให้ส่วนใหญ่จะไม่มีแบรนด์ลอยัลตี้มากนักการที่น้ำดื่มสิงห์เลือกแมสเสจการสื่อสารได้ตรงจุดทำให้ผู้บริโภคมีความเข้าใจและมีลอยัลตี้กับแบรนด์มากขึ้น
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา