MyCloud มองตลาด Fulfillment เหลือแต่ตัวจริง ถ้าอยากก้าวข้าม การเข้าโครงการบ่มเพาะคือคำตอบ

เป็น Startup อีกรายที่เติบโตด้วยการไม่ต้องระดมทุน และสามารถสร้างผลกำไรให้ตนเองสำเร็จได้ สำหรับ My Cloud Fulfillment แต่ถึงจะไปถึงจุดนั้น ความจำเป็นของการเข้าโครงการ Accelerate ก็ยังจำเป็นอยู่

ภาพจาก Facebook ของ My Cloud Fulfillment

ตลาด Fulfillment เริ่มเต็ม แค่บริการดีคงไม่ได้

ปัจจุบันภาพรวมตลาดบริการ Fulfillment ครบวงจร หรือการรับเก็บ-แพ็ค-จัดส่งสินค้า นั้นเริ่มถึงจุดที่เหลือแต่ผู้เล่นตัวจริงเพียง 3-4 รายแล้ว จากก่อนหน้านี้มีนับสิบราย เพราะธุรกิจนี้เหมือนจะทำง่าย เพียงแค่มีที่เก็บของ และคนในการแพ็ค-จัดส่ง แต่จริงๆ แล้วพอหลายคนเข้ามาทำพร้อมกัน จึงเกิดสงครามราคา และคนที่สู้ไม่ไหวก็ต้องหายไป

นิธิ สัจจทิพวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อี-เอ็มพาวเวอร์เมนท์ จำกัด ผู้ให้บริการ My Cloud Fulfillment เล่าให้ฟังว่า ช่วง 2-3 ปีก่อน E-Commerce เริ่มบูม โดยเฉพาะการขายผ่าน Social Commerce บริการ Fulfillment จึงเริ่มเกิดขึ้นเยอะในประเทศไทย เพราะต้องการแก้ไขปัญหาของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์เหล่านี้

พาร์ทเนอร์ปัจจุบันของ My Cloud Fulfillment และยังมีลูกค้ารายใหญ่เช่น HP, Huawei และ IBM ที่ใช้บริการบริหาร Logistic

อย่างไรก็ตามธุรกิจนี้มีแค่พื้นที่กับคนก็ไม่เพียงพอ จำเป็นต้องมีบริการอื่นๆ ที่ตอบโจทย์ตั้งแต่ต้นจนจบ หรือพยายามเป็นแผนกรับส่งสินค้าให้กับร้านค้าเหล่านั้นให้ได้ ทำให้คนที่เล่นเรื่องราคาก็เริ่มหายไปก่อน ซึึ่งปัจจัยนี้เองทำให้บริษัทยังอยู่ในตลาดนี้ได้ แต่ถ้าทำได้แค่นี้ก็คงหยุดอยู่เท่าเดิม และขยายไปมากกว่านี้ได้ยาก

หลุดพ้นผ่าน Accelerator และพันธมิตรใหม่ๆ

“เมื่อเรามีพื้นที่คลังสินค้าเยอะ และมีบริการตั้งแต่ต้นจนจบที่ตอบโจทย์พ่อค้าแม่ค้าได้เป็นอย่างดี ทำให้ My Cloud มีลูกค้าใช้บริการประจำกว่า 150 เจ้า, มีคำสั่งใช้บริการกว่า 30,000 ครั้ง และมีการจัดส่งสินค้ารวมๆ กันก็ 90,000 ชิ้น ที่สำคัญเราคือเจ้าที่ชาร์จแพงที่สุดในตลาด เพราะเชื่อมั่นว่าบริการของตนเองนั้นแข่งขันได้”

อัตราค่าบริการที่สูงกว่าคู่แข่งในตลาดราว 3-5 บาท ทำให้หนีการแข่งขันด้วยราคาได้

ในทางกลับกัน แม้จะเติบโตอย่างรวดเร็วในระยะเวลาทำธุรกิจเพียง 2 ปี และทำกำไรได้ด้วยตัวธุรกิจเองแล้ว การจะเติบโตในตลาดนี้ต่อไปก็จำเป็นต้องมี Accelerator เข้ามาช่วย เพราะนอกจากเงินทุนที่จะนำมาพัฒนาบริการใหม่ๆ ได้แล้ว การได้พันธมิตรทางธุรกิจรายใหม่ก็เป็นอีกตัวแปรสำคัญในการขยายตลาดให้ไปได้มากกว่านี้

คู่แข่งจริงๆ ไม่ใช่ไทย แต่คือยักษ์ต่างชาติ

หากไม่นับ Acommerce และ Aden ของกลุ่ม Ascend ที่เติบโตจากไทยไปสู่อาเซียนแล้ว คู่แข่งจริงๆ ในตลาดนี้ก็คือ Alibaba และ Amazon ที่น่าจะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยเร็วๆ นี้ เพราะเมื่อมีสินค้าจากต่างชาติเข้ามา SME ไทยก็คงแข่งลำบาก ดังนั้นการเป็นเครื่องมือสำคัญของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ และเติบโตไปด้วยกันจึงจำเป็น

Digital Ventures Accelerator คือโครงการที่ My Cloud Fulfilment เลือก เพราะต้องการได้พาร์ทเนอร์ใหม่ๆ เช่นธนาคารไทยพาณิชย์

สรุป

การยืนหยัดในตลาดที่แข่งขันกันด้วยราคาหนักๆ ได้ แถมยังสามารถมีกำไรได้ด้วยตนเอง ดังนั้น My Cloud Fulfillment น่าจะมีรากฐานธุรกิจที่มั่นคงประมาณหนึ่งแล้ว อยู่ที่ว่าการได้เงินทุนครั้งนี้จะช่วยต่อยอดธุรกิจไปในทิศทางใด และสามารถขยายโอกาสไปต่างประเทศได้หรือไม่

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา